- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 April 2018 17:29
- Hits: 8658
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
"บริเวณยังเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ"
Fundamental Picks (2Q18) AEONTS, AOT, ERW, DIF, IVL, SENA
Low Beta Stocks BBL,TCAP,TISCO,AEONTS, CPALL,BTS,BH,LALIN,SC, SPALI, MODERN, DIF
High Div Yield in Coverage KKP, LH,PSH,LALIN,SENA, TMT,MODERN,BCP,MC,SNC, DIF,JASIF,CPNREIT,LHHOTEL
Top-5 Short Sell SCCC 14%, MC 13%, ITD 11%, SUPER 11%, IVL 7%
Technical View : เน้น"ซื้อค่าบวก"เท่านั้น
Support Resistance Stop Loss
SET 1720-1700 1770(1780) หลุด 1755
SET50 1155-1150 1170-1175 หลุด 1160
Technical Picks - Today SPALI, SF, KCE, BA, CHG, HMPRO, VGI, AH
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ปัจจัยต่างประเทศ: ตลาดหุ้นกลับมาได้รับความกังวลอีกครั้งหลังจากผ่อนคลายเรื่องสงครามการค้าได้ไม่นาน ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศตอบโต้รัสเซียประเด็นซีเรีย โดยทรัมป์ประกาศจะยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่และมีความสามารถสูง หลังจากที่รัสเซียที่ประกาศว่าจะยิงสกัดขีปณาวุธทุกลูกที่จะเข้าโจมตีซีเรีย ส่งผลให้ความกังวลกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่อง ผลการประชุมเฟดย้อนหลัง ที่กรรมการเฟดออกมาส่งสัญญาณในการขึ้นดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องดอกเบี้ยนี้อาจจะถูกลดความกังวลช่วงสั้น หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ไม่ออกมาเพิ่มขึ้นเร็ว Core CPI ยังคงทรงตัว 0.2% และ CPI ลดลง 0.1% เทียบเดือนก่อน ภาพรวมในช่วงนี้ มีข่าวที่ส่งผลให้ตลาดผันผวนสูง ซึ่งเราประเมินว่า นอกจากเหตุผลเรื่องปัจจัยที่มีเข้ามามากในช่วงนี้แล้ว ประเด็นสำคัญหนึ่งที่ทำให้ตลาดผันผวนและมีความอ่อนไหวต่อข่าวลบได้ง่าย คือ ตลาดที่ผ่านปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องและตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปในระดับหนึ่งแล้ว และตลาดอ่อนไหวต่อข่าวลบได้ง่าย เป็นตัวสะท้อนระดับราคาที่ค่อนข้างดี โดยสถานการณ์ล่าสุด ทรัมป์โพสต์ในทวีตเตอร์ว่า Big Show tonight on ซึ่งต้องติดตามว่าใช่เรื่องการโจมตีซีเรียหรือไม่ ภาพรวมปัจจัยภายนอกอิงไปในทางลบ และทั้งดาวโจนส์และ SET มาถึงระดับที่มีนัยสำคัญทางเทคนิค ต้องกลับขึ้นไปยืนเหนือบริเวณนี้ได้ จึงจะยกเลิกสัญญาณลบ ส่วนทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่ 4 ขึ้นแรง 14 เหรียญ จากความกังวลเรื่องสหรัฐ-รัสเซีย
ส่วนปัจจัยในประเทศ: ตลาดเริ่มมีการปรับประมาณการดัชนีฯลง จากผลกระทบของกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งการปรับกำไรและราคาเป้าหมายของตลาดลง คาดว่าจะค่อยๆทยอยออกมา ซึ่งผลกระทบต่อกำไรคาดว่าจะยังไม่มากอยู่ที่ระดับ 2%-3% และราคาหุ้นก็มีช่วงปรับตัวลงไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยตลาดหุ้นไทยช่วงนี้หากมองในแง่กราฟ ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คือ หากสามารถยืนที่บริเวณนี้ได้จะเป็นการยกเลิกภาพลบในระยะกลาง และกลับมาปรับตัวขึ้น แต่หากยังไม่สามารถยืนเหนือแนวโน้มขาขึ้นที่หลุดลงไปได้ยังให้ระวังว่าจะเป็นจุดสูงสุดของการรีบาวด์และมีช่วงอ่อนตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆ {"ปิดบวก"เล็กน้อยเหนือ"SMA10วัน"เล็กน้อย (โดยมี"โครงสร้างขาขึ้น - ระยะกลาง" ที่มี"สภาวะOverbought + Divergence"ที่ชัดเจน(เดิมๆ)กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้"แกว่ง"แบบมีลุ้นรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1770 (หรือ 1780) จุด {แนวตัดขาดทุน "ต่ำกว่า 1755"}
สำหรับการ Scan หุ้นเทคนิคดีพบว่า หุ้นเข้ามาใหม่เป็น SPALI SF KCE BANPU CHG HMPRO VGI AH
ส่วนหุ้นที่ยังคงอยู่ใน List เป็น KTC, PTT, BH, TISCO, DELTA, COM7 หุ้นที่หลุด List ได้แก่ GLOBAL, NETBAY และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ BCH, TASCO, QH, BTS
นักวิเคราะห์ : พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ : [email protected]
OO7494