- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 April 2018 17:18
- Hits: 10686
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“US Bond Yield อ่อนลง...Sentiment ดีขึ้น”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BH (จากซื้อเป็น Fully Valued), DELTA (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : ต่างประเทศ – Sentiment ดีขึ้นหลัง US Bond Yield ลดลง ล่าสุดอายุ 10 ปีลงมาที่ 2.98% หลังขึ้นไปสูงสุด 3.036% เมื่อวานนี้ ส่วนค่าเงิน US$ ทรงตัวที่ 91.5-91.6 และ VIX ลดลงมายัง 16.24% จากสูงสุด 19.6% เมื่อ 2 วันก่อน รวมทั้งประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการการเงินผ่อนคลายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ โดยคงดอกเบี้ยและวงเงิน QE ไว้เท่าเดิมที่ 3 หมื่นล้านยูโรถึงก.ย.61
ในประเทศ – SET Index วานนี้ถอยลงมาอีก 6.32 จุดปิดที่ 1773.20 แม้หุ้นแบงค์จะเริ่มบวกได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังถูกกดันด้วยการขายทำกำไรในหุ้นพลังงาน อิเลคทรอนิกส์ และสื่อทีวีดิจิตอล นลท.สถาบันในประเทศนำขายสุทธิ และต่างชาติขายสุทธิขายสุทธิต่อ
Update กลุ่มและหุ้น : PTTEP - Core profit งวด 1Q61 เท่ากับ 9.6 พันลบ. (+30%YoY, +23%QoQ) เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยการเติบโต YoY มาจากราคาน้ำมัน +16%YoY และค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง แม้ปริมาณขาย -4%YoY, -6%QoQ และเมื่อรวมกำไร FX บรรทัดสุดท้ายมีกำไรสุทธิ 13.4 พันล้านบาท (+9%YoY, +42%QoQ) แนวโน้ม 2Q61 อ่อนลงจากต้นทุนดำเนินงานที่จะเพิ่มขึ้นและบาทอ่อน การประมูลสัมปทานบงกชและเอราวัณเป็น Catalyst ซึ่งจะทราบผลประมูลปลายปีนี้ แนะถือ ให้ TP 123 บาท
TMB – บอร์ดยังไม่คุยเรื่องการควบรวมกิจการ และเห็นว่าแบงค์ยังมีศักยภาพในการแข่งขันที่ดี รายได้ค่า Fee ยังแข็งแกร่งหลังจับมือกับ FWD ซึ่งจะได้ค่า Access fee เข้ามาไตรมาสละ 330 ล้านบาทเป็นเวลา 15 ปี ด้านสินเชื่อ Small SME ก็เติบโตสูง แนะนำซื้อ ให้ TP 3.10 บาท
DELTA – ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ (เดิมซื้อ) เนื่องจากยอดขายปีนี้อาจโตต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ เพราะประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบใน Supply Chain แม้ว่าอุปสงค์สินค้าสำเร็จรูปยังสูงก็ตาม ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 61/62 ลง 14%/3% ปรับ TP เป็น 74 บาท (เดิม 86 บาท)
CENTEL – ธุรกิจโรงแรมยังเติบโตได้ดี RevPar งวด 1Q61 +4% (OR 87%, อัตราค่าห้องพัก +2%) แต่ธุรกิจอาหารยังชะลอ (SSSG -0.5%) คาด Core profit 1Q61F เท่ากับ 831 ลบ. (+11%YoY, +53%QoQ) และทั้งปีนี้คาดกำไร +14% แนะนำซื้อ ให้ TP 57 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพเป็นลบ ซื้อใหม่เน้นค่าบวก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1780-1790, 1800 Stop loss ถ้าหลุด 1770 (SET ปิดที่ 1773) โดยมีแนวรับ 1765-1755 สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น KTC, CPN, PTG, HUMAN, AOT, TVO, PSL, ERW ที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ JWD, WHA, BJC, TISCO, ADVANC, BDMS, CENTEL ที่หลุด List คือ CKP, KKP, DELTA, BH และที่ให้หาจังหวะ Take profit เป็น AP
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ยูโรโซน : ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปอีกหลายเดือนข้างหน้า
# วานนี้ (26 เม.ย.61) ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% รวมทั้งคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.61 นอกจากนั้นนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ยังส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงระดับโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตรการกีดกันการค้า และเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง
+ ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐบวกดี & ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้นหลัง ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นต่อ
# ดัชนี DJIA ส์ปิดที่ 24,322.34 จุด +238.51 จุด หรือ +0.99% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,666.94 จุด +27.54 จุด หรือ +1.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,118.68 จุด +114.94 จุด หรือ +1.64% นำโดยหุ้น Facebook ที่มีกำไรดีเกินคาดและทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นไปด้วย ส่วนหุ้นใหญ่อื่นที่ราคาเพิ่มขึ้นคือ GM, Pepsi เป็นต้น
# ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.9% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเพิ่มขึ้น 78.17 จุด, +0.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 40.28 จุด, +0.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 42.11 จุด, +0.57% ปัจจัยหนุน คือ การที่ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อ
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ +0.2% ปิดที่ 68.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ +1% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะตลาดคาดการณ์ว่าสหรัฐอาจจะคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดลง
- ภาวะตลาดทองคำ : ราคาปิดต่ำกว่า 1320 US$ แล้ว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1317.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ
+ รัฐบาลจะจัดเริ่มสรรเงินตามโครงการประชารัฐระยะที่ 3 ได้ในเดือนพ.ค.61
# นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้เห็นชอบระเบียบหลักเกณฑ์สำหรับการดำเนินโครงการประชารัฐระยะที่ 3 วงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐเตรียมจัดสรรเงินลงไปให้กองทุนหมู่บ้านแห่งละ 300,000 บาททั่วประเทศเพื่อดำเนินโครงการต่อ เช่น ร้านค้าชุมชนโรงสีชุมชน น้ำดื่มชุมชน และการจัดหาเครื่องมือเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดยคาดว่าเงินก้อนดังกล่าวจะโอนลงไปยังกองทุนหมู่บ้านที่มีความพร้อมได้ภายในเดือน พ.ค.61 นี้
- หนี้แรงงานสูงสุดรอบ 10 ปี ครัวเรือนละ 1.37 แสนบาท...จำกัดการเติบโตการบริโภคภาคเอกชน
# นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจกลุ่มแรงงานที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน พบว่าภาระหนี้สินครัวเรือนของแรงงานไทยปี 61 มีมูลค่าสูงสุดรอบ 10 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 52 เฉลี่ยแรงงานเป็นหนี้ 137,988 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 4.95% เทียบกับปี 60 แบ่งเป็นกู้หนี้ในระบบสัดส่วน 65.4% ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 10.6% ต่อปี และกู้หนี้นอกระบบสัดส่วน 34.6% ดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 20.1% ต่อเดือน
+ ธุรกิจความงามโต 10% ต่อปี มูลค่าตลาดแตะ 2.8 แสนล้านบ.
# นางลักษณ์สุภา ประภาวัต ประธานคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์พบว่าอุตสาหกรรมความงามของไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี โดยปัจจุบันธุรกิจนี้มีมูลค่าตลาดในประเทศถึง 2.8 แสนล้านบาท แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 60% หรือประมาณ 1.68 แสนล้านบาท และตลาดส่งออกที่ทำรายได้ให้ประเทศถึง 40% หรือกว่า 1.12 แสนล้านบาท
• KTB (ราคาปิด 18 บาท) : เร่งแก้หนี้โรงสี...ปรับพอร์ตเงินกู้อิงตามความเสี่ยง
# KTB เร่งแก้ปัญหา NPL เก่าในกลุ่มโรงสีข้าวที่ไหลเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น และกลุ่มที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ตลอดเวลา ซึ่งมีในพอร์ตจำนวนมาก พร้อมเดินหน้าปรับพอร์ตสินเชื่อให้สะท้อนความเสี่ยง คาดผลดำเนินงานไตรมาส 2 ดีขึ้น ตั้งเป้าสินเชื่อปี 2561 เติบโต 4-6% ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSV แนะนำถือ KTB
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO8104