- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 May 2018 18:50
- Hits: 813
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 22/05/2018
Market Summary 22/05/2018
Close 1,760.71 Volume t57463M
Change -7.60 P/E 17.99
%Change -0.43% P/BV 2.01
Change -7.60 P/E 17.99
%Change -0.43% P/BV 2.01
หุ้นแนะนำพิเศษ
PF analyst meeting (ราคาปิด 0.92 ซื้อเก็งกำไร) ลุ้น turnaround
1Q61 มีกำไร 195 ลบ. +337% จากรายได้อสังหาฯ +57% ขณะที่รายได้ค่าเช่า -14% และรายได้ธุรกิจโรงแรม -3% จากค่าเงินบาทอ่อน ด้าน operating margin ปรับดีขึ้นเป็น 8% จาก 7.6% ใน 1Q60 net margin ดีขึ้นสู่ 5% จาก 1.5% ใน 1Q60 backlog ณ สิ้นงวด ราว 6.7 พันลบ.แบ่งเป็นคอนโด 61% แนวราบ 39% ทั้งนี้ D/E ratio ยังทรงตัวสูงที่ 2.64 เท่าใกล้เคียงปลายปี 60 โดยลดลงจาก 2.8 เท่า ณ ปลาย 1Q60
บริษัทมีแผน turnaround ในธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจโรงแรม การร่วมทุนกับพันธมิตรหลายรายพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและคอนโดฯ บุกตลาดไฮเอนด์ จะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้น บริษัทมีแผนทยอยขายที่ดินในมือให้บริษัทร่วมทุนมูลค่ารวม 6 พันลบ. (กำไร 30% แต่รับรู้ได้ครึ่งเดียวตามสัดส่วนถือหุ้น) และขายสิทธิการเช่ามูลค่ารวม 2.7 พันลบ.(รับรู้รายได้ 100%) สำหรับธุรกิจโรงแรมที่ต่างประเทศมีแผน turnaround คิโรโระรีสอร์ทที่ญี่ปุ่นโดยจับมือพันธญี่ปุ่นเปิดโรงแรมและคอนโด ski-in/ski-out ส่วนโรงแรมในประเทศจะเปิดเพิ่มจากที่มีอยู่และเพิ่งซื้อเพิ่มโรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน (ROH) เพิ่มจำนวนห้องและเน้นธุรกิจ MICE รวมทั้งตั้งเป้าลดหนี้ให้มี Net IBD/E เหลือ 1.23 เท่า ณ ปลายปี 61 จากระดับ 1.6 เท่าณ เพื่อลดคชจ.ทางการเงิน
ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มผลการดำเนินทั้งปี 61 น่าจะเติบโตสูงจากปี 60 จากการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินต้นทุนต่ำในการพัฒนาโครงการร่วมทุนและแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ที่สูงกว่า ส่วนแผน turnaround ธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะเริ่มเห็นผลสำเร็จตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 61 ในการรับรู้รายได้จาก ROH และชัดเจนขึ้นในอนาคตหากแผน turnaround คิโรโระรีสอร์ททำได้สำเร็จ ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า BV โดยซื้อขาย 0.6 เท่า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
Market View : กังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : PF
หุ้นมีข่าว : CK DIF GPI
Technical Insight : SYNTEC SAWAD
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ อ่อนตัวผันผวนจากแรงขายในกลุ่ม ENERG ท่ามกลางความกังวลการตรึงราคาน้ำมันจากกระทรวงพลังงาน รองลงมาเป็นกลุ่ม COMM ขณะที่ BANK ยังฟื้นตัวมาชดเชยบางส่วน ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,760.71 จุด (-7.60 จุด) Volume 5.74 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -2,559.51 ลบ. TFEX Net -5,741 สัญญา ตราสารหนี้ -1,264.52 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ส่งออกเดือน เม.ย. +12.34% นำเข้าขยายตัว 20.36% 4M61 +11.53% ก.พาณิชย์มองแนวโน้มส่งออกทั้งปี 61 มีโอกาสโตเกินเป้าที่ 8% เล็งทบทวนเป้าใหม่ช่วงกลางปี
+ตลท.เผย Q1/61 บจ.ไทยเติบโตดี กำไรสุทธิ 2.86 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 0.30%, ยอดขายโต 5.61% จากงวดปีก่อน
-ดาวโจนส์ปิดร่วงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหลังทรัมป์เผยสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีน
-สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจีนที่ส่งออกผ่านเวียดนาม สกัดเลี่ยงภาษีทุ่มตลาด
-น้ำมันดิบปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีจากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้จากการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.04 แสนล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.01 บาท/USD
** จับตา 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ว่าขัดกม.รัฐธรรมนูญหรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกของไทยที่ขยายตัวกว่า 12%YoY อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เข้ามากดดันอีกครั้ง อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องคอยกดดันดัชนี คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,750-1,770 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่ม B7 เป็น B20 GGC EA BCP PTG
- STA TRUBB ราคายางพาราปรับตัวขึ้นสู่ 183.5เยน/กก. +3%WTD
- หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ BJC
- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 106.6$/Ton +14% ในช่วง 20 วัน
- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 ORI
- ทีวีดิจิทัล : ภาครัฐฯจ่อออก ม.44 และกสทช. ยืดจ่ายได้อีก 90 วันหลัง 23 พ.ค. 61 บวกต่อ BEC WORK MONO RS
หุ้นมีข่าว
CK Analyst Meeting (ราคาปิด 25.25 บาท Bloomberg Consensus 31.47 บาท) บริษัทคงเป้ารายได้ที่ 3 หมื่นล้านบาทแม้ 1Q61 ตะทำได้เพียง 24% ของเป้ารายได้ แต่คาดว่ารายได้จะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น (1Q61 GP อยู่ที่ 7.97%) เหนือ 8% จากการรับรู้งานในมือที่มี GP สูงกว่างานในอดีต
งานประมูลปี 18 มีมากถึง 7.8 แสนล้านบาทจากงาน 1)ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง 2)มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง 3)รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน 4)รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ 5)รถไฟทางคู่ 9 เส้นทางซึ่งคาดว่าจะทยอยทำการประมูลได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดย CK พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโดยคาดหวัง GP อย่างน้อย 8% หรือ IRR สูงกว่า 15%
ความเห็น คาด 2Q61 รายไดจะเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้ของโรงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญา 6 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 สัญญา นอกจากนี้มีการรับรู้เงินปันผลจาก TTW และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรพิเศษจาก BEM ขายหุ้นไซยะบุรีให้แก่ CKP เพิ่มเติม
GPI (ราคาปิด 3.18 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) ในงวด 2Q61 จะมีการจัดงาน “Off Road Day” ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 3 มิ.ย. 61 และงาน “Honda Racing 2018” วันที่ 29 พ.ค. – 1 มิ.ย. 61 นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 2Q61 ยังมีการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากการจัดงาน Motor Show ในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเตรียมรุกธุรกิจใหม่ด้าน “eRacing Sport” ในวันที่ 8 – 10 มิ.ย. 61 (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
ความเห็น การจัดงานแข่งรถดังกล่าว 2 งาน น่าจะมาช่วยหนุนรายได้ในงวด 2Q61 บางส่วน โดยการเติบโตหลักยังคงมาจากการรับรู้รายได้จากงาน Motor Show ทำให้คาดว่าผลประกอบการงวด 2Q61 จะยังมีการเติบโต YoY ในระดับใกล้เคียงกับงวด 1Q61 ส่วนงาน e-Sport น่าจะเป็นเพียงการทดลองตลาด คาดว่ายังไม่มีสาระสำคัญในประมาณการ ปัจจุบัน แม้งาน Motor Show ที่เมียนมาร์อาจมีการเลื่อนออกไปเพราะปัญหาด้านสถานที่ แต่ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมในประมาณการ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยฐานะการเงินดีเยี่ยม (เงินสดหลังจ่ายปันผลระหว่างกาลและหนี้สินกว่า 311 ล้านบาท หรือต่อหุ้นกว่า 0.50 บาท)
ประเด็นลบกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : เครดิตบูโร" ระบุความเสี่ยงสะสม 3 ปี ส่งผลหนี้เสียรอบใหม่พุ่งกว่า 7 แสนล้านบาท จากหนี้ที่ปรับโครงสร้างไปแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาทเมื่อปี 58 พบคนอายุ 37 ปี เอ็นพีแอลเพิ่ม 14% สูงเกินค่าเฉลี่ยที่ 7% ชี้ไตรมาส 2 จับตาใกล้ชิดสินเชื่อบ้าน เหตุทั้งดีเวลอปเปอร์และรายย่อยใช้เงินกู้
ความเห็น หาก NPL เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้คชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นกดดันผลประกอบการหุ้นแบงก์ ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาฯได้รับผลกระทบเช่นกันหากลูกค้ากู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่านทำให้ต้องวนขายหลายรอบ
หน่วยลงทุนใหม่กองทุน DIF พร้อมเข้าเทรดวันนี้ (23 พ.ค.) ชูศักยภาพทรัพย์สินและผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น มั่นใจนักลงทุนตอบรับดีขานรับประมาณการเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น โดยตอบแทน (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) KTB กองทุนเก็บหุ้นกรุงไทยเด้งรับเข้าคำนวณดัชนี MSCI Minimum Volatility คาดเม็ดเงินเข้าลงทุน 20.13 ล้านเหรียญ เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มาร์เก็ตแคปสูง และให้ผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะยาวโดยจะมีผลวันที่ 31 พ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
PF analyst meeting (ราคาปิด 0.92 ซื้อเก็งกำไร) ลุ้น turnaround
1Q61 มีกำไร 195 ลบ. +337% จากรายได้อสังหาฯ +57% ขณะที่รายได้ค่าเช่า -14% และรายได้ธุรกิจโรงแรม -3% จากค่าเงินบาทอ่อน ด้าน operating margin ปรับดีขึ้นเป็น 8% จาก 7.6% ใน 1Q60 net margin ดีขึ้นสู่ 5% จาก 1.5% ใน 1Q60 backlog ณ สิ้นงวด ราว 6.7 พันลบ.แบ่งเป็นคอนโด 61% แนวราบ 39% ทั้งนี้ D/E ratio ยังทรงตัวสูงที่ 2.64 เท่าใกล้เคียงปลายปี 60 โดยลดลงจาก 2.8 เท่า ณ ปลาย 1Q60
บริษัทมีแผน turnaround ในธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจโรงแรม การร่วมทุนกับพันธมิตรหลายรายพัฒนาทั้งโครงการแนวราบและคอนโดฯ บุกตลาดไฮเอนด์ จะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้น บริษัทมีแผนทยอยขายที่ดินในมือให้บริษัทร่วมทุนมูลค่ารวม 6 พันลบ. (กำไร 30% แต่รับรู้ได้ครึ่งเดียวตามสัดส่วนถือหุ้น) และขายสิทธิการเช่ามูลค่ารวม 2.7 พันลบ.(รับรู้รายได้ 100%) สำหรับธุรกิจโรงแรมที่ต่างประเทศมีแผน turnaround คิโรโระรีสอร์ทที่ญี่ปุ่นโดยจับมือพันธญี่ปุ่นเปิดโรงแรมและคอนโด ski-in/ski-out ส่วนโรงแรมในประเทศจะเปิดเพิ่มจากที่มีอยู่และเพิ่งซื้อเพิ่มโรงแรมรอยัลออคิดเชอราตัน (ROH) เพิ่มจำนวนห้องและเน้นธุรกิจ MICE รวมทั้งตั้งเป้าลดหนี้ให้มี Net IBD/E เหลือ 1.23 เท่า ณ ปลายปี 61 จากระดับ 1.6 เท่าณ เพื่อลดคชจ.ทางการเงิน
ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มผลการดำเนินทั้งปี 61 น่าจะเติบโตสูงจากปี 60 จากการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินต้นทุนต่ำในการพัฒนาโครงการร่วมทุนและแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ที่สูงกว่า ส่วนแผน turnaround ธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะเริ่มเห็นผลสำเร็จตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 61 ในการรับรู้รายได้จาก ROH และชัดเจนขึ้นในอนาคตหากแผน turnaround คิโรโระรีสอร์ททำได้สำเร็จ ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า BV โดยซื้อขาย 0.6 เท่า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร
Market View : กังวลสงครามการค้า
หุ้นแนะนำพิเศษ : PF
หุ้นมีข่าว : CK DIF GPI
Technical Insight : SYNTEC SAWAD
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ อ่อนตัวผันผวนจากแรงขายในกลุ่ม ENERG ท่ามกลางความกังวลการตรึงราคาน้ำมันจากกระทรวงพลังงาน รองลงมาเป็นกลุ่ม COMM ขณะที่ BANK ยังฟื้นตัวมาชดเชยบางส่วน ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,760.71 จุด (-7.60 จุด) Volume 5.74 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -2,559.51 ลบ. TFEX Net -5,741 สัญญา ตราสารหนี้ -1,264.52 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ส่งออกเดือน เม.ย. +12.34% นำเข้าขยายตัว 20.36% 4M61 +11.53% ก.พาณิชย์มองแนวโน้มส่งออกทั้งปี 61 มีโอกาสโตเกินเป้าที่ 8% เล็งทบทวนเป้าใหม่ช่วงกลางปี
+ตลท.เผย Q1/61 บจ.ไทยเติบโตดี กำไรสุทธิ 2.86 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 0.30%, ยอดขายโต 5.61% จากงวดปีก่อน
-ดาวโจนส์ปิดร่วงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหลังทรัมป์เผยสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีน
-สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจีนที่ส่งออกผ่านเวียดนาม สกัดเลี่ยงภาษีทุ่มตลาด
-น้ำมันดิบปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีจากแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้จากการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.04 แสนล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.01 บาท/USD
** จับตา 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ว่าขัดกม.รัฐธรรมนูญหรือไม่
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกของไทยที่ขยายตัวกว่า 12%YoY อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เข้ามากดดันอีกครั้ง อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องคอยกดดันดัชนี คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,750-1,770 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- เดือนก.ค.รัฐปรับเพิ่ม B7 เป็น B20 GGC EA BCP PTG
- STA TRUBB ราคายางพาราปรับตัวขึ้นสู่ 183.5เยน/กก. +3%WTD
- หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ BJC
- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 106.6$/Ton +14% ในช่วง 20 วัน
- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 ORI
- ทีวีดิจิทัล : ภาครัฐฯจ่อออก ม.44 และกสทช. ยืดจ่ายได้อีก 90 วันหลัง 23 พ.ค. 61 บวกต่อ BEC WORK MONO RS
หุ้นมีข่าว
CK Analyst Meeting (ราคาปิด 25.25 บาท Bloomberg Consensus 31.47 บาท) บริษัทคงเป้ารายได้ที่ 3 หมื่นล้านบาทแม้ 1Q61 ตะทำได้เพียง 24% ของเป้ารายได้ แต่คาดว่ารายได้จะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น (1Q61 GP อยู่ที่ 7.97%) เหนือ 8% จากการรับรู้งานในมือที่มี GP สูงกว่างานในอดีต
งานประมูลปี 18 มีมากถึง 7.8 แสนล้านบาทจากงาน 1)ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง 2)มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง 3)รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน 4)รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ 5)รถไฟทางคู่ 9 เส้นทางซึ่งคาดว่าจะทยอยทำการประมูลได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดย CK พร้อมเข้าร่วมประมูลงานโดยคาดหวัง GP อย่างน้อย 8% หรือ IRR สูงกว่า 15%
ความเห็น คาด 2Q61 รายไดจะเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้ของโรงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญา 6 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม 3 สัญญา นอกจากนี้มีการรับรู้เงินปันผลจาก TTW และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรพิเศษจาก BEM ขายหุ้นไซยะบุรีให้แก่ CKP เพิ่มเติม
GPI (ราคาปิด 3.18 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) ในงวด 2Q61 จะมีการจัดงาน “Off Road Day” ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 3 มิ.ย. 61 และงาน “Honda Racing 2018” วันที่ 29 พ.ค. – 1 มิ.ย. 61 นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 2Q61 ยังมีการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากการจัดงาน Motor Show ในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเตรียมรุกธุรกิจใหม่ด้าน “eRacing Sport” ในวันที่ 8 – 10 มิ.ย. 61 (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
ความเห็น การจัดงานแข่งรถดังกล่าว 2 งาน น่าจะมาช่วยหนุนรายได้ในงวด 2Q61 บางส่วน โดยการเติบโตหลักยังคงมาจากการรับรู้รายได้จากงาน Motor Show ทำให้คาดว่าผลประกอบการงวด 2Q61 จะยังมีการเติบโต YoY ในระดับใกล้เคียงกับงวด 1Q61 ส่วนงาน e-Sport น่าจะเป็นเพียงการทดลองตลาด คาดว่ายังไม่มีสาระสำคัญในประมาณการ ปัจจุบัน แม้งาน Motor Show ที่เมียนมาร์อาจมีการเลื่อนออกไปเพราะปัญหาด้านสถานที่ แต่ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมในประมาณการ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยฐานะการเงินดีเยี่ยม (เงินสดหลังจ่ายปันผลระหว่างกาลและหนี้สินกว่า 311 ล้านบาท หรือต่อหุ้นกว่า 0.50 บาท)
ประเด็นลบกลุ่มแบงก์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ : เครดิตบูโร" ระบุความเสี่ยงสะสม 3 ปี ส่งผลหนี้เสียรอบใหม่พุ่งกว่า 7 แสนล้านบาท จากหนี้ที่ปรับโครงสร้างไปแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาทเมื่อปี 58 พบคนอายุ 37 ปี เอ็นพีแอลเพิ่ม 14% สูงเกินค่าเฉลี่ยที่ 7% ชี้ไตรมาส 2 จับตาใกล้ชิดสินเชื่อบ้าน เหตุทั้งดีเวลอปเปอร์และรายย่อยใช้เงินกู้
ความเห็น หาก NPL เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้คชจ.สำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นกดดันผลประกอบการหุ้นแบงก์ ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาฯได้รับผลกระทบเช่นกันหากลูกค้ากู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่านทำให้ต้องวนขายหลายรอบ
หน่วยลงทุนใหม่กองทุน DIF พร้อมเข้าเทรดวันนี้ (23 พ.ค.) ชูศักยภาพทรัพย์สินและผลการดำเนินงานย้อนหลังโดดเด่น มั่นใจนักลงทุนตอบรับดีขานรับประมาณการเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น โดยตอบแทน (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) KTB กองทุนเก็บหุ้นกรุงไทยเด้งรับเข้าคำนวณดัชนี MSCI Minimum Volatility คาดเม็ดเงินเข้าลงทุน 20.13 ล้านเหรียญ เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มาร์เก็ตแคปสูง และให้ผลตอบแทนที่แน่นอนในระยะยาวโดยจะมีผลวันที่ 31 พ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO9162
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO9162