- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 April 2018 18:08
- Hits: 1818
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ซื้อ/ถือต่อด้วยค่าบวก”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : COM7 (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : เมื่อวานนี้ SET ปิด +23.38 จุดที่ 1794.94 เกือบสูงสุดของวัน นำโดยกลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ ไฟแนนซ์ ไฟฟ้า สถาบันในปท.และต่างชาตินำซื้อสุทธิ ขณะที่รายย่อยขายสุทธิ
ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยหนุนจากการเก็งกำไรผลประกอบการ 1Q61 ซึ่งคาดว่ากลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ ไฟแนนซ์ ท่องเที่ยว จะมีกำไรแข็งแกร่ง และแรงกดดันเรื่องบาทแข็งที่คาดว่าจะน้อยลงในปีนี้ ส่วนปัจจัยที่ไม่แน่นอน/เสี่ยง คือ การเมืองในตะวันออกกลาง และมาตรการกีดดันทางการค้าที่อาจเข้ามากดดันเป็นระยะ ซึ่งค่า VIX ที่ขยับขึ้นก็ส่งสัญญาณว่าระยะสั้นนักลงทุนยังไม่มั่นใจในตลาดหุ้นสหรัฐนัก
Update กลุ่มและหุ้น : กลุ่มพลังงาน – ราคาหุ้นขึ้นจากการเก็งว่ากำไร 1Q61 จะดีและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน แต่ถ้าราคาน้ำมันเริ่มอ่อน ก็อาจจะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นได้ ดังนั้นการเก็งกำไรแบบเล่นรอบ ควรตามราคาน้ำมันดิบใกล้ชิดและ Re-balancing เมื่อได้กำไรพอควรแล้ว
TMB – กำไร 1Q61 ออกมาตามคาดที่ 2.28 พันลบ. (+8.7%YoY) สินเชื่อรายใหญ่, ที่พักอาศัย และ Small SME ขยายตัวได้ แต่สินเชื่อ SME โดยรวมลดลง รายได้ค่า Fee โตแกร่งโดยเฉพาะส่วนที่เป็นพันธมิตรกับ FWD การตั้งสำรองฯยังคงสูงต่อที่ 2.3 พันลบ. แนะซื้อ ให้ TP 3.1 บาท
SCC –คาดกำไร 1Q61F ลดลง 20-25%YoY เพราะใน 1Q60 มีกำไรพิเศษ 2.8 พันล้านบาท ด้าน Core Profit ก็ลดลงด้วย ทั้งนี้แม้ Spread ปิโตรเคมีจะเพิ่มขึ้น ธุรกิจกระดาษมีกำไรดีขึ้นจากกำลังการผลิตใหม่ในเวียดนาม แต่อัตรากำไรธุรกิจซีเมนต์แย่ลงจากราคาถ่านหินสูงขึ้น และเริ่มเสียภาษีโรงงาน MOC (จากเดิมได้ยกเว้นภาษี 8 ปี) เชิงกลยุทธ์แนะนำซื้ออ่อนตัว จุดเด่นคือ ธุรกิจมั่นคงและจ่ายปันผลดี คาดปี 61 ยังจ่ายได้เท่ากับปีก่อนที่ 19 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็น Dividend Yield ราว 4%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1800/(1810-1820) และ Stop loss ถ้าหลุด 1770 สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น AEONTS, CPN, PTT, COM7, ERW, JWD, GULF, RCL ที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ SF, AOT, ROBINS ที่หลุด List คือ TCAP และที่ให้หาจังหวะ Take profit เป็น GPSC, PTL, BEAUTY, KKP, DELTA, GLOW, IVL ,KTC
ปัจจัยต่างประเทศ
• อังกฤษ : ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.หดตัว 1.2% เหตุสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
# สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรปรับตัว -1.2% เมื่อเดือนมี.ค.61 ซึ่งลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากขณะนั้นเกิดภัยหิมะตกและอุณหภูมิลดลงต่ำ ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่ออกจากบ้าน
• รัสเซีย : มูดี้ส์คาดรัสเซียได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
# มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่ารัสเซียจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐเนื่องจากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของรัสเซียทั้งภายในและต่างประเทศนั้น จะช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
# แต่...อาจเป็นลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเอกชนบางแห่งของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท United Company Rusal ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมชั้นนำของโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรครั้งนี้ด้วย
# ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรชาวรัสเซียจำนวน 24 คน ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ระดับสูงรวมทั้งหน่วยงานและภาคธุรกิจของรัสเซียจำนวน 14 แห่ง ในข้อหาดำเนินการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการยึดครองคาบสมุทรไครเมีย, สร้างความรุนแรงในยูเครน, ให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่รัฐบาลซีเรีย และบ่อนทำลายประชาธิปไตยของชาติตะวันตก
• ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนี DJIA ปิดลบ
# ดัชนี DJIA ปิด 24,664.89 จุด ลดลง 83.18 จุด หรือ -0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,693.13 จุด ลดลง 15.51 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,238.06 จุด ลดลง 57.18 จุด หรือ -0.78% โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพให้แก่บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น แอปเปิล ได้ออกมาคาดการณ์อุปสงค์ที่อ่อนแอของตลาดสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงหุ้นฟิลลิป มอร์ริส และหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 73.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 3% เมื่อวันพุธ ขณะเดียวนักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งจัดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบียในวันนี้
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,348.8 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่นบจ.
• TMB : กำไรสุทธิ 1Q61 เป็นตามที่เราคาดการณ์ไว้
# ธนาคารประกาศกำไร 1Q61 เท่ากับ 2.28 พันล้านบาท เพิ่ม 8.7%YoY ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้
# สินเชื่อโต 0.4% โดยมาจากสินเชื่อรายใหญ่ (+2%), รายย่อย (+3.6%) แต่สินเชื่อ SME หดตัว (-3.3%) แต่สินเชื่อ Small SME ขยายตัวดีขึ้นโดย เติบโตได้ 1.1%
# รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโต 22%YoY ซึ่งมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มถึง 35%YoY โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นพันธมิตรกับ FWD กำไรก่อนสำรองฯ โต 7%YoY อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท
# ธนาคารยังตั้งสำรองค่าเผื่อฯสูงที่ 2.3 พันล้านบาท และมี Write off หนี้เสีย 1.7 พันล้านบาทใน 1Q61 ส่งผลให้ NPL ratio อยู่ในระดับต่ำที่ 2.4% และมี Coverage ratio 142% ในสิ้นมี.ค.60
# กำไรสุทธิ 1Q61 คิดเป็น 23% ของประมาณการทั้งปี 61 ของเราที่ 9.7 พันล้านบาท (+12%YoY)
# คงคำแนะนำซื้อ TMB ให้ราคาพื้นฐาน 3.10 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO7788