- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 May 2018 16:53
- Hits: 848
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลัง Bond Yield สหรัฐฯพุ่งขึ้นทะลุ 3% รวมถึงยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุนต่างชาติพลิกมาสุทธิในตลาดหุ้น 2.1 พันลบ. แต่หากตัดรายการ Big Lot JASIF 5.7 พันลบ.ออก ต่างชาติจะพลิกมาขายสุทธิราว 3.6 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways แต่โดยรวมคาดว่าระยะนี้ดัชนียังคงอยู่ในช่วงพักตัวจาก Bond Yield สหรัฐฯยังคงขยับขึ้น รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือซึ่งคาดว่ายังกดดันให้กระแสเงินทุนไหลออกต่อ เรายังประเมินกรอบล่างการพักตัวรอบนี้ที่บริเวณ 1,730-1,740 จุดบวกลบ อย่างไรก็ตามเรามองว่าการปรับฐานของตลาดรอบนี้เป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีอีกครั้งเนื่องจากมองว่าตลาดยังไม่ได้สะท้อนความแข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่จะเร่งตัวขึ้น
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ Laggard ตลาด//สะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงที่ตลาดพักตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$53 นำโดยเกาหลีใต้ US$63, อินโดนีเซีย US$50 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$9 ล้าน ส่วนไทยกลับมาไหลเข้า US$66 ล้าน (แต่หากไม่รวม Big Lot ซื้อ JASIF เงินทุนยังไหลออกจากไทย) แนวโน้มกระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาค เพราะ Bond Yield สหรัฐฯยังปรับขึ้น และยังมีความกังวลเรื่องคาบสมุทรเกาหลี
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> IRPC <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท
ทิศทางช่วงที่เหลือของปีเป็นบวก เพราะราคา HDPE, PP, Jet fuel ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดี และ Crude premium ที่เริ่มทรงตัวถึงปรับลงจะช่วยลดต้นทุนโรงกลั่น
2H18 จะได้แรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ PPE & PPC 3 แสนตัน/ปี เราคาดกำไรทั้งปีนี้ +22% Y-Y อยู่ที่ 1.3 หมื่นลบ.
ระยะสั้นจะได้ sentiment เชิงบวกจากการร่วมทุนกับ WHA ทั้งกำไรจากการขายที่ดิน และประโยชน์จาก EEC ที่จะตามมาในอนาคต
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 1.5% และมีแนวโน้มปรับประมาณการ GDP ปีนี้เพิ่มจากเดิมที่คาด 4.1% เพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากแรงส่งทั้งภาคส่งออกและอุปสงค์ในประเทศที่ดีกว่าการประชุมครั้งก่อน ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ เป็นบวกต่อการบริโภคในประเทศและการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เสี่ยง
(+) SC จากการประชุมวานนี้ Sentiment ขายแนวราบและคอนโดยังไปได้ดี ฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่เดือน เม.ย. ขณะที่การขยายไปจับตลาดใหม่อย่าง Mid-to-Low และต่างจังหวัดได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจ แม้ว่าแนวโน้ม Presales 2Q18 น่าจะชะลอตัว จากการเปิดตัวแนวราบเพียง 1 แห่ง มูลค่า 260 ลบ. แต่คาดทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q18 จากการเปิดตัวใหม่ถึง 11 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นลบ. คงคาดกำไรปีนี้จะกลับมาโตแกร่ง 58% Y-Y เป็น 2 พันลบ. คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท
(0) STA ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้โทนกลางๆ ระยะสั้นอาจเห็นราคายางอ่อนตัวลง เพราะปีนี้เปิดกรีดยางเร็วจากน้ำยางที่ออกมาก ส่วนธุรกิจถุงมือยางค่อนข้างดีทั้งรายได้และมาร์จิ้น ถ้าเพิ่มสัดส่วนได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่ 14% ของรายได้รวม จะช่วยให้ผลกำไรผันผวนน้อยลง ขณะที่ แนวโน้มกำไร 2Q18 น่าจะดีขึ้น เพราะปริมาณขายกลับมาปกติ และทั้งปีน่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ ยังแนะนำแค่เก็งกำไรเมื่อราคายางปรับขึ้น
(+) ERW การประชุมวานนี้โทนเป็นกลาง การเติบโตของกำไร 2Q18 คาดว่าจะชะลอเมื่อเทียบกับ 1Q18 เพราะเริ่มปรับปรุงห้องพัก JW Marriott ใน 2Q18-3Q18 (ปีที่แล้วทำ 3Q17-4Q17) ทำให้มีผลกระทบจากการเหลื่อมช่วงเวลา แต่แนวโน้มทั้งปียังแกร่งคาด +18% Y-Y โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4Q18 ที่มีการเปิดโรงแรมใหม่และเป็น High Season เรายังคงให้ ERW เป็น Top Pick ของกลุ่ม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท
(+) SAT ประชุมวันนี้ แนวโน้มยังสดใสตามอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งฟื้นตัวทั้งยอดขายในประเทศ (ตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้น) และยอดส่งออกไปต่างประเทศ (ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตะวันออกกลาง) คาดกำไร 2Q18 ชะลอตัว Q-Q ตามฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก แต่ยังโตสูง Y-Y แรงหนุนเพิ่มเติมทั้งชิ้นส่วนเครื่องจักรการเกษตรและชิ้นส่วนรถบรรทุกยังเป็นไปตามเป้า แต่ SG&A อาจเพิ่มเล็กน้อยจากการวิจัยพัฒนาเพือต่อยอดการเติบโต ราคาตอนนี้ซื้อขายบน PE ตอนนี้แค่ 11 เท่า ต่ำกว่าช่วงอุตสาหกรรมเร่งตัวที่ 15 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 24.10 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 พ.ค.- อินโดนีเซีย: ประชุมธนาคารกลาง
18 พ.ค.- ญีปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
21 พ.ค.- ไทย: 1Q18 GDP, ยอดส่งออก (เม.ย.)
23 พ.ค.- ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กม. ลูก เลือกตั้ง ส.ว. และ ส.ส.
- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก หลังบริษัท เมซีย์ อิงค์รายงานผลประกอบการออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด
(+) ค่าเงินปอนด์และยูโรที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท เบอร์เบอร์รี่ก็เป็นอีกปัจจัยช่วยหนุนตลาด
(+) ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ได้รับแรงหนุนจากทางฝั่งสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาดูการพบกันระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ รวมไปถึงผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวจากวันก่อนหน้า ล่าสุดค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 0.18 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 71.49 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาด
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,291.50 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO8904