- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 09 May 2018 17:25
- Hits: 592
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายสูง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรอย่าง PTT, PTTEP, PTTGC และ IVL, กลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, TRUE, DTAC และกลุ่มโรงไฟฟ้าเกิดแรงขายทำกำไรนำโดย GULF, GPSC และ BCPG ในขณะที่เห็นแรงซื้อในกลุ่มอาหารและอิเล็กทรอนิกส์อย่าง KCE, HANA, DELTA และ TU และกลุ่มธนาคารเกิด Technical rebound ภายหลังมีกระแสข่าวชะลอการใช้ IFRS9 อย่าง BBL, SCB, KBANK ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,760.2 จุด (-19.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,868 ล้านบาท (MTD – 12,763 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 16,121 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายสูง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรอย่าง PTT, PTTEP, PTTGC และ IVL, กลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, TRUE, DTAC และกลุ่มโรงไฟฟ้าเกิดแรงขายทำกำไรนำโดย GULF, GPSC และ BCPG ในขณะที่เห็นแรงซื้อในกลุ่มอาหารและอิเล็กทรอนิกส์อย่าง KCE, HANA, DELTA และ TU และกลุ่มธนาคารเกิด Technical rebound ภายหลังมีกระแสข่าวชะลอการใช้ IFRS9 อย่าง BBL, SCB, KBANK ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,760.2 จุด (-19.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 2,868 ล้านบาท (MTD – 12,763 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 16,121 สัญญา
Investment theme
SET แกว่งตัวตามกลุ่มพลังงาน ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาว: ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา SET มีทิศทางสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างเด่นชัด โดยค่า R-square YTD สูงกว่า 0.82 ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 0.50) โดยเฉพาะกลุ่ม PTT อย่างเช่น PTT, PTTEP สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และถือเป็นเหตุลที่ทำให้ตลาดหุ้นประเทศไทยและมาเลเซีย outperformed เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอย่าง อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ปรับลงเฉลี่ยประมาณ 10% โดยเรามีมุมมองเชิงลบจากประเด็นดังกล่าวและมองว่าการที่ SET ปรับขึ้นจากกลุ่มพลังงานอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่าง ก่อสร้าง, อสังหา และ MAI ที่สะท้อนกลุ่ม SME ติดลบ ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาวและทำให้ SET ปรับขึ้นอย่างไม่มีเสถียรภาพ ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา Trump ได้แถลงนำพาสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมประกาศแผนมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่อาจใช้เวลาประมาณ 90-180 วันในการพิจารณาแผนการคว่ำบาตรครั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นการเปิดทางให้เกิดการเจรจาได้ ลักษณะคล้าย Trade war ที่เปิดช่องเวลาให้มีการเจรจากับจีน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าการผลิตน้ำมันจากอิหร่านจะลดลงด้วยปริมาณเท่าไร (นักวิเคราะห์คาดประมาณ 200,000-500,000 บาร์เรล) จากกำลังผลิตประมาณ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
Investment Theme: แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 30% พร้อมเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน และหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่ยังมีความเสี่ยง (ธนาคาร, โรงกลั่น)
Big issue
SET แกว่งตัวตามกลุ่มพลังงาน ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาว: ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา SET มีทิศทางสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างเด่นชัด โดยค่า R-square YTD สูงกว่า 0.82 ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 0.50) โดยเฉพาะกลุ่ม PTT อย่างเช่น PTT, PTTEP สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และถือเป็นเหตุลที่ทำให้ตลาดหุ้นประเทศไทยและมาเลเซีย outperformed เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอย่าง อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ปรับลงเฉลี่ยประมาณ 10% โดยเรามีมุมมองเชิงลบจากประเด็นดังกล่าวและมองว่าการที่ SET ปรับขึ้นจากกลุ่มพลังงานอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่าง ก่อสร้าง, อสังหา และ MAI ที่สะท้อนกลุ่ม SME ติดลบ ถือเป็นความเสี่ยงในระยะยาวและทำให้ SET ปรับขึ้นอย่างไม่มีเสถียรภาพ ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา Trump ได้แถลงนำพาสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน พร้อมประกาศแผนมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ แต่อาจใช้เวลาประมาณ 90-180 วันในการพิจารณาแผนการคว่ำบาตรครั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นการเปิดทางให้เกิดการเจรจาได้ ลักษณะคล้าย Trade war ที่เปิดช่องเวลาให้มีการเจรจากับจีน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าการผลิตน้ำมันจากอิหร่านจะลดลงด้วยปริมาณเท่าไร (นักวิเคราะห์คาดประมาณ 200,000-500,000 บาร์เรล) จากกำลังผลิตประมาณ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
Investment Theme: แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 30% พร้อมเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน และหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่ยังมีความเสี่ยง (ธนาคาร, โรงกลั่น)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สนง.ศุลกากรจีนรายงานตัวเลขส่งออกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 12.9% ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงกว่า 21.5% เกินดุลการค้า 2.87 หมื่นล้านดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนรับมือ Capital outflow
ปัจจุบันเราพบว่า มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นฝั่งเอเชียสูงนำโดยประเทศ ไต้หวัน,เกาหลีใต้, อินโดนีเซียและไทย ส่วนหนึ่งเกิดจาก Dollar index ที่กลับมาแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น ถือเป็นต้นทุนการลงทุนที่สูงขึ้น
เรามองกรอบแนวรับ SET บริเวณ 1,760 และ 1,730 จุด โดยหากอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยตลาดหุ้น PER 5 ปีย้อนหลังพบว่าอยู่บริเวณ 1,690 จุด ปัจจุบันหุ้นหลายกลุ่มในตลาดตอนนี้เผชิญกับความเสี่ยง และมี Downside นำโดยกลุ่มธนาคาร, กลุ่มโรงกลั่น, กลุ่ม TV Digital และอื่นๆ ในขณะที่ปัจจุบันขาดกลุ่มที่มีปัจจัยบวกอย่างมีนัยยะในการพยุง SET
อย่างไรก็ตาม เราแนะซื้อกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CPN) และ รถไฟฟ้า (BTS) เมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณ 9.10 บาท และกลุ่มอาหารที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทและคาดผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2 เป็นต้นไป (คาดงบ1Q อ่อนตัว แต่เป็นโอกาสซื้อ) เช่น TKN แนะทยอยสะสม หลังงบออก
Technical View
หลุดแนวรับไหล่ขวา แนวโน้มกลับเป็นขาลงอีกครั้ง: แรงขายหุ้นกลุ่ม Big Cap. โดยเฉพากลุ่มพลังงาน ดัชนีจึงปรับตัวลงหลุดแนวรับไหล่ชวาของรูปแบบกลับตัวขึ้นแบบ Head and Shoulders หัวกลับที่ 1770 ทำให้รูปแบบดังกล่าวเสียไป และ Downside เปิดมากขึ้น มองแนวรับถัดไปที 1755 และ 1740 เนื่องจากเสียทรงการกลับตัวขึ้น จึงแนะนำให้ชะลอการลงทุน จนกว่าดังนีจะเริ่มสร้างฐานที่แนวรับและแนะนำจำกัดการลงทุนและเล่นเพียง Rebound สั้นๆ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ขายทำกำไรบางส่วนเนื่องจากหลุดแนวรับ 1770 และพิจารณาแรงขายตามแนวรับถัดๆไป 2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่แนวรับ จนกว่าดัชนีจะหยุดลง การ Trading แนะนำเป็นการเล่น Rebound สั้นๆ
แนวรับ : 1755, 1740 แนวต้าน : 1770, 1780
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: มาเลเซียเลือกตั้ง 9 พ.ค. นี้ /Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค. /
ปัจจัยในประเทศ: -
แนวรับ : 1755, 1740 แนวต้าน : 1770, 1780
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: มาเลเซียเลือกตั้ง 9 พ.ค. นี้ /Trump เดินทางเยือนเกาหลีใต้ 22 พ.ค. /
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
CPN (B 77.00-77.50, Tp 80.00//82.00, Cut 76.00)
CPALL (B 87.00, Tp 90.00, Cut 85.00)
CPN (B 77.00-77.50, Tp 80.00//82.00, Cut 76.00)
CPALL (B 87.00, Tp 90.00, Cut 85.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO8552
Research Department Tel. 02-658-5000
OO8552