- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 15 May 2018 18:21
- Hits: 840
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ ฟันด์โฟลว์อาจผันผวนอีกในช่วงสั้น
KGI คาด SET วันอังคารไซด์เวย์ ตลาดน่าจะชะลอความร้อนแรงหลังปรับขึ้นสองวันทำการติดต่อกัน คาดฟันด์โฟลว์หุ้นเอเชียและหุ้นไทยชะลอเล็กน้อย หลังจาก i) เมื่อคืนนี้ สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ปรับมุมมองดอกเบี้ยสหรัฐฯ เป็นปรับขึ้น 4 ครั้งในปีนี้ (คือขึ้นอีก 3 ครั้งจากนี้) และดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีกลับมายืนที่ 3.0% อีกครั้ง หลังจากราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ และนักลงทุนมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามข่าวล่าสุดว่าสหรัฐฯ และจีนน่าจะเจรจาประเด็นสงครามการค้าได้เพิ่มอีก โดยบลูมเบิร์กรายงานว่าจีนจะลดภาษีนำเข้าถั่วเหลืองของสหรัฐฯ (เป็นบวกต่อราคาถั่วเหลืองโลก) เพื่อแลกกับการที่สหรัฐฯ จะกลับมาอนุญาติให้ บ.ZTE ขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง ii) ฟันด์โฟลว์หุ้นเอเชียนอกจีน อาจได้รับผลกระทบบ้างจากการที่ MSCI เช้าวันนี้ประกาศเพิ่มหุ้นจีน 234 ตัว เข้าในการคำนวณดัชนี MSCI EM Index คิดเป็นน้ำหนัก 0.39% ของดัชนีฯ ในเฟสแรกซึ่งจะมีผลสิ้นวันที่ 31 พ.ค. นี้ (ส่วนการเพิ่มหุ้นจีนเข้า MSCI เฟสที่สองอีก 0.41% จะมีผลในวันที่ 3 ก.ย. 2561) ขณะที่หุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI Thailand Standard นั้น หุ้น LH* ได้เพิ่มเข้า และหุ้น KCE* และ SCC*-F ถูกนำออก (โดย KCE ย้ายไปอยู่ดัชนี MSCI small caps) ด้านปัจจัยภายใน นักลงทุนยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่งบไตรมาส 1/2561 โดดเด่น ในช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการที่จะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร WHA*, CK*, LH*
WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.6 บาท) 1) วานนี้ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ พรบ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 (พรบ EEC) มีผลบังคับใช้วันที่ 15 พ.ค. เป็นต้นไป คาดปลดล๊อกความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการลงทุนในโครงการพื้นที่ภาคตะวันนอก 2) นิคมฯเหมราช ของ WHA* ได้รับการส่งเสริมฯ รวม 9 แห่ง พื้นที่รวม 3.4 หมื่นไร่ (เดิมได้รับการส่งเสริมฯเพียง 1 แห่ง) 2) เราประเมิน Valuation ไม่แพงด้วย PE ปี 2561 เพียง 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ +20 เท่า 3) ประเมินแนวรับ 4.16 บาท / แนวต้าน 4.3 - 4.5 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 3.98 บาท)
CK* (เป้าพื้นฐาน 32.1 บาท) 1) ประเมินราคา Laggard หุ้นลูกอย่าง CKP* และ BEM* โดยหากคำนวณจากราคาปิดของ CKP* และ BEM* วันศุกร์ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ CK* มูลค่าการถือหุ้น บ.ลูกทั้ง 2 คิดเป็น >4 หมื่นล้านบาท (ใกล้เคียงกับ Market cap ของ CK* แล้ว โดยไม่รวมธุรกิจรับเหมาฯ ... ซื้อราคานี้เท่ากับได้ธุรกิจรับเหมาฯฟรี) 2) Catalyst ที่จะหนุนราคาหุ้น CK* คือคาดงานประมูลโครงการต่างๆจะเริ่มมากขึ้นใน 2H61 จากการผ่าน พรบ EEC (ลงราชกิจจาฯแล้วมีผลบังคับใช้วันนี้) และการขายหน่วยลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ กทพ ภายใน 3Q61 นี้ 3) ประเมินแนวรับ 23.9 บาท / แนวต้าน 24.4 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 25.5 บาท (Stop loss 23.3 บาท)
LH* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) 1) เข้าคำนวณ MSCI global standard มีผลสิ้นเดือนนี้ (Surprise ตลาดฯ) 2) Catalyst สำคัญของ LH ในปีนี้อยู่ที่ แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ถึง 3.6 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 260% YoY) โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3.1 หมื่นล้านบาท (+17.9% YoY) 3) Valuation ไม่แพง ด้วย PE 12 เท่าและ Dividend yield ปีนี้ที่คาดจะสูงถึง 7.3% (คาด DPS 0.8 บาท/หุ้น) 4) ประเมินแนวรับ 10.7 บาท / แนวต้านแรก 11 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.6 บาท (Stop loss 10.5 บาท)
หุ้นในกระแส
รายงานผลประกอบการ 1Q61 วันนี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์พื้นฐานวันนี้)
i) กำไรดีกว่าคาด: BGRIM* (ดีกว่าฝ่ายวิจัยฯคาด แต่แย่กว่า Consensus คาด), CENTEL*, ERW*, GULF, PLANB, SCN
ii) กำไรแย่กว่าคาด: MINT*, TOA
iii) กำไรตามคาด: CPN*, EKH, RS*
หุ้นมีข่าว
(0) สั่งแบงก์รับมือมาตรฐานใหม่ธปท.จี้เตรียมความพร้อมตามแผนเดิมแม้เลื่อนใช้ (กรุงเทพธุรกิจ) ยอมรับ'ไอเอฟอาร์เอส9' กระทบสินเชื่อทุกกลุ่ม "แบงก์ชาติ" ให้ธนาคาร พาณิชย์เดินหน้าเตรียมพร้อมรับมาตรฐานบัญชีใหม่ตามแผนเดิม แต่ใช้จริงเมื่อใดขึ้นกับ กกบ. ระบุแม้แบงก์มีความพร้อมหลังเตรียมตัวมากว่า 4 ปีครึ่ง แต่การนำมาใช้ต้องคำนึงถึงส่วนอื่นๆ ทั้งระบบ ยอมรับกระทบกับผู้กู้ทุกกลุ่ม เพราะบัญชีใหม่ให้เปลี่ยนวิธีคำนวณเงินกันสำรอง ทำให้เงินสำรองเพิ่มขึ้น 4-5 หมื่นล้านบาท
(+) บอร์ด KTC* แตกพาร์ ปรับลงมาเหลือ 1 บาท (ข่าวหุ้น) คณะกรรมการ หรือบอร์ดของ “บัตรกรุงไทย”(KTC) มีมติแตกพาร์จาก 10 บาทลงมาเหลือ 1 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นเพิ่มจาก 257.83 ล้านหุ้น เป็น 2,578.33 ล้านหุ้น เตรียมชงเข้าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 6 ก.ค.นี้
(+) SPRC* จ่อฮุบบ.ค้าปลีกน้ำมันไทยเน้นขายในปท.-ปิดความเสี่ยงปตท. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) สตาร์ปิโตรเลียมฯเล็งซื้อบริษัทค้าปลีกน้ำมันในไทย เพื่อเน้นขายน้ำมันในประเทศส่วนใหญ่ที่มีมาร์จินสูงกว่าส่งออก รวมทั้งปิดความเสี่ยงจากสัญญาซื้อน้ำมันระยะยาวจากปตท.ที่อาจจะมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้ เผยปีหน้าทุ่มงบ 130 ล้านเหรียญสหรัฐในการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและขยายกำลังการผลิตเป็น 1.75 แสนบาร์เรล/วัน ในปลายปี 2562
(+) PTG* เดินเครื่องปาล์มคอมเพล็กซ์ จ่อบุ๊คส่วนแบ่งกำไรใน Q3 ส่งซิกงบ Q2 เด้ง! (ข่าวหุ้น) “พีทีจี” เดินเครื่องปาล์มคอมเพล็กซ์แล้ว จ่อบุ๊คส่วนแบ่งกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ คาดทำกำไรปีละ 240 ล้านบาท แย้มผลงาน Q2 โตไม่หยุด รับรู้รายได้ “จิตรมาสฯ” ย้ำยอดขายปีนี้โต 20-25% จ่อร่วมทุนธุรกิจโลจิสติกส์ คาดสรุปปีหน้า
(+) IVL* ทุ่ม 1 หมื่นล.ซื้อ "Avgol" 65% ขยายธุรกิจเส้นใยฯคุณภาพในอิสราเอล (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส ซื้อกิจการ "AVGOL INDUSTRIES" ในประเทศอิสราเอล ผู้ผลิตเส้นใยนันวูเว่นสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยอันดับ 3 ของโลก ในสัดส่วน 65.72% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 10,400 ล้านบาท
(+) ASAP เดินเครื่องเพิ่มฟลีทรถเช่าเพิ่มจุดบริการ-เอื้อทั้งปีโต 30% (ทันหุ้น) ASAP เร่งเครื่องต่อเนื่องเพิ่มฟลีทรถเช่าอีก 1,200 คัน เป้าหมายทั้งปี 5,000 คัน มุ่งมั่นดันธุรกิจโตตามแผน 30% เล็งขยายจุดบริการเพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วนไตรมาส 1/2561 เติบโตต่อเนื่อง ทำรายได้ 608.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.32% พร้อมฟันกำไรสุทธิ 35.49 ล้านบาท โต 6.07%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) ประเมินแนวรับ 3.10 บาท / แนวต้าน 3.3 - 3.6 บาท (Stop loss 3.0 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 20.65 บาท) ประเมินแนวรับ 19.7 บาท / แนวต้าน 21 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.4 บาท)
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) ประเมินแนวรับ 197 บาท / แนวต้าน 201-203 บาท (Stop loss 192.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TOA แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท รายงานกำไรสุทธิ 1Q61 = 541 ล้านบาท (+16% QoQ, +8.8% YoY) ต่ำกว่าฝ่ายวิจัยฯคาด -10% และต่ำกว่าที่ Consensus คาด -15.5% ด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นจน Upside limit จากราคาเป้าหมายแล้ว จึงแนะนำเพียง "ถือ"
TWPC* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 9.3 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ แนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวใน 2Q61 อย่างไรก็ดีจากผลการดำเนินงานที่แย่กว่าคาดใน 1Q61 ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการฯปี 2561-62 ลงเฉลี่ยปีละ 16%
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ต้าน 1774 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1774 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1774-1783 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1774 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลงในกรอบ 1774-1747 จุด
แนวรับวันนี้: 1767/1756 แนวต้านวันนี้: 1774/1782
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO8778