- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 17 May 2018 16:50
- Hits: 1241
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม LH
ราคาปิด 11.20 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
เราคาดราคาหุ้นจะยังมี Sentiment เชิงบวกต่อ หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand โดยมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 31 พ.ค.
สำหรับทิศทางกำไรสุทธิ 2Q61 เรามองว่าแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมถึงการบันทึกกำไรพิเศษจำนวน 949 บาท จากการขาย Service Apartment ในสหรัฐฯ ส่งผลให้การจ่ายเงินปันผลงวด 1H61 อาจอยู่ในระดับสูง สำหรับผลตอบแทนเงินปันผลงวดปี 2561 สูงถึง 7% ต่อปี
สะสม BANPU
ราคาปิด 21.40 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
ราคาหุ้นมี Sentiment เขิงบวก เมื่อราคาถ่านหินล่วงหน้าทั้ง 3 ตลาดปิดบวกวานนี้ โดยราคาล่วงหน้า Newcastle บวกอีก +0.4% ปิดที่ US$104.60/ตัน
เราคงมุมมองเชิงบวกบวกหลังเข้าประชุมวานนี้ คาดปริมาณขายถ่านหินจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 2Q61 หนุนให้กำไรเติบโต QoQ ขณะที่ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มลดลงในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวขึ้น อีกทั้งค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอีกปัจจัยบวกต่อ BANPU
เก็งกำไร IRPC
ราคาปิด 6.85 บาท
ราคาเหมาะสม 8.40 บาท
การประกาศจัดตั้งนิคมอุตฯ 2,152 ไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยองร่วมกับ WHA โดย WHA:IRPC ถือหุ้นในสัดส่วน 60:40 คาดจดทะเบียนเสร็จสิ้นใน 3Q61
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นนี้ เพราะ Unlock Asset Value ให้สะท้อนราคาตลาดได้มากขึ้น คาด IRPC จะมีบันทึกกำไรพิเศษใน 3Q61 จากการขายที่ดินให้กับ JV และการร่วมมือกับ WHA ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนิคมอุตฯ เชื่อว่าจะช่วยต่อยอดกำไรในระยะกลาง และเป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
เก็งกำไร CK
ราคาปิด 25.00 บาท
ราคาเหมาะสม 29.50 บาท
สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 26.00 บาท แนวรับ 24.60-24.80 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 24.40 บาท
เราประเมินแนวโน้มกำไร 2Q61 เติบโต QoQ เด่นจากการรับรู้รายได้จากรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น รวมทั้งเงินปันผลรับจากบริษัทลูก ขณะที่การประมูลงานรถไฟฟ้าสีม่วงส่วนต่อขยาย, รถไฟฟ้าทางคู่เฟส 2 ใน 2H61 เป็น Catalyst ต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
วานนี้ SET INDEX ปิดต่ำกว่าระดับราคาปิด ณ สิ้นปี 2560 อีกครั้ง สวนทางกับภาพรวมตลาดหุ้นในภูมิภาค สะท้อนจากดัชนี MSCI AP ex Japan ปิดบวก 0.13% จากความกังวลต่อการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI รอบ 6 เดือนนี้ ทำให้นักลงทุนสถาบันต่างทยอยลดน้ำหนักหุ้นหลักต่อเนื่อง
อีกทั้งสัญญาณทางเทคนิคเป็นลบมากขึ้นและอาจอ่อนตัวลงทดสอบแนว 1725-1730 จุดได้ในช่วงที่เหลือของเดือนพ.ค. ขณะที่ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน หลังสิ้นสุดการประกาศงบการเงิน 1Q61 เรามีมุมมองเป็น "กลาง" ต่อภาพรวมกำไรใน 1Q61 ทำให้โอกาสที่ตลาดจะปรับ EPS ปีนี้ขึ้นจากปัจจุบันที่ 109-110 บาท/หุ้น เป็นไปได้อย่างจำกัด อีกทั้งความกังวลต่อกรณี MSCI ที่กล่าวในข้างต้น ทำให้เรามองว่า SET INDEX ในช่วง 2 สัปดาห์จากนี้จะค่อยๆ ซึมตัวลงสู่แนวรับหลักดังกล่าวได้
กลยุทธ์โดยรวม เรายังคงเน้น "ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ" ต่อเนื่อง โดยหันไปให้น้ำหนักในกลุ่มที่งบการเงิน 1Q61 ออกมาดีกว่าคาด อย่างกลุ่มอสังหาฯ (LH / SPALI / ORI) กลุ่มรับเหมาฯ (CK / STEC/ UNIQ) กลุ่มยานยนต์ (AH / SAT) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH / EKH) หรือหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว อย่าง KTC / TTW (โอกาสเข้า SET50-SET100) เป็นต้น
HOT Topic
1. IRPC จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับ WHA เรามีมุมมองอย่างไร
2. สรุปภาพรวมเศรษฐกิจจากการประชุมกนง.
3. ต่างชาติรายงานซื้อสุทธิวานนี้ จริงหรือหลอก? มีรายการพิเศษอะไรหรือไม่?
4. ยังชอบ BANPU หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารยิ่งยืนยันภาพเชิงบวกของเรา
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงแรงถึง 16.24 จุด (-0.92%) ปิดที่ 1750.24 จุด โดยมีเพียงหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นเด่นได้แก่ CK +1.63%, STEC +6.15% และ UNIQ +5.3% มูลค่าการซื้อขายทั้งตลาดราว 6.8 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายการ Big Lot หุ้น JASIF ด้วยมูลค่า 5.7 พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 2.13 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการราว 1.6 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 7.4 พันสัญญา นับเป็นวันที่ 2 กว่า 8.6 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศที่กลับมามีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 5.3 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1.2 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เกาหลีเหนือเผยอาจไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกับสหรัฐฯ หากสหรัฐฯยังไม่เลิกกดดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
แหล่งข่าวเผยประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมคว่ำบาตรเวเนซุเอลาครั้งใหม่ต่อการส่งออกน้ำมันดิบ หลังการเลือกตั้งในวันที่ 20 พ.ค. นี้
EU มีมติให้ดำเนินการตามข้อตกลงของอิหร่านต่อไป แม้ว่าสหรัฐฯจะประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว
EIA รายงายสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 7.63 แสนบาร์เรล
IEA เผยปริมาณน้ำมันดิบที่หายไปจากการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน สามารถชดเชยด้วยกำลังการผลิตคงเหลือของสมาชิก OPEC และ รัสเซีย
EU รายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ขยายตัว 1.2% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.7%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ด้วยเสียง 6:0 (กรรมการ 1 ท่านลาประชุม)
กพช.เผย 5 บริษัทน้ำมันที่ยื่นเอกสารเข้าคัดเลือกคุณสมบัติเพื่อเข้าร่วมประมูลแหล่ง เอราวัณ-บงกช ได้แก่ PTTEP, CHEVRON, มูบาดาลา, โททาล และโอเอ็มวี
วันนี้ PYLON และ SGP เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากเดิมที่ 1 บาท เป็น 0.5 บาท
ติดตามการเจรจา NAFTA คาดว่าจะทราบผลสรุปภายในวันที่ 17 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ของญี่ปุ่น ตลาดคาดขยายตัว 0.7% YoY ในวันที่ 18 พ.ค.
ติดตามผลการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8902