- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 03 May 2018 18:26
- Hits: 8154
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้เกือบตลอดทั้งวันตามคาด ก่อนที่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายจะปรับตัวบวกขึ้นแรงนำโดยหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีและพลังงาน นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 อีก 1.3 พันลบ. (แต่เริ่มพลิกมา Net Long ใน Index Futures ราว 1.6 พันสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิ 1.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัว Sideways Down แม้ FED จะคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ระบุว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯกำลังเข้าใกล้เป้าหมายของ FED ที่ 2% ซึ่งทำให้ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่อาจเห็นการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ (โอกาสขึ้นครั้งที่ 4 ล่าสุดอยู่ที่ราว 38%) ซึ่งเราเชื่อว่าตลาดยังไม่ได้ตอบรับกับปัจจัยดังกล่าวนัก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการพักฐานระยะสั้น จึงยังมองว่าหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดและมีการถือครองของต่างชาติที่ต่ำน่าจะสามารถ Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 1Q18 แข็งแกร่งและยัง Laggard ตลาด
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$291ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$179ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$42ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลังการประชุม Fed คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EA <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท
EA เป็นหุ้นแนะนำในบทวิเคราห์รายเดือน (Finansia Momentum) ของเรา และเป็นหุ้นเด่นที่เราคัดกรองได้จากแอพพลิเคชั่น Finansia HERO
คาดกำไร 1Q18 +12% Q-Q, +3% Y-Y แตะ 1 พันลบ. เป็นครั้งแรก จากการรับรู้รายได้พลังงานลมเต็มไตรมาส และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน 4Q17 ส่วนกำไรทั้งปี 2018 เราคาด +28% Y-Y อยู่ที่ 4.8 พันลบ. จากการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มอีก 260MW ใน 4Q18
ราคาหุ้น -31% YTD แย่กว่ากลุ่มที่ +1% YTD ขณะที่ ยอด Short Sales เฉลี่ยต่อวันใน เม.ย. 18 ลดลง 24% M-M และ NVDR พลิกกลับมาซื้อ 43 ลบ. หลังจากขายหนักถึง 406 ลบ. ใน มี.ค. 18
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้เกือบตลอดทั้งวันตามคาด ก่อนที่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายจะปรับตัวบวกขึ้นแรงนำโดยหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีและพลังงาน นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 อีก 1.3 พันลบ. (แต่เริ่มพลิกมา Net Long ใน Index Futures ราว 1.6 พันสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิ 1.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัว Sideways Down แม้ FED จะคงดอกเบี้ยตามคาด แต่ระบุว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯกำลังเข้าใกล้เป้าหมายของ FED ที่ 2% ซึ่งทำให้ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่อาจเห็นการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ (โอกาสขึ้นครั้งที่ 4 ล่าสุดอยู่ที่ราว 38%) ซึ่งเราเชื่อว่าตลาดยังไม่ได้ตอบรับกับปัจจัยดังกล่าวนัก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการพักฐานระยะสั้น จึงยังมองว่าหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดและมีการถือครองของต่างชาติที่ต่ำน่าจะสามารถ Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 1Q18 แข็งแกร่งและยัง Laggard ตลาด
หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$291ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$179ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$42ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลังการประชุม Fed คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EA <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท
EA เป็นหุ้นแนะนำในบทวิเคราห์รายเดือน (Finansia Momentum) ของเรา และเป็นหุ้นเด่นที่เราคัดกรองได้จากแอพพลิเคชั่น Finansia HERO
คาดกำไร 1Q18 +12% Q-Q, +3% Y-Y แตะ 1 พันลบ. เป็นครั้งแรก จากการรับรู้รายได้พลังงานลมเต็มไตรมาส และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน 4Q17 ส่วนกำไรทั้งปี 2018 เราคาด +28% Y-Y อยู่ที่ 4.8 พันลบ. จากการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มอีก 260MW ใน 4Q18
ราคาหุ้น -31% YTD แย่กว่ากลุ่มที่ +1% YTD ขณะที่ ยอด Short Sales เฉลี่ยต่อวันใน เม.ย. 18 ลดลง 24% M-M และ NVDR พลิกกลับมาซื้อ 43 ลบ. หลังจากขายหนักถึง 406 ลบ. ใน มี.ค. 18
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ผลประชุม FOMC คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50-1.75% แถลงการณ์ของเฟดที่ย้ำว่าเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อใกล้เข้าใกล้เป้าที่ 2% เท่ากับเปิดโอกาสที่ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้มากกว่า 3 ครั้ง ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาการประชุม FOMC ครั้งหน้า 12-13 มิ.ย. ซึ่งจะมีตัวเลข Dotplot ให้เห็นความชัดเจนดังกล่าว ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจใช้เวลาซึมซับข่าวการเร่งตัวขึ้นของดอกเบี้ยอีกระยะหนึ่งแต่เป็นเวลาชั่วคราว เราเชื่อว่าผลประกอบการของบจ.จะมีน้ำหนักมากกว่าในระยะถัดไป
(0) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯดีกว่าคาด โดยมีการจ้างงาน 204,000 คนใน เม.ย. 18 ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 200,000 คน แต่เป็นตัวเลขที่ชะลอเป็นเดือนที่ 4 และมีการปรับตัวลงของ มี.ค. 18 ลงเหลือ 228,000 คน จาก 246,000 คน ตัวเลขจ้างงานที่เกิน 200,000 คนต่อเดือนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี หลังจากนี้ต้องตามต่อกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเปิดเผยคืนวันศุกร์ ตลาดคาด 190,000 คน และคาดอัตราการว่างงานลดจาก 4.1% เหลือ 4.0% ซึ่งถ้าเป็นจริงจะหนุนดอลล่าร์แข็ง และ U.S. T-Bond Yield ขึ้นต่อเนื่อง
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยงวด เม.ย. 18 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 80.9 สูงสุดในรอบ 40 เดือน จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่ ดัชนีการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และการท่องเที่ยวดีขึ้นทั้งหมด เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPALL ROBINS RSP IT) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT ERW) กลุ่มอสังหาฯ (ORI SC) และกลุ่มยานยนต์ (SAT PCSGH)
(0) HMPRO ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้โทนเป็นกลาง SSSG เดือน เม.ย. +2% Y-Y ซึ่งถือว่าชะลอเมื่อเทียบกับ +3.1% Y-Y ใน 1Q18 เพราะถูกกระทบจากฝนตกหนัก ปีนี้จะเน้นเปิดสาขาในประเทศและสาขาขนาดเล็ก ส่วนที่มาเลเซียจะปรับสาขาเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวโน้มกำลังซื้อในจังหวัดท่องเที่ยว, เมืองอุตสาหกรรม, และกทม. โตดีต่อเนื่อง เหลือเพียงภาคเกษตรที่ยังฟื้นช้า เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +20% Y-Y อยู่ที่ 5.9 พันลบ. แต่ Upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 15.5 บาท จึงแนะนำถือ
(0) BIG ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำ New Low ในระยะหลังมาจากแนวโน้มกำไร 1Q18 ที่มีโอกาสชะลอ โดยเราคาด -15% Q-Q และ -12% Y-Y เป็น 211 ลบ. เพราะยอดขาย ม.ค. 18 ทรุดหนักเนื่องจากผู้ซื้อรอเปิดตัว Mirrorless รุ่นใหม่ของหลายยี่ห้อ อีกทั้งความต้องการยังถูกดึงไปกับโครงการช้อปช่วยชาติปลายปีก่อน อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย และยอดขายเดือน เม.ย. 18 ก็เร่งตัวขึ้นตามฤดูท่องเที่ยวและการจัดงาน Big Camera Festival ทำให้เราคาดกำไร 2Q18 จะโตสูง 40-45% Y-Y อยู่ที่ 220 ลบ. คาดการณ์ทั้งปีที่ 833 ลบ. +8% Y-Y ของเราจึงไม่ได้สูงเกินไป PE2018 ต่ำเพียง 11 เท่า ปันผลสูง 5-6% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท
(0) ผลประชุม FOMC คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50-1.75% แถลงการณ์ของเฟดที่ย้ำว่าเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อใกล้เข้าใกล้เป้าที่ 2% เท่ากับเปิดโอกาสที่ Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้มากกว่า 3 ครั้ง ทั้งนี้ ตลาดยังจับตาการประชุม FOMC ครั้งหน้า 12-13 มิ.ย. ซึ่งจะมีตัวเลข Dotplot ให้เห็นความชัดเจนดังกล่าว ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจใช้เวลาซึมซับข่าวการเร่งตัวขึ้นของดอกเบี้ยอีกระยะหนึ่งแต่เป็นเวลาชั่วคราว เราเชื่อว่าผลประกอบการของบจ.จะมีน้ำหนักมากกว่าในระยะถัดไป
(0) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯดีกว่าคาด โดยมีการจ้างงาน 204,000 คนใน เม.ย. 18 ดีกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 200,000 คน แต่เป็นตัวเลขที่ชะลอเป็นเดือนที่ 4 และมีการปรับตัวลงของ มี.ค. 18 ลงเหลือ 228,000 คน จาก 246,000 คน ตัวเลขจ้างงานที่เกิน 200,000 คนต่อเดือนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี หลังจากนี้ต้องตามต่อกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะเปิดเผยคืนวันศุกร์ ตลาดคาด 190,000 คน และคาดอัตราการว่างงานลดจาก 4.1% เหลือ 4.0% ซึ่งถ้าเป็นจริงจะหนุนดอลล่าร์แข็ง และ U.S. T-Bond Yield ขึ้นต่อเนื่อง
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยงวด เม.ย. 18 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 อยู่ที่ 80.9 สูงสุดในรอบ 40 เดือน จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีต่อเนื่อง ขณะที่ ดัชนีการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และการท่องเที่ยวดีขึ้นทั้งหมด เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPALL ROBINS RSP IT) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT ERW) กลุ่มอสังหาฯ (ORI SC) และกลุ่มยานยนต์ (SAT PCSGH)
(0) HMPRO ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้โทนเป็นกลาง SSSG เดือน เม.ย. +2% Y-Y ซึ่งถือว่าชะลอเมื่อเทียบกับ +3.1% Y-Y ใน 1Q18 เพราะถูกกระทบจากฝนตกหนัก ปีนี้จะเน้นเปิดสาขาในประเทศและสาขาขนาดเล็ก ส่วนที่มาเลเซียจะปรับสาขาเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวโน้มกำลังซื้อในจังหวัดท่องเที่ยว, เมืองอุตสาหกรรม, และกทม. โตดีต่อเนื่อง เหลือเพียงภาคเกษตรที่ยังฟื้นช้า เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +20% Y-Y อยู่ที่ 5.9 พันลบ. แต่ Upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 15.5 บาท จึงแนะนำถือ
(0) BIG ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำ New Low ในระยะหลังมาจากแนวโน้มกำไร 1Q18 ที่มีโอกาสชะลอ โดยเราคาด -15% Q-Q และ -12% Y-Y เป็น 211 ลบ. เพราะยอดขาย ม.ค. 18 ทรุดหนักเนื่องจากผู้ซื้อรอเปิดตัว Mirrorless รุ่นใหม่ของหลายยี่ห้อ อีกทั้งความต้องการยังถูกดึงไปกับโครงการช้อปช่วยชาติปลายปีก่อน อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย และยอดขายเดือน เม.ย. 18 ก็เร่งตัวขึ้นตามฤดูท่องเที่ยวและการจัดงาน Big Camera Festival ทำให้เราคาดกำไร 2Q18 จะโตสูง 40-45% Y-Y อยู่ที่ 220 ลบ. คาดการณ์ทั้งปีที่ 833 ลบ. +8% Y-Y ของเราจึงไม่ได้สูงเกินไป PE2018 ต่ำเพียง 11 เท่า ปันผลสูง 5-6% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 พ.ค.- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (มี.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการวันรัฐธรรมนูญ
4 พ.ค.- สหรัฐฯ: ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
7 พ.ค.- อินโดนีเซีย: 1Q18 GDP
8 พ.ค.- จีน: ดุลการค้า (เม.ย.)
21 พ.ค.- ไทย: 1Q18 GDP
23 พ.ค.- ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กม. ลูก เลือกตั้ง ส.ว. และ ส.ส.
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลงหลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวเข้าใกล้เป้าหมายของ FED ในระยะยาว ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องสงครามทางการระหว่างสหรัฐและจีนที่ตลาดกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการบรษัทจดทะเบียนและการพุ่งขึ้นจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน แม้ว่าตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนจะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ แต่ก็ถูกหักล้างด้วยความกังวลในเรื่องเงินทุน ที่เริ่มไหลออกจากตลาดเกิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
() ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 0.68 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 67.93 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง แม้ว่าสต็อคน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาเรลล์ก็ตาม
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,305.60 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO8295
3 พ.ค.- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (มี.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- ญี่ปุ่น: ตลาดหุ้นปิดทำการวันรัฐธรรมนูญ
4 พ.ค.- สหรัฐฯ: ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
7 พ.ค.- อินโดนีเซีย: 1Q18 GDP
8 พ.ค.- จีน: ดุลการค้า (เม.ย.)
21 พ.ค.- ไทย: 1Q18 GDP
23 พ.ค.- ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติ กม. ลูก เลือกตั้ง ส.ว. และ ส.ส.
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลงหลังจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวเข้าใกล้เป้าหมายของ FED ในระยะยาว ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องสงครามทางการระหว่างสหรัฐและจีนที่ตลาดกลับมาให้ความสนใจอีกครั้ง
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการบรษัทจดทะเบียนและการพุ่งขึ้นจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน
(0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน แม้ว่าตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนจะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ แต่ก็ถูกหักล้างด้วยความกังวลในเรื่องเงินทุน ที่เริ่มไหลออกจากตลาดเกิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ
() ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวขึ้น 0.68 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 67.93 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง แม้ว่าสต็อคน้ำมันดิบในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาเรลล์ก็ตาม
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,305.60 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO8295