- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 May 2018 16:58
- Hits: 1523
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> AMATA, BGRIM, CENTEL
Stock S R Comment
AMATA 22.50 23.70 ยอด Backlog1.52 พันล้านบาท หนุนยอดโอนโต
BGRIM 27.00 28.50 ทยอย COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม คาดกำไรโตกว่า 40% YoY
CENTEL 45.00 47.00 ขยายฐานรายได้จากโรงแรมในต่างประเทศ บุกร้านอาหาร CLMV
Who cares about fund outflow? At least not for local institutes
SET : ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นภายหลังได้แรงหนุนจากตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่ง และความกังวลทางด้านสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ลดลง อย่างไรก็ดี แรงซื้อสุทธิส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เนื่องจากระดับดัชนีบริเวณ 1750-1760 จุด เป็นระดับต้นทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้ ในขณะที่ยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกจาก Fund flow มากนัก โดยเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
Oil : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI ทำสถิติสูงสุดใหม่ของรอบนี้ ทั้งนี้มีแรงหนุนใหม่ที่สำคัญได้แก่การที่สหรัฐฯตัดสินใจออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเวเนซูเอลา ภายหลังจากที่ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งนายนิโคลัส มาดูโร ได้รับชัยชนะ มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามไม่ให้ชาวสหรัฐฯเข้าซื้อ ตราสารหนี้ของรัฐบาลเวเนซูเอลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบไปถึงการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมัน มองเป็นปัจจัยประคับประคองกลุ่มพลังงานและ SET Index ต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นต่อไปสำหรับผู้ที่เข้าสะสมไปช่วงดัชนีปรับฐานก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาวในความเห็นของเรายังคงได้แก่
1) กลุ่ม Cyclical ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ PTT, PTTGC, BANPU, IVL
2) กลุ่มโรงแรม ที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT, ERW
3) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้แก่ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA
4) กลุ่มที่อยู่อาศัยที่มี Valuation ถูกและมี Dividend yield ในระดับสูง ได้แก่ QH, AP
5) กลุ่ม ICT ที่ราคาปรับตัวลงมาแรง และมี Upside risk จากมาตรการเยียวยาของภาครัฐ และการประมูลใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz ที่ไม่น่าจะมีการแข่งขันสูงมากนัก ได้แก่ ADVANC, TRUE
และสำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี MSCI เช่น LH, TPIPL, THG และหุ้นที่เราประเมินว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไปได้แก่ KTC, TOA, RATCH, BGRIM, ESSO
แนวรับ 1,754 แนวต้าน 1,777
Today's Event :
CPNREIT XD 0.3795 บาท
CHEWA ลูกหุ้นเข้า 467,335,804 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO9102
Stock S R Comment
AMATA 22.50 23.70 ยอด Backlog1.52 พันล้านบาท หนุนยอดโอนโต
BGRIM 27.00 28.50 ทยอย COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม คาดกำไรโตกว่า 40% YoY
CENTEL 45.00 47.00 ขยายฐานรายได้จากโรงแรมในต่างประเทศ บุกร้านอาหาร CLMV
Who cares about fund outflow? At least not for local institutes
SET : ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นภายหลังได้แรงหนุนจากตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่ง และความกังวลทางด้านสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ลดลง อย่างไรก็ดี แรงซื้อสุทธิส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ เนื่องจากระดับดัชนีบริเวณ 1750-1760 จุด เป็นระดับต้นทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้ ในขณะที่ยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกจาก Fund flow มากนัก โดยเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้
Oil : ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI ทำสถิติสูงสุดใหม่ของรอบนี้ ทั้งนี้มีแรงหนุนใหม่ที่สำคัญได้แก่การที่สหรัฐฯตัดสินใจออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเวเนซูเอลา ภายหลังจากที่ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งนายนิโคลัส มาดูโร ได้รับชัยชนะ มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามไม่ให้ชาวสหรัฐฯเข้าซื้อ ตราสารหนี้ของรัฐบาลเวเนซูเอลา ซึ่งอาจส่งผลกระทบไปถึงการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมัน มองเป็นปัจจัยประคับประคองกลุ่มพลังงานและ SET Index ต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำถือหุ้นต่อไปสำหรับผู้ที่เข้าสะสมไปช่วงดัชนีปรับฐานก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาวในความเห็นของเรายังคงได้แก่
1) กลุ่ม Cyclical ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ PTT, PTTGC, BANPU, IVL
2) กลุ่มโรงแรม ที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ MINT, ERW
3) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้แก่ประโยชน์จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ AMATA
4) กลุ่มที่อยู่อาศัยที่มี Valuation ถูกและมี Dividend yield ในระดับสูง ได้แก่ QH, AP
5) กลุ่ม ICT ที่ราคาปรับตัวลงมาแรง และมี Upside risk จากมาตรการเยียวยาของภาครัฐ และการประมูลใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz ที่ไม่น่าจะมีการแข่งขันสูงมากนัก ได้แก่ ADVANC, TRUE
และสำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี MSCI เช่น LH, TPIPL, THG และหุ้นที่เราประเมินว่าจะถูกคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี SET50 ในรอบถัดไปได้แก่ KTC, TOA, RATCH, BGRIM, ESSO
แนวรับ 1,754 แนวต้าน 1,777
Today's Event :
CPNREIT XD 0.3795 บาท
CHEWA ลูกหุ้นเข้า 467,335,804 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO9102