- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 May 2018 16:53
- Hits: 1715
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 18/05/2018
Market Summary 18/05/2018
Close 1,754.17 Volume Bt60,170M
Change 2.97 P/E 17.92
%Change 0.17% P/BV 2.00
Change 2.97 P/E 17.92
%Change 0.17% P/BV 2.00
หุ้นแนะนำพิเศษ
SSP (ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.5 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 1Q61 ที่ 106.6 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.2 %YoY โดยกำไรสุทธิ 1Q61 คิดเป็น 23% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ที่ราว 464 ลบ. +36 %YoY เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้โครงการฮิดากะ และโครงการโซลาร์รูปท๊อป 2 โครงการ (SNNP1 และ SNNP2) ในช่วงเดือนมี.ค. 61 และบริษัทมีการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวของบริษัทประมาณ 715 ลบ. ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 26.5 ลบ. -30.6 %YoY โดยบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างเงินกู้เพื่อให้การบันทึกผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จะไม่บันทึกผ่านงบกำไรขาดทุนของบริษัท โดยเริ่มตั้งแต่ 1Q61 เป็นต้นไป
ความเห็น : คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q61 จะเติบโตโดดเด่นจากปัจจัยหนุนด้านฤดูกาลและการรับรู้รายได้จากโครงการฮิดากะแบบเต็มไตรมาส ประกอบกับการปรับโครงสร้างทางการเงินจะช่วยให้งบกำไร/ขาดทุนของบริษัทสะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงออกมาได้ (ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นภายในกลุ่มบริษัท)
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองในเชิงบวกจาก Analyst Meeting : โครงการโรงไฟฟ้าโซเอ็นที่ญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้า Khunshight Kundi ที่มองโกเลียมีโอกาส COD เร็วกว่าคาดที่3Q61 และ 4Q61 ตามลำดับ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดหนึ่งไตรมาส อีกทั้งได้มีการปรับโครงสร้างทางการเงิน ทำให้ได้ต้นทุนการเงินที่ต่ำลงทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยบริษัทยังมีแผนการลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง อาทิ มองโกเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม
ส่องหุ้น
HYDRO แนวรับ 1.41 บาท แนวต้าน 1.48-1.49 , 1.53-1.54 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้แล้ว อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยระดับราคากำลังจะมีลุ้นผ่านแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 1.49 บาทได้อีกด้วย พร้อมทั้ง MACD ที่ใกล้จะผ่านขึ้นมายืนเหนือระดับศูนย์ได้อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 1.41 บาทอีก น่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 1.53-1.54 บาทต่อไป
ADVANC แนวรับ 190.50 บาท แนวต้าน 194-195 , 199.50 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในกรอบ BollingerBottom ได้ อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวันหลังจากลงไปหนักๆ ติดต่อกัน 3 วัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่อยู่ในระดับสูง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 190.50 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 200 วัน ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันแถวๆ 194-195 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 199.50 บาทต่อไป
DTAC แนวรับ 46.75-45.75 บาท แนวต้าน 48.00 , 49.50-50.50 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวลดลงแรงติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ โดยถอยกลับลงมาทดสอบแนวรับเดิมๆ ที่ 44.25 บาทจึงมีการดีดกลับ อีกทั้งยังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 46.75-45.75 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่ 48.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 49.50-50.50 บาทต่อไป
Market View : ขึ้นในกรอบจำกัด
หุ้นแนะนำพิเศษ : SSP
หุ้นมีข่าว : SIRI PTT AMA DTAC
Technical Insight : CPF BM
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ยังคงผันผวนทั้งแดนลบและบวก โดยมีแรงกดดันจากต่างประเทศ คือ Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น กดดันหุ้น Big cap อาทิ ENERG TRANS COM แต่กลุ่ม ICT มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากการถอนตัวเข้าประมูลคลื่น 1800 Mhz ของ TRUE มาหักล้างแรงกดดันดังกล่าว ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,754.17 จุด (+2.97 จุด) Volume 6.02 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -5,799.87 ลบ. TFEX Net +6,615 สัญญา ตราสารหนี้ -8,163.17ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว โดยได้ข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า
+ยูโรโซนมียอดเกินดุลการค้า 26.9 พันล้านยูโรในเดือนมี.ค.
+ทีมเศรษฐกิจลุยโรดโชว์ดึงประเทศเป้าหมายทั้งเอเชีย ยุโรป สหรัฐ แบบรัฐต่อรัฐหรือเอกชนร่วมลงทุน หลังกฏหมายอีอีซีมีผลบังคับใช้
- น้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลง จากแรงเทขายของนักลงทุน และถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานที่ทรงตัวในระดับสูงที่ 844 แท่น
-ชาวตุรกีกว่า 2 แสนเดินขบวนประท้วงกองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์
+/- ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยหลังจีนยอมรับข้อเรียกร้องหลายข้อของรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงเสนอลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) แต่ยังขัดแย้งกับการแถลงการณ์ของจีนก่อนหน้านี้
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 9.93 หมื่นล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.17 บาท/USD
**21 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลข GDP Q1/61
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า บอนด์ยีลด์สหรัฐชะลอตัว ส่วนปัจจัยบวกในประเทศมาจากความคืบหน้าของการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปิดลดลง และ fund flow ที่ยังผันผวนต่อเนื่อง คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,744-1,763 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 108.3$/Ton +15% ในช่วง 18 วัน
- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 QH ORI
หุ้นมีข่าว
SIRI Analyst Meeting (ราคาปิด1.69 ซื้อ Bloomberg Consensus 1.93) : กำไร Q1 ดูแย่แต่จะ peak ไตรมาสสุดท้าย
กำไร 1Q61 เท่ากับ 251 ลบ. -68%QoQ (เทียบกับ Q4 ที่ peak ทุกปี) -51%YoY ผลการดำเนินงานอ่อนแอสุดเนื่องจากมียอดโอนต่ำ ยอดโอนคอนโดน้อยมาก -64%QoQ -68%YoY จากที่ได้โอนไปเยอะใน 4Q60 ด้านยอดขาย presale แม้ดูต่ำใน 1Q61 โดยอยู่ที่ 6.8 พันลย. -51%QoQ +2%YoY แต่คาดจะเร่งตัวขึ้นมากใน 2Q61 จาก big launch 15 โครงการมูลค่า 1.5 หมื่นลบ.+15%QoQ ทั้งทาวน์เฮาส์และคอนโดฯ โดยมีการเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์แบรนด์ใหม่ "Siri Place" มีผลตอบรับดี
ในช่วง 3Q6 มูลค่าโครงการเปิดใหม่ 8 โครงการสูงถึง 2.1 หมื่นลบ. ปลายงวด 1Q61 มี backlog 1.65 หมื่นลบ.ทำให้เป้ารายได้ 2.3 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้ว 55% ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทุกไตรมาส และมีแนวโน้มสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายที่เป็นช่วงไฮซี่ซั่น ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 2.9 พันลบ.+4% การลงทุนระยะยาวมี yield ที่ประมาณการโดย IAA Consensus เฉลี่ยราว 5.9% ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 10 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 17 แนะนำซื้อ
PTT (ราคาปิด 57 บาท Bloomberg Consensus56.75 ) ชี้ Q2/2561 เติบโตดี หลังราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้น มองกรอบทั้งปีที่ 66-71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แถมโรงกลั่น GSP แห่งที่ 2 กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง พร้อมพุ่งเป้าอัพสัดส่วนรายได้ Non-Oil แตะ 30% ภายใน 5 ปี ขณะที่ทุ่มงบกว่า 3.42 แสนล้านบาท สานต่อโครงการท่อส่งก๊าซ LNG เส้นที่ 5 (ที่มาทันหุ้น)
+WHA (ราคาปิด 4.24 บาท Bloomberg Consensus 4.61) เจรจาพันธมิตรลงทุนนิคมฯใน EEC คาดชัดเจน 1 รายภายในปีนี้,รุกขยายลงทุนไปเมียนมา H2/61
ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา รฟท.คาดเคาะ TOR รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในพ.ค.นี้ และรมว.คลัง เตรียมประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 24 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ขณะที่ “ร.ฟ.ท.” ยันได้เริ่มกระบวนการประมูลช่วงที่ 2 ปากช่อง-ขนานจิต ระยะทาง 11 กม. ภายในต้นเดือน มิ.ย.2561
+NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.
AMA (ราคาปิด 7.20 บาท ถือ อยู่ระหว่างปรับประมาณการ) ผู้บริหารมั่นใจผลงานงวด 2Q61 ฟื้นตัว ทุ่มงบลงทุน 800 ล้านบาท เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่มอีก 2 ลำ เป็น 12 ลำ หนุนน้ำหนักบรรทุกรวมทะลุ 1 แสนเดตเวตตัน พร้อมขยายกองรถบรรทุกขนส่งอีก 30 คัน แตะ 180 คัน (ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
ความเห็น สำหรับงวด 2Q61 ฝ่ายวิจัยคาดว่ายังคงมีหลายัจจุบันกดดันต่อเนื่องจากงวด 1Q61 คือ 1) ราคาน้ำมันดิบ Brent (แหล่งอ้างอิงต้นทุนน้ำมันของบริษัท ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนกว่า 20 – 30%) ในงวด 2Q61 (QTD) มีค่าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นทั้ง 12%QoQ และ 40 - 50%YoY 2) ราคาน้ำมันปาล์มที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ลดลงจากรอบ 1.5 ปี กว่า 30%) กระทบต่อผู้ปลูกปาล์มในมาเลฯและอินโดฯ (ลูกค้ารายหลัก) กดดันโอกาสในการปรับขึ้นค่าระวางเรือของบริษัท แม้อาจได้รับผลชดชเชยบางส่วนจากการผ่านพ้นช่วงมรสุม ที่ทำให้รอบการเดินเรือมีมากขึ้นและอัตราการใช้น้ำมันลดลง แต่เบื้องต้นยังคาดว่าบริษัทยังน่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับต่ำ ด้านราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมามากแล้ว ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการและราคาเหมาะสม
+ กลุ่มโทรคมนาคม : กสทช.ยันเดินหน้าจัดประมูลคลื่น 1800 MHz แม้อาจเหลือผู้เข้าร่วมเพียงรายเดียวหลัง TRUE ประกาศถอยรายแรก ส่วน ADVANC อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ตัดสินว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ราวปลายเดือน พ.ค.นี้ (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสต์)
ความเห็น เป็นประเด็นที่ช่วยผ่อนคลายความกังวลด้านการแข่งขันประมูลคลื่นบางส่วน โดยหากช่วงปลายเดือน พ.ค. 61 ADVANC ออกมาสรุปการตัดสินใจของบริษัท สามารถแบ่งเป็นเป็น 2 กรณีได้ดังนี้ คือ 1) เข้าร่วมประมูล เชื่อว่าจะเป็นการประมูลที่ไม่ดุเดือดมากนัก เนื่องจากทั้ง DTAC และ ADVANC ต่างมีคลื่นในมือที่พร้อมให้บริการเพียงพออยู่แล้ว คาด Neutral ต่อราคาหุ้น DTAC ADVANC ขณะที่อาจกดดัน TRUE 2) หาก ADVANC ไม่เข้าร่วม คาดเป็นบวก DTAC เนื่องจากจะไม่มีการแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้น และได้ใบอนุญาตอย่างน้อย 1 ใบ ซึ่งจะส่งผลให้ DTAC มีกลับมามีความสามารถในการแข่งขันอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ยังแนะนำให้ “หาจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไร” DTAC (Bloomberg Consensus 52.8 บาท) ไปพร้อมกับการติดตามข่าวจาก ADVANC ใกล้ชิด
บอร์ด TLUXE อนุมัติร่วมทุน"ริช พาร์ทเนอร์ส"ในโครงการมิกซ์ยูสในเวียดนามกว่า 900 ลบ. (ที่มา SET news)
NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.
เอกชัยการแพทย์ ส่งสัญญาณจากนี้ไปธุรกิจของ EKH เข้าสู่ยุคเฟื่องฟู หลังเปิดให้บริการศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ รองรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้บริหารเผยช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดันผลประกอบการทั้งปีโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
SSP (ซื้อ ราคาเหมาะสม 10.5 บาท) รายงานกำไรสุทธิ 1Q61 ที่ 106.6 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.2 %YoY โดยกำไรสุทธิ 1Q61 คิดเป็น 23% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ที่ราว 464 ลบ. +36 %YoY เนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้โครงการฮิดากะ และโครงการโซลาร์รูปท๊อป 2 โครงการ (SNNP1 และ SNNP2) ในช่วงเดือนมี.ค. 61 และบริษัทมีการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวของบริษัทประมาณ 715 ลบ. ทำให้ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 26.5 ลบ. -30.6 %YoY โดยบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างเงินกู้เพื่อให้การบันทึกผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จะไม่บันทึกผ่านงบกำไรขาดทุนของบริษัท โดยเริ่มตั้งแต่ 1Q61 เป็นต้นไป
ความเห็น : คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q61 จะเติบโตโดดเด่นจากปัจจัยหนุนด้านฤดูกาลและการรับรู้รายได้จากโครงการฮิดากะแบบเต็มไตรมาส ประกอบกับการปรับโครงสร้างทางการเงินจะช่วยให้งบกำไร/ขาดทุนของบริษัทสะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงออกมาได้ (ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นภายในกลุ่มบริษัท)
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองในเชิงบวกจาก Analyst Meeting : โครงการโรงไฟฟ้าโซเอ็นที่ญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้า Khunshight Kundi ที่มองโกเลียมีโอกาส COD เร็วกว่าคาดที่3Q61 และ 4Q61 ตามลำดับ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดหนึ่งไตรมาส อีกทั้งได้มีการปรับโครงสร้างทางการเงิน ทำให้ได้ต้นทุนการเงินที่ต่ำลงทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยบริษัทยังมีแผนการลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง อาทิ มองโกเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม
ส่องหุ้น
HYDRO แนวรับ 1.41 บาท แนวต้าน 1.48-1.49 , 1.53-1.54 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้แล้ว อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวัน โดยระดับราคากำลังจะมีลุ้นผ่านแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 1.49 บาทได้อีกด้วย พร้อมทั้ง MACD ที่ใกล้จะผ่านขึ้นมายืนเหนือระดับศูนย์ได้อีกด้วย หากวันนี้ระดับราคาอ่อนตัวกลับลงมาแถวๆ 1.41 บาทอีก น่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อได้แถวๆ 1.53-1.54 บาทต่อไป
ADVANC แนวรับ 190.50 บาท แนวต้าน 194-195 , 199.50 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในกรอบ BollingerBottom ได้ อีกทั้งยังปิดได้ในระดับสูงของวันหลังจากลงไปหนักๆ ติดต่อกัน 3 วัน พร้อมวอลุ่มซื้อขายที่อยู่ในระดับสูง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 190.50 บาทซะก่อน ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 200 วัน ขึ้นไปทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันแถวๆ 194-195 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 199.50 บาทต่อไป
DTAC แนวรับ 46.75-45.75 บาท แนวต้าน 48.00 , 49.50-50.50 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวลดลงแรงติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ โดยถอยกลับลงมาทดสอบแนวรับเดิมๆ ที่ 44.25 บาทจึงมีการดีดกลับ อีกทั้งยังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 46.75-45.75 บาทอีก ระดับราคาน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่ 48.00 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 49.50-50.50 บาทต่อไป
Market View : ขึ้นในกรอบจำกัด
หุ้นแนะนำพิเศษ : SSP
หุ้นมีข่าว : SIRI PTT AMA DTAC
Technical Insight : CPF BM
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ยังคงผันผวนทั้งแดนลบและบวก โดยมีแรงกดดันจากต่างประเทศ คือ Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น กดดันหุ้น Big cap อาทิ ENERG TRANS COM แต่กลุ่ม ICT มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวจากการถอนตัวเข้าประมูลคลื่น 1800 Mhz ของ TRUE มาหักล้างแรงกดดันดังกล่าว ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,754.17 จุด (+2.97 จุด) Volume 6.02 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -5,799.87 ลบ. TFEX Net +6,615 สัญญา ตราสารหนี้ -8,163.17ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+สหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว โดยได้ข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า
+ยูโรโซนมียอดเกินดุลการค้า 26.9 พันล้านยูโรในเดือนมี.ค.
+ทีมเศรษฐกิจลุยโรดโชว์ดึงประเทศเป้าหมายทั้งเอเชีย ยุโรป สหรัฐ แบบรัฐต่อรัฐหรือเอกชนร่วมลงทุน หลังกฏหมายอีอีซีมีผลบังคับใช้
- น้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลง จากแรงเทขายของนักลงทุน และถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานที่ทรงตัวในระดับสูงที่ 844 แท่น
-ชาวตุรกีกว่า 2 แสนเดินขบวนประท้วงกองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์
+/- ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยหลังจีนยอมรับข้อเรียกร้องหลายข้อของรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงเสนอลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) แต่ยังขัดแย้งกับการแถลงการณ์ของจีนก่อนหน้านี้
+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 9.93 หมื่นล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.17 บาท/USD
**21 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลข GDP Q1/61
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า บอนด์ยีลด์สหรัฐชะลอตัว ส่วนปัจจัยบวกในประเทศมาจากความคืบหน้าของการลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปิดลดลง และ fund flow ที่ยังผันผวนต่อเนื่อง คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,744-1,763 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 108.3$/Ton +15% ในช่วง 18 วัน
- หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 QH ORI
หุ้นมีข่าว
SIRI Analyst Meeting (ราคาปิด1.69 ซื้อ Bloomberg Consensus 1.93) : กำไร Q1 ดูแย่แต่จะ peak ไตรมาสสุดท้าย
กำไร 1Q61 เท่ากับ 251 ลบ. -68%QoQ (เทียบกับ Q4 ที่ peak ทุกปี) -51%YoY ผลการดำเนินงานอ่อนแอสุดเนื่องจากมียอดโอนต่ำ ยอดโอนคอนโดน้อยมาก -64%QoQ -68%YoY จากที่ได้โอนไปเยอะใน 4Q60 ด้านยอดขาย presale แม้ดูต่ำใน 1Q61 โดยอยู่ที่ 6.8 พันลย. -51%QoQ +2%YoY แต่คาดจะเร่งตัวขึ้นมากใน 2Q61 จาก big launch 15 โครงการมูลค่า 1.5 หมื่นลบ.+15%QoQ ทั้งทาวน์เฮาส์และคอนโดฯ โดยมีการเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์แบรนด์ใหม่ "Siri Place" มีผลตอบรับดี
ในช่วง 3Q6 มูลค่าโครงการเปิดใหม่ 8 โครงการสูงถึง 2.1 หมื่นลบ. ปลายงวด 1Q61 มี backlog 1.65 หมื่นลบ.ทำให้เป้ารายได้ 2.3 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้ว 55% ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทุกไตรมาส และมีแนวโน้มสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายที่เป็นช่วงไฮซี่ซั่น ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 2.9 พันลบ.+4% การลงทุนระยะยาวมี yield ที่ประมาณการโดย IAA Consensus เฉลี่ยราว 5.9% ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 10 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 17 แนะนำซื้อ
PTT (ราคาปิด 57 บาท Bloomberg Consensus56.75 ) ชี้ Q2/2561 เติบโตดี หลังราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้น มองกรอบทั้งปีที่ 66-71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แถมโรงกลั่น GSP แห่งที่ 2 กลับมาเดินเครื่องเต็มกำลัง พร้อมพุ่งเป้าอัพสัดส่วนรายได้ Non-Oil แตะ 30% ภายใน 5 ปี ขณะที่ทุ่มงบกว่า 3.42 แสนล้านบาท สานต่อโครงการท่อส่งก๊าซ LNG เส้นที่ 5 (ที่มาทันหุ้น)
+WHA (ราคาปิด 4.24 บาท Bloomberg Consensus 4.61) เจรจาพันธมิตรลงทุนนิคมฯใน EEC คาดชัดเจน 1 รายภายในปีนี้,รุกขยายลงทุนไปเมียนมา H2/61
ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา รฟท.คาดเคาะ TOR รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในพ.ค.นี้ และรมว.คลัง เตรียมประชุมคณะกรรมการร่วมรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 24 วันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้ ขณะที่ “ร.ฟ.ท.” ยันได้เริ่มกระบวนการประมูลช่วงที่ 2 ปากช่อง-ขนานจิต ระยะทาง 11 กม. ภายในต้นเดือน มิ.ย.2561
+NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.
AMA (ราคาปิด 7.20 บาท ถือ อยู่ระหว่างปรับประมาณการ) ผู้บริหารมั่นใจผลงานงวด 2Q61 ฟื้นตัว ทุ่มงบลงทุน 800 ล้านบาท เดินหน้าขยายกองเรือเพิ่มอีก 2 ลำ เป็น 12 ลำ หนุนน้ำหนักบรรทุกรวมทะลุ 1 แสนเดตเวตตัน พร้อมขยายกองรถบรรทุกขนส่งอีก 30 คัน แตะ 180 คัน (ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
ความเห็น สำหรับงวด 2Q61 ฝ่ายวิจัยคาดว่ายังคงมีหลายัจจุบันกดดันต่อเนื่องจากงวด 1Q61 คือ 1) ราคาน้ำมันดิบ Brent (แหล่งอ้างอิงต้นทุนน้ำมันของบริษัท ซึ่งเป็นสัดส่วนต้นทุนกว่า 20 – 30%) ในงวด 2Q61 (QTD) มีค่าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นทั้ง 12%QoQ และ 40 - 50%YoY 2) ราคาน้ำมันปาล์มที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (ลดลงจากรอบ 1.5 ปี กว่า 30%) กระทบต่อผู้ปลูกปาล์มในมาเลฯและอินโดฯ (ลูกค้ารายหลัก) กดดันโอกาสในการปรับขึ้นค่าระวางเรือของบริษัท แม้อาจได้รับผลชดชเชยบางส่วนจากการผ่านพ้นช่วงมรสุม ที่ทำให้รอบการเดินเรือมีมากขึ้นและอัตราการใช้น้ำมันลดลง แต่เบื้องต้นยังคาดว่าบริษัทยังน่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับต่ำ ด้านราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมามากแล้ว ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการและราคาเหมาะสม
+ กลุ่มโทรคมนาคม : กสทช.ยันเดินหน้าจัดประมูลคลื่น 1800 MHz แม้อาจเหลือผู้เข้าร่วมเพียงรายเดียวหลัง TRUE ประกาศถอยรายแรก ส่วน ADVANC อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ตัดสินว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ราวปลายเดือน พ.ค.นี้ (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสต์)
ความเห็น เป็นประเด็นที่ช่วยผ่อนคลายความกังวลด้านการแข่งขันประมูลคลื่นบางส่วน โดยหากช่วงปลายเดือน พ.ค. 61 ADVANC ออกมาสรุปการตัดสินใจของบริษัท สามารถแบ่งเป็นเป็น 2 กรณีได้ดังนี้ คือ 1) เข้าร่วมประมูล เชื่อว่าจะเป็นการประมูลที่ไม่ดุเดือดมากนัก เนื่องจากทั้ง DTAC และ ADVANC ต่างมีคลื่นในมือที่พร้อมให้บริการเพียงพออยู่แล้ว คาด Neutral ต่อราคาหุ้น DTAC ADVANC ขณะที่อาจกดดัน TRUE 2) หาก ADVANC ไม่เข้าร่วม คาดเป็นบวก DTAC เนื่องจากจะไม่มีการแข่งขันด้านราคาเกิดขึ้น และได้ใบอนุญาตอย่างน้อย 1 ใบ ซึ่งจะส่งผลให้ DTAC มีกลับมามีความสามารถในการแข่งขันอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ยังแนะนำให้ “หาจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไร” DTAC (Bloomberg Consensus 52.8 บาท) ไปพร้อมกับการติดตามข่าวจาก ADVANC ใกล้ชิด
บอร์ด TLUXE อนุมัติร่วมทุน"ริช พาร์ทเนอร์ส"ในโครงการมิกซ์ยูสในเวียดนามกว่า 900 ลบ. (ที่มา SET news)
NWR ได้งานสร้างบ่อพัก-ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน ร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 1.43 พันลบ.
เอกชัยการแพทย์ ส่งสัญญาณจากนี้ไปธุรกิจของ EKH เข้าสู่ยุคเฟื่องฟู หลังเปิดให้บริการศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ รองรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศและสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้บริหารเผยช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดันผลประกอบการทั้งปีโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 10% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO9044