- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 May 2018 19:49
- Hits: 1030
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรบนประเด็นบวกเฉพาะตัว
Smart Pick
สะสม BANPU
ราคาปิด 20.70 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
ราคาหุ้นลงถึง 3.3% สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรัฐบาลจีนอาจขอความร่วมมือให้เหมืองถ่านหินลดราคาขายถ่านหิน เพื่อให้ราคาถ่านหินในประเทศลดลงเหลือ 570 หยวนภายในวันที่ 10 มิ.ย.
เรามองว่าเป็นโอกาสเข้าสะสม เนื่องจากรายได้จากเหมืองถ่านหินในจีนคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของปริมาณผลิตทั้งหมด เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด และราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER2561 เพียง 7 เท่า
สะสม AAV
ราคาปิด 5.70 บาท
ราคาเหมาะสม 8.00 บาท
เราคาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินตอบรับเชิงบวก หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลงอีก 1.7% DoD ปิดที่ US$66.73/barrel จากซาอุดิอาระเบียบและรัสเซียอาจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุม OPEC วันที่ 22 มิ.ย. เพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันจากอิหร่านและเวเนซุเอลาที่ลดลง
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 คาดเติบโต +28.4% YoY เป็น 1.48 พันล้านบาท และต่อเนื่อง +19.1% YoY เป็น 1.76 พันล้านบาทในปี 2562
สะสม BJC
ราคาปิด 58.00 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของภาคบริโภคในประเทศ หลัง สศช.ปรับ GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.5% จากเดิมที่ 4.1%
ขณะที่ผลกระทบต่อการปรับน้ำหนักดัชนีของ MSCI ในวันที่ 31 พ.ค. จำกัด เพราะ BJC มีน้ำหนักเพียง 1.7% เท่านั้น ดังนั้น หากราคาหุ้นปรับตัวลงตามหุ้น Big Cap ในช่วง 2 วันนี้เป็นโอกาสในการทยอยสะสม
เก็งกำไร KBANK
ราคาปิด 195.50 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 198.00 บาท
ทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 198.00 บาท แนวรับ 193.00-194.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 192.00 บาท
ธปท.อาจสรุปประเด็นการใช้ IFRS9 ภายในสิ้นเดือน พ.ค. ว่าจะเลื่อนจากกำหนดการเดิมที่คาดว่าจะเริ่มใช้ในปี 2562 หรือไม่ หากเลื่อนออกไปจะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการตั้งสำรองให้กับกลุ่มธนาคารและเป็นบวกต่อภาพรวมกำไรของทั้งกลุ่ม
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เรามองว่าปัจจัยต่างประเทศยังมีผล Sentiment เชิงลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงไทย คาดวันนี้ SET INDEX คงหลีกเลี่ยงความผันผวนได้ยากและมีโอกาสแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับหลัก 1725 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่เรายังมองว่า SET INDEX จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาปิดยืนเหนือ 1,730 จุดได้อีกวัน
วิกฤติการเมืองในอิตาลี ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของกลุ่มอียู สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดทุนทั่วโลก หลังประธานาธิบดีอิตาลีเข้ามาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกตั้งรอบใหม่ ส่งผลให้ตลาดทุนโลกตอบรับในเชิงลบ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ/ยูโร อ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือน CDS Spread ของพันธบัตรอิตาลีอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นจาก 213bps เป็น 324bps รวมถึง VIX INDEX ดีดตัวขึ้นกว่า 28.7% แตะ 17.02 สูงสุดในรอบ 1 เดือน
ส่วนปัจจัยการเมืองภายในประเทศ บ่ายวันนี้เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หากแนวทางคำตัดสิน ใกล้เคียงกับมติต่อร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ในสัปดาห์ก่อน น่าจะทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ฟื้นกลับมาเป็นบวกได้เร็วขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนโดยรวม ยังคงแนะนำ "ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ" แต่ต้องเน้น Selective มากขึ้น และหันมาหาสะสมหุ้นขนาดกลาง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ พร้อมมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยเฉพาะหุ้น Domestic ที่มีแรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เติบโตดีกว่าคาด
HOT Topic
1. ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯปรับตัวลงแรงจากความกังวลต่อปัญหาการเมืองในอิตาลีและเศรษฐกิจยุโรป นักลงทุนความรับมืออย่างไร
2. ติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เริ่มบ่ายโมงครึ่ง
3. น้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ US$66.50/barrel ได้เวลารับคืนหุ้นกลุ่มพลังงานหรือยัง
4. MSCI ปรับน้ำหนักดัชนีพรุ่งนี้ หุ้นที่มีน้ำหนักสูง 5 อันดับแรก คือหุ้นตัวใด เป็นโอกาสซื้อ?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันจันทร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลง 6.67 จุด ปิดที่ 1734.54 จุด โดนกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ ได้แก่ PTT(-3.37%), PTTEP (-6.76%) และ PTTGC (-3.56%) กระทบดัชนีราว -10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big Lot หุ้น BJC มูลค่าราว 1.7 พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีกราว 2.9 พันล้านบาท รวม 8 วันทำการขายสุทธิทั้งสิ้นกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 1.7 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิกว่า 3.4 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 3.4 พันสัญญา รวม 5 วันทำการ มีสถานะ Short สุทธิทั้งสิ้น 4.2 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 2.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 8.2 พันสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Long สุทธิราว 407 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีกราว 4.8 พันล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
Moody's เตรียมปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี หากรัฐบาลอิตาลีไม่สามารถลดสัดส่วนหนี้สาธารณะลงได้อย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ส่งสัญญาณพร้อมเจรจาพันธสัญญาทางการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนที่นโยบายภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะประกาศใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.2561
สหรัฐฯเตรียมเปิดเผยรายชื่อสินค้าที่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน ด้วยอัตรา 25% วงเงิน 5 หมื่นล้านเหรียญฯในวันที่ 15 มิ.ย. และประกาศข้อจำกัดในการลงทุนและการส่งออกของจีนในวันที่ 30 มิ.ย.
รัฐบาลประกาศออก TOR เชิญชวนนักลงทุนภาคเอกชนเข้าร่วมการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วันนี้
FTSE ประกาศหุ้น GULF เข้าคำนวณดัชนี FTSE All World Mid Cap ซึ่งจะมีการปรับน้ำหนัก ณ ราคาปิดวันที่ 15 มิ.ย.นี้
ติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 30 พ.ค.
ติดตามการรายงาน GDP ใน 1Q61 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 2.3% วันที่ 30 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อยุโรป และการรายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 1.8% วันที่ 31 พ.ค.
ติตตามการรายงานเงินเฟ้อไทย และการรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 1 มิ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO9383