- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 02 May 2018 17:16
- Hits: 929
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรรายตัวบนผลการดำเนินงาน 1Q61
Smart Pick
สะสม BANPU
ราคาปิด 19.40 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
คาดว่าหุ้นกลุ่มถ่านหินจะ Outperform ตลาด เนื่องจากราคาถ่านหินล่วงหน้าปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ตลาด และราคาถ่านหิน Newcastle Spot ล่าสุดปิดที่ US$102.50/ตัน ทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เราคาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตสูง YoY แม้กำไรสุทธิอาจได้รับแรงกดดันจากการตั้งสำรองคดีหงสาจำนวน 2.7 พันล้านบาท แต่เชื่อว่าไม่ใช่ประเด็นลบใหม่ต่อตลาดแล้ว ขณะที่ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 7 เท่า และให้ Dividend Yield 5.5%
สะสม CPALL
ราคาปิด 87.00 บาท
ราคาเหมาะสม 103.00 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 5.4 พันล้านบาท +14% YoY จาก SSSG ที่เพิ่มขึ้น +3% ในทิศทางเดียวกับการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว
มีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง-ยาว จากการขยายสาขาทั้งของ 7-11 และ MAKRO ดังนั้น คาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +17% YoY เป็น 2.31 หมื่นล้านบาท และต่อเนื่อง +12% YoY เป็น 2.58 หมื่นล้านบาทในปี 2562
เก็งกำไร AAV
ราคาปิด 5.85 บาท
ราคาเหมาะสม 7.40 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโต +56% YoY และ +66% QoQ เป็น 665 ล้านบาท จากราคาตั๋วเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น +5% YoY และ +10% QoQ เป็น 1,650 บาท รวมทั้งการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
มี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรปี 2561 หากกำไรออกมาใกล้กับคาดการณ์จะคิดเป็นสัดส่วน 54% ของประมาณการกำไรปกติปี 2561 ที่ 1.23 พันล้านบาท จึงเชื่อว่ามีโอกาสที่เราและ Consensus จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นและเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น
เก็งกำไร IVL
ราคาปิด 60.25 บาท
เป้าหมายทางเทคนิค 62.00 บาท
คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค หลังปิดเหนือ 60.00 บาท จึงคาดว่ามีโอกาสขึ้นทดสอบ 62.00 บาท แนวรับ 59.75 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 59.00 บาท
แนวโน้มกำไรปกติ 1Q61 คาดเติบโตสูงทั้ง YoY และ QoQ จาก PTA Spread ที่ปรับตัวขึ้น และการเปิด Ethane Cracker ในปี 2561 จะเป็นปัจจัยการผลักดันการเติบโตของกำไร
Pair Trade : n.a
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX ปิดเดือน เม.ย. ที่ 1780.11 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.94 จุด (+0.7%) ตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ ถือว่า เป็นไปตามสถิติที่เราเคยประเมินไว้ ว่า SET INDEX มักปรับตัวเพิ่มขึ้นบ่อยครั้งในช่วงครึ่งหลังของเดือน เม.ย.
สำหรับ ทิศทางในเดือน พ.ค. เชิงสถิติ บ่งชี้ว่า เป็นเดือนที่ SET INDEX ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก กล่าวคือ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนนี้เพียง 4 จาก 10 ปีหลังสุด นับว่า แย่สุดเมื่อเทียบกับอีก 11 เดือนที่เหลือ ทำให้มีคำกล่าวว่า "Sell in May and Go Away" ทั้งนี้ เรามองว่า ทิศทางของ SET INDEX ในเดือนนี้ จะถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ, การรายงานผลการดำเนินงาน 1Q61 (จนถึงวันที่ 15 พ.ค.), การปรับดัชนี MSCI (เช้าวันที่ 15 พ.ค.)
เช้านี้ เราออกบทวิเคราะห์ Initiate หุ้น CPALL ประเมินจุดแข็ง คือ การเติบโตของผลประกอบการอย่างมั่นคง ด้วยแผนการขยายสาขา 7-Eleven 700 แห่งต่อปี และ MAKRO 8 แห่งต่อปี คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยราว 16% ต่อปี (CAGR) ในช่วง 5 ปี แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 103 บาท มี Upside จากราคาหุ้นปัจจุบัน 18.4%
ประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างกรอบ 1775-1785 จุด ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำเก็งกำไรงบ 1Q61 (Earnings Plays) ในกลุ่มสื่อสาร (ADVANC/ TRUE), ปิโตรเคมี (PTTGC), ค้าปลีก (BJC/ CPALL), ขนส่ง-ท่องเที่ยว (BEM/ AAV) รวมถึง Commodity Play กลุ่มถ่านหินอย่าง BANPU ซึ่งมี Sentiment เชิงบวกจากราคาถ่านหิน Newcastle ปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่น ทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน
HOT Topic
1. Dollar Index แข็งค่าสูงสุดรอบเกือบ 4 เดือน, Bond Yield ฟื้นตัว ติดตามการประชุมเฟดวันนี้
2. ถ่านหินปรับล่วงหน้าปรับตัวขึ้นแรง โดยตลาด Newcastle +2.6% ยืนเหนือ US$100.00/ตัน ปิดที่ US$102.05/ตัน เราคงมุมมองบวกต่อเนื่องกับ BANPU
3. บทวิเคราะห์ Initiate หุ้นค้าปลีก จะเป็นหุ้นตัวใด?
4. ติดตามประเด็นเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 3 พ.ค.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันจันทร์ที่ผ่านมา SET INDEX กลับขึ้นมาปิดเหนือ 1780 จุด ปิดที่ 1780.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด ได้ผลบวกจากหุ้น BJC (+2.14%) , KTC (+5.17%) และ HMPRO (+2.04%) กระทบดัชนีราว 1.7 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเป็นวันที่ 7 ราว 2.7 พันล้านบาท รวม 7 วันขายสุทธิทั้งสิ้น 1.3 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 2.1 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิสะสมทั้งสิ้น 4.3 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีกราว 3.3 พันสัญญา รวม 4 วัน Short สุทธิสะสมกว่า 1.9 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long เล็กน้อยราว 656 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 5.7 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชีบล. มีสถานะ Short สุทธิราว 6.4 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันราว 1.1 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ขยายตัว 1.07% YoY มากกว่าที่ตลาดคาด 0.9% YoY สูงสุดในรอบ 14 เดือน โดยหลักมาจากหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.64% YoY
สหรัฐรายงานเงินเฟ้อ PCE เดือนมี.ค. ขยายตัว 2.0% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.9% YoY
สหรัฐฯ ประกาศยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมให้ EU แคนาดา และเม็กซิโก จนถึง 1 มิ.ย. เพื่อให้เวลาในการเจรจาด้านการค้ากับสหรัฐฯ
ยอดส่งออกน้ำมันดิบของประเทศอิหร่าน พุ่งสู่ระดับ 2.617 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2559
ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. เท่ากับ 57.3 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 58.5 และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 59.3 นับเป็นการลดลง 2 เดือนติดต่อกัน
ติดตามการรายงาน GDP EU 1Q61 ตลาดคาดขยายตัว 2.6% YoY ในวันนี้
ติดตามการประชุม Fed วันนี้
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อยุโรป ตลาดคาดขยายตัว 1.3% YoY วันที่ 3 พ.ค.
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ วันที่ 4 พ.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO8213