- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 14 May 2018 17:55
- Hits: 965
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม LH
ราคาปิด 10.70 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
รายงานกำไรปกติ 1Q61 ที่ 2,589 ล้านบาท +43% YoY และ +26% QoQ ออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาดถึง 23% จาก Gross Margin ที่เพิ่มขึ้นเป็น 35.7% เทียบกับ 1Q61 ที่ 34.2%
คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบที่ออกมาดีกว่าคาด และทิศทาง 2Q61 คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง QoQ และมี Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการกำไรปี 2561 คือ การขยายอพาร์ทเม้นท์อีกหนึ่งแห่งในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลในระดับสูงได้ต่อเนื่อง
สะสม BJC
ราคาปิด 58.25 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
รายงานกำไรปกติ 1Q61 ที่ 1.35 พันล้านบาท +33% YoY ดีกว่าคาดการณ์ราว 8% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าคาด และ Gross Margin ปรับตัวขึ้นเป็น 18.9% จาก 1Q60 ที่ 18.5%
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q61 คาดกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากฐานที่ต่ำใน 2Q60 และ SSSG ที่เร่งตัวขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลบอลโลกจะช่วยหนุนยอดขาย QoQ ขณะที่กำไรปี 2561 คาดเติบโต +29% YoY เป็น 6.79 พันล้านบาท
สะสม AAV
ราคาปิด 5.60 บาท
ราคาเหมาะสม 8.00 บาท
รายงานกำไรปกติ 1Q61 ที่ 927 ล้านบาท +117% YoY และ +132% QoQ ดีกว่าคาดการณ์ถึง +39% จากแรงได้ที่เร่งตัวขึ้น +23% YoY และ +16% QoQ เป็น 1.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร และ Loading Factor เพิ่มขึ้นเป็น 91%
คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบที่ดีกว่าคาด และประกาศเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.20 บาท ขึ้น XD วันที่ 25 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 3.6%
เก็งกำไร KBANK
ราคาปิด 195.00 บาท
ราคาเหมาะสม 240.00 บาท
ทางเทคนิคราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 197.00 บาท แนวรับ 194.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 193.00 บาท
กลุ่มธนาคารมีปัจจัยหนุนช่วงสั้น โดยคาดว่าหากมีการเลื่อนใช้ IFRS9 ออกไป จะส่งผลให้แรงกดดันของการตั้งสำรองลดลง และราคาหุ้นมี Downside Risk จำกัด เนื่องจากปรับตัวลงถึง -15.9% YTD
Pair Trade : n.a.
กลยุทธ์วันนี้
ประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ มีโอกาสซึมตัว ด้วยกรอบแกว่งระหว่าง 1760-1770 จุด หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฟื้นตัวแรงถึง 19 จุด หรือราว +1.1% อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามา ประกอบกับ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงราว 0.9% เนื่องจากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 13 แท่น เป็น 1,045 แท่น สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2558 ถือเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ให้พักตัว
โค้งสุดท้ายของฤดูกาลรายงานผลการดำเนินงานงวด 1Q61 (Earnings Season) ภาพรวมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่รายงานกำไรดีกว่าคาด ได้แก่ AAV/ BJC/ SAT/ ORI/ LH/ STEC ส่วนบริษัทที่รายงานต่ำกว่าคาด คือ WORK จากต้นทุนที่สูงกว่าคาด ทำให้ราคาหุ้นรายตัว จะแกว่งตัวไปตามทิศทางผลประกอบการที่ออกมา (ติดตามบทวิเคราะห์ Earnings Result เช้านี้)
เรามองว่า ภาพของ SET INDEX ในเดือนนี้ เป็นการแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น และจากแนวโน้มผลประกอบการที่ประกาศออกมา โอกาสที่นักวิเคราะห์ในตลาดจะปรับประมาณการขึ้นมีค่อนข้างจำกัด
ดังนั้น กลยุทธ์หลักของเราในระยะกลาง คือ "ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ" ในขณะที่ กลยุทธ์ระยะสั้น เราแนะนำเก็งกำไรต่อหุ้นที่รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ราคาหุ้นน่าจะกลับมามีสีสันในช่วงสั้น
HOT Topic
1. สรุปภาพรวมงบ 1Q61 ที่ออกล่าสุด ส่วนใหญ่ดีกว่าคาดการณ์ ได้แก่ ORI, LH, BJC, SAT, AAV
2. ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 15 วันทำการ เรามองอย่างไร?
3. น้ำมันย่อตัวลง หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯทำระดับสูงสุดตั้งแต่ มี.ค.2558
4. ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตาม คือ การประกาศดัชนี MSCI ในเช้าวันอังคาร และการประชุมกนง.ในวันพุธ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 19.04 จุด (+1.09%) มาปิดที่ 1765.93 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.2 หมื่นล้านบาท โดยหลักมาจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีสะท้อนจาก ดัชนี SET50 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.81 จุด (+1.28%) ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 15 วันราว 2 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.1 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิสะสมทั้งสิ้น 1.9 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิวันที่ 4 ติดต่อกันราว 7 พันสัญญา รวม 4 วัน Short สุทธิทั้งสิ้นราว 3.2 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิวันที่ 2 ติดต่อกันราว 839 สัญญา รวม 2 วัน Long สุทธิไปทั้งสิ้น 2.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 2.4 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 691 สัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันที่ 5 ติดต่อกันอีกเล็กน้อยราว 574 ล้านบาท รวม 5 วันขายสุทธิทั้งสิ้น 3.9 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ประกาศว่า ฐานทดลองนิวเคลียร์ เตรียมหยุดปฏิบัติการ และรื้อถอนในระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค.นี้ พร้อมเชิญสื่อต่างประเทศร่วมสังเกตการณ์ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯพร้อมยุติการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือ ปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์ (ไม่มีสิทธิออกเสียง) เผย Fed ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ให้อยู่ในระดับที่ต้องการ
ผลการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี NAFTA (US+CANADA+MEXICO) ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยรัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้ NAFTA ฉบับใหม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสภายในวันที่ 17 พ.ค.
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10 แท่น เป็น 844 แท่น ในสัปดาห์ที่แล้ว
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน และคาดจะเสนอชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ เดือน ก.ค.นี้
ครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.ก.ประกอบธุรกิจทรัพย์สินดิจิตอลและร่างแก้ไขประมวลรัษฎากรเพื่อการจัดเก็บภาษีรายได้และเงินปันผลที่ลงทุนเงินสกุลดิจิตอล
ติดตามการประกาศปรับดัชนี MSCI ในช่วงเช้าพรุ่งนี้ ตามเวลาในประเทศไทย
ติดตามการรายงาน GDP 1Q61 ของยูโรโซน วันที่ 15 พ.ค.
ติตดามการประชุม กนง. วันที่ 16 พ.ค.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น 1Q61 ตลาดคาดหดตัว 0.1% และการรายงานเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของยูโรโซน ในวันที่ 16 พ.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของญี่ปุ่น ตลาดคาดขยายตัว 0.7% YoY ในวันที่ 18 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8718