บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 31-05-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Thursday, 31 May 2018 18:23; Hits: 1532

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

สะสมหุ้นหลักคืน

Smart Pick

สะสม : BANPU

ราคาปิด 20.60 บาท

ราคาเหมาะสม 32.00 บาท

เราคาดราคาหุ้น BANPU จะตอบรับเชิงบวก หลังราคาถ่านหินล่วงหน้าทั้ง 3 ตลาดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.3% โดยถ่านหินล่วงหน้า Newcastle ล่าสุดอยู่ที่ US$108.65/ตัน

เรามองผลกระทบของ BANPU ต่อการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันนี้จำกัด เพราะมีน้ำหนักเพียง 1.1% อีกทั้งผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q61 และ Valuation ที่ถูก ซื้อขาย PER61 เพียง 7.1x ขณะที่ราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังผ่านพ้นการปรับน้ำหนัก MSCI

สะสม : PTT

ราคาปิด 51.50 บาท

ราคาเหมาะสม 59.50 บาท

หุ้นกลุ่มพลังงานมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX บวก 2.2% ปิดที่ US$68.21/barrel หลังกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC อาจยังไม่เพิ่งกำลังการผลิตน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้

ราคาหุ้นลดลง 8.9% ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ซึ่ง MSCI ประกาศลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยลง เราคาดว่าการปรับน้ำหนักในวันนี้ แม้ PTT จะมีน้ำหนักดัชนีสูงสุดถึง 14.5% แต่ปัจจัยลบระยะสั้นจะสิ้นสุดลง เป็นโอกาสในการซื้อ

สะสม : AOT

ราคาปิด 67.50 บาท

ราคาเหมาะสม 92.00 บาท

ราคาหุ้นปรับตัวลง -4.9% นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ซึ่ง MSCI ประกาศลดน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทย เราเชื่อว่าการปรับน้ำหนักดัชนีวันนี้เป็นโอกาสในการเข้าสะสม เพราะปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง

เราคงมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย และความชัดเจนต่อแผนรับบริหารสนามบินภูมิภาคอีก 4 แห่ง ได้แก่ อุดรธานี, สกลนคร, ตาก และชุมพร คาดทำเรื่องเสนอต่อกระทรวงคมนาคมในเดือน มิ.ย. เป็น Catalyst ที่รออยู่

เก็งกำไร : MINT

ราคาปิด 34.00 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 34.75-36.00 บาท

สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นทดสอบ 34.75-36.00 บาท แนวรับ 33.75 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 33.25 บาท

เราคาดราคาหุ้นมี Downside Risk ทีจำกัด หลังปรับตัวลง 23% YTD แม้การเข้าซื้อ NH Hotel จะยังปัจจัยกดดันในระยะสั้นจนกว่าจะมีความชัดเจนว่า MINT จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน NH Hotel อีกหรือไม่

Profit-Taking : N.A.

กลยุทธ์วันนี้

เข้าสู่วันทำการสุดท้ายของเดือน พ.ค. บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลกผ่อนคลายลง สะท้อนจากตลาดหุ้นยุโรป-สหรัฐฯ ฟื้นตัว และราคาน้ำมันดิบปิดบวกถึง 2% กอปรกับปัจจัยการเมืองในประเทศชัดเจนขึ้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญลงมติร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ปัจจัยสำคัญต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยในวันนี้ คือการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นเกิดใหม่ เพื่อให้ A-Share เข้าคำนวณในดัชนีวันนี้ เรามองว่า SET INDEX ที่ปรับฐานลง 2.7% นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. ซึ่งประเด็น MSCI จะสิ้นสุดลงในวันนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ SET INDEX จะสามารถฝ่าแรงขายขึ้นมาปิดบวกบริเวณ 1725-1730 จุดได้ พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น และด้วยสถิติย้อนหลัง 10 ปีล่าสุดพบว่า SET INDEX จะฟื้นตัวในเดือน มิ.ย. บ่อยถึง 7 ใน 10 ปี

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เรากลับมาแนะนำ "ทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่" ที่ปรับตัวลงแรงมาก่อนหน้านี้ จากผลกระทบของ MSCI อย่างกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / สื่อสาร / ธนาคาร / ค้าปลีก เช่น PTT / PTTEP / PTTGC / ADVANC / KBANK / BJC / CPALL เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์การเมืองในอิตาลีมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น เมื่อ 2 พรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุด (Five Star และ League) พยายามเจรจาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งครั้งใหม่ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นอิตาลีวานนี้ปิดตัวบวก 2% และ CDS Spread อายุ 10 ปีของอิตาลีลดลงกว่า 61bps

HOT Topic

1. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ…Roadmap เลือกตั้งจะเป็นอย่างไรต่อไป

2. วันนี้ดัชนี MSCI ปรับน้ำหนักดัชนี นักลงทุนควรหาจังหวะซื้อหุ้นตัวใด

3. ติดตามความคืบหน้าปัจจัยการเมืองในอิตาลี ได้แก่ ความพยายามจัดตั้งรัฐบาล และการประมูลพันธบัตรซึ่งจะสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

4. สิ้นสุดเสียที เดือน พ.ค. เดือน มิ.ย. เรามองอย่างไร?

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 และทำระดับต่ำสุดระหว่างวันที่ 1711 จุด ก่อนฟื้นตัวมาปิดที่ 1725.14 จุด ลดลง 9.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.7 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big lot หุ้น SCC มูลค่าราว 1.3 พันล้านบาท และ BJC มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 อีกราว 4.4 พันล้านบาท รวม 9 วันทำการขายสุทธิสะสมกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อยราว 351 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 3.7 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีกราว 5.5 พันสัญญา รวม 6 วันทำการ มีสถานะ Short สุทธิทั้งสิ้นกว่า 4.7 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.4 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิราว 3.3 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 1.8 พันล้านบาท รวม 5 วันซื้อสุทธิสะสมกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย. ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจาก 1Q61 และคาด GDP 2Q61 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 4%

พรรค 5 Stars Movement และ League ส่งสัญญาณไม่อยากให้มีการเลือกตั้งใหม่ และได้ยื่นคำร้องเพื่อขอถอดถอนประธานาธิบดีอิตาลีออกจากตำแหน่ง

EU เสนอห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง โดยข้อเสนอดังกล่าวจะได้รับเข้าพิจารณาในรัฐสภายุโรป และประเทศสมาชิก ภายใน พ.ค. 2562

สหรัฐฯรายงาน GDP 1Q61 ครั้งที่ 2 ขยายตัว 2.2% ต่ำกว่าการรายงานครั้งก่อนที่ 2.3%

แหล่งข่าวเผยสมาชิก OPEC และ Non-OPEC จะคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจนถึงสิ้นปี 2561 แต่พร้อมเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบอย่างค่อยเป็นค่อยไปหากจำเป็น

ธนาคารกลางรัสเซียเผยราคาน้ำมันดิบโลกที่อ่อนตัวลงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของกลุ่มสถาบันการเงินในประเทศ

OECD ปรับประมาณการ GDP โลกปี 2561 ลงเป็น 3.8% จากเดิมที่ระดับ 3.9%

สหรัฐฯ เตรียมจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากสหภาพยุโรปในวันนี้

ธนาคารกลางของอินโดนีเซียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 4.75% เป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ เพื่อหยุงค่าเงินรูเปียห์

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อยุโรป และการรายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 1.8% วันที่ 31 พ.ค.