- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 September 2014 17:17
- Hits: 2036
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ECB ลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : อ่อนเล็กน้อย SET Index ปิดลดลง 3.54 จุด ที่ 1579.73 จุด โดยการซื้อขายยังคงคึกคักมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ปัจจัยที่ติดตามคือ ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินยุโรป ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่ ประกอบกับมีความหวังว่าจะมีการยกเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ท่องเที่ยว นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 910 ล้านบาท พอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิเช่นกัน ด้านสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2.5 พันล้านบาท
ปัจจัยและกลยุทธ์ : Sentiment ตลาดหุ้นต่างประเทศค่อนไปทางบวก โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของ ECB เมื่อวานนี้ คือ การลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% จะเริ่มซื้อ Asset-backed securities & Covered bonds จากภาคเอกชนตั้งแต่ต.ค.57 เป็นต้นไป ทำให้ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวนั้นผ่อนคลายลง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศชั้นนำของโลกยังไปได้ดี ผลักดันการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นของเศรษฐกิจโลกในปี 58 สำหรับค่าเงิน US$ ที่แข็งค่าขึ้นหลัง ECB ลดดอกเบี้ยนั้นเป็นบวกกับกลุ่มส่งออกของไทยที่จะได้อานิสงค์ทางบวกจากบาทอ่อน หุ้นเด่น คือ KCE, SVI ส่วนภายในประเทศ ยังมีพัฒนาการในทางบวกของเศรษฐกิจและกำไรบจ. โดยเฉพาะในไตรมาส 4/57 ที่จะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ปัจจัยหนุนสำคัญหนึ่ง คือ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวรวดเร็วและแข็งแกร่ง โดยดัชนีที่สำรวจโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าได้ปรับขึ้นมาแล้ว 4 เดือนต่อเนื่อง และระดับดัชนีของเดือนส.ค.57 สูงสุดในรอบ 13 เดือน สำหรับกลุ่มที่โดดเด่น เรามองว่าเป็นกลุ่มที่เกี่ยวกับอุปโภคบริโภค สื่อ & บันเทิง และท่องเที่ยว ซึ่งเป็น Theme การลงทุนในเดือนก.ย.57 ของเรา หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อวันนี้เป็น TUF
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือการอ่อนตัวที่ต่ำกว่า 1565 จุด ควรชะลอการเก็งกำไร/ลดพอร์ตตามในกรณีที่มีหุ้นมาก เหลือเงินสดอยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1550, 1520 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1590-1600 จุด สำหรับหุ้นที่คาดว่าราคามีโอกาสทำ New High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค คือ THREL, DELTA, SITHAI, GLOW, TMB, SRICHA, EGCO, SF, IVL, BAY (สีน้ำเงิน คือหุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List) ส่วนหุ้นที่แนะนำและปรับขึ้นมาอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit (สำหรับการลงทุนรอบสั้น) คือ CGD, BMCL, CTW, HMPRO, UV, AAV
Fundamental Pick
TUF แนะนำซื้อราคาปิด 70.75 บาท เป้าหมาย 84 บาท
* เราให้ TUF เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของเดือนก.ย.57 โดยเชื่อว่าบริษัทมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งการเติบโตจากภายในด้วยการเพิ่มรายได้และอัตรากำไรจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ และการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลซื้อBumblebee ซึ่งเป็นบริษัทอาหารทะเลอันดับ 1 ของสหรัฐและแคนาดาด้วย โดยการประมูลจะเริ่มต้นในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.57 ทั้งนี้การทำ M&A จะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้ในอัตราที่สูงขึ้นจากเป้าหมายตามปกติที่ 10% ต่อปี และบรรลุเป้าหมายยอดขาย 5 พันล้านUS$ ในปี 58(+25%YoY) สำหรับผลประกอบการ 2H57 มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะ 3Q เป็นช่วง High seasonของการส่งออก และอัตรากำไรของทูน่าเพิ่มขึ้น ปริมาณผลผลิตกุ้งเพิ่มขึ้นและผลขาดทุนของUSPN น้อยลง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 84 บาท
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ ยูโรโซน : ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% และจะเริ่มซื้อ Assetbackedsecurities & Covered bonds จากภาคเอกชนตั้งแต่ต.ค.นี้
* คณะกรรมการนโยบายการเงินยุโรป (ECB) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยแถลงการณ์ของ ECB ระบุว่าดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) จะลดลงสู่ระดับ 0.05% จากเดิมที่0.15% และดอกเบี้ยที่ ECB จ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับ ECB (Deposit facility) จะลดลงสู่ระดับ -0.20% จาก -0.10%
* นายมาริโอ ดรากิ ประธาน ECB กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินว่ECB จะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (Covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน
* คริสทีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงการขานรับมติของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน โดยมองว่ามาตรการที่ ECB จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อต่ำที่เป็นมาอย่างยืดเยื้อของยูโรโซน
* หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปรับขึ้นขานรับการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB…ส่วนค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ กดดันราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำให้อ่อนตัวลง
• สหรัฐ : การจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.สำรวจโดย ADP ออกมาน้อยกว่าคาด...จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะออกมาวันนี้
* ADP บริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่าภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น204,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
* จับตารายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่จะออกมาในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.57ที่ผ่านมา
+ สหรัฐ : ภาคบริการเดือนส.ค.ยังคงขยายตัวดี โดยดัชนีอยู่สูงกว่า 50 ทั้งของISM และมาร์กิต
* สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ59.6 ในเดือนส.ค. จากระดับ 58.7 ในเดือนก.ค. โดยตัวเลขเดือนก.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.51 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงแตะที่ 57.5 ทั้งนี้ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน
* ด้านมาร์กิต อิโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 59.5 ในเดือนส.ค. ปรับตัวลดลงจากระดับ 60.8 ในเดือนก.ค. แต่ขยับขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 58.5
• ตลาดหุ้นสหรัฐ : แกว่งตัวโดยปิดอ่อนลงเล็กน้อย
* ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดพุ่งขึ้นขานรับการลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทของ ECB แต่มีการอ่อนตัวลงในช่วงต่อมาเพราะราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ซึ่งจะออกมาในวันนี้ ปิดตลาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,069.58 จุด ลดลง 8.70 จุด หรือ -0.05% ดัชนี NASDAQ ปิดที่4,562.29 จุด ลดลง 10.28 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.65 จุด ลดลง 3.07 จุดหรือ -0.15%
- สัญญาน้ำมันดิบ : ลดลง
* สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.45 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่101.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรหลัง ECBประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทลง 0.10% ปัจจัยที่ติดตามและมีผลต่อราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น คือ ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ และสถานการณ์ในยูเครน
- สัญญาทองคำ COMEX : ปิดอ่อนลงเล็กน้อย
* สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.8ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,266.5 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ
+ ไทย : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.57สูงสุดในรอบ 13 เดือน
* ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.57 ของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 80.1 สูงสุดในรอบ 13 เดือน สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความหวังมากขึ้นหลังจากปัญหาการเมืองคลี่คลายลงและมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
* ความเห็น DBS Retail Research : นับเป็นข่าวบวก โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนการอุปโภคบริโภคให้มีการฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะเห็นชัดเจนในไตรมาส 4/57 ซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยว รวมทั้งรัฐบาลมีมาตรการช่วยกระตุ้นด้วย สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้น คือ
# กลุ่มพาณิชย์ & อาหาร – หุ้นเด่น คือ MC, CENTEL, MINT
# กลุ่มที่พักอาศัย & ให้เช่าพื้นที่ – หุ้นเด่น AP, PS, SPALLI, QH, CPN
# กลุ่มสื่อ & บันเทิง – MAJOR, VGI
+ TUF เข้าซื้อกิจการ 100% ในเมอร์อไลอันซ์ สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตแซลมอนรมควันใหญ่อันดับ 4 ของยุโรปส่วนนี้จะเพิ่มรายได้ 5-6% ต่อปี...แนะนำซื้อTUF ราคาพื้นฐาน 84 บาท
* นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยยูเนี่ยนโฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) เปิดเผยว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการโดยเทกโอเวอร์กิจการทั้งหมด 100% ของบริษัท เมอร์อไลอันซ์ สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตแซลมอนรมควันใหญ่อันดับ 4 ของยุโรป มีส่วนแบ่งตลาด 20% ซึ่งมียอดรายได้รวม 220 ล้านเหรียญสหรัฐ (งบปีสิ้นสุด 31 มี.ค.57) โดยมียอดขายอันโดดเด่นในตลาดฝรั่งเศสและอังกฤษ มีสายการผลิตในฝรั่งเศส สกอตแลนด์ และโปแลนด์ ทำเลที่ตั้งโรงงานผลิตทั้งสามแห่ง ตั้งอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์เชิงธุรกิจของแหล่งซัพพลายปลาในท้องถิ่น และอยู่ใกล้กับลูกค้าและผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย
* ผู้บริหาร TUF ระบุว่าเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะเพิ่มศักยภาพทางการตลาดจากความเชี่ยวชาญของเมอร์อไลอันซ์ และบริษัทได้ขยายการเติบโตด้านรายได้ให้แข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจอาหารประเภทแช่เย็นในยุโรป โดยช่วยยกระดับความเป็นผู้นำในตลาดยุโรปของเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส บริษัทในเครือของ TUF ในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสำเร็จรูปพร้อมรับประทานที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในหมู่ผู้บริโภคกว่า 50 ประเทศ ได้แก่ แบรนด์ พีทินาเวียร์ จอห์นเวสต์ พาร์เมนเทียร์ และมารีบลู
* การเข้าซื้อกิจการเมอร์อไลอันซ์เป็นหนึ่งในแผนที่จะนำ TUF ไปสู่เป้าหมายการเพิ่มยอดรายได้สองเท่าของกลุ่มธุรกิจภายในปี 63 โดยดีลนี้จะทำให้รายได้ของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 5-6%เริ่มทำงบการเงินรวมไตรมาส 4/57 (คาดว่าจะดีลจะแล้วเสร็จในเดือนต.ค.57)
* ความเห็น DBS Retail Research : เราให้ TUF เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของเดือนก.ย.57โดยเชื่อว่าบริษัทมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งการเติบโตจากภายในด้วยการเพิ่มรายได้และอัตรากำไรจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ และการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลซื้อ Bumblebee ซึ่งเป็นบริษัทอาหารทะเลอันดับ 1 ของสหรัฐและแคนาดาด้วย โดยการประมูลจะเริ่มต้นในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.57 ทั้งนี้การทำ M&A จะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้ในอัตราที่สูงขึ้นจากเป้าหมายตามปกติที่ 10% ต่อปี และบรรลุเป้าหมายยอดขาย 5พันล้านUS$ ในปี 58 (+25%YoY) สำหรับผลประกอบการ 2H57 มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะ 3Qเป็นช่วง High season ของการส่งออก และอัตรากำไรของทูน่าเพิ่มขึ้น ปริมาณผลผลิตกุ้งเพิ่มขึ้นและผลขาดทุนของ USPN น้อยลง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 84 บาท
+ GLOBAL : จับมือกับบริษัทเครือ SCG ทำธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคร่วมกัน ...แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน- Under review
* นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GLOBAL แจ้งว่าเมื่อ 30 ส.ค.57 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50 ต่อ 50 กับบริษัทเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCG ถือหุ้นร้อยละ 100 ตั้งบริษัทโกลบอลเฮ้าส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อรองรับการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในรูปแบบคลังสินค้าในอาเซียนสำหรับเงินลงทุนในส่วนของ GLOBAL อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท
* การร่วมทุนดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ GLOBAL จะขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตสูง โดยอาศัยความเป็นผู้นำตลาดและเครือข่ายธุรกิจในอาเซียนของ SCG ควบคู่ไปกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของ GLOBAL อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะยังไม่เห็นผลดีในระยะสั้นมากนั้น เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้น แต่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องดีกับ GLOBAL ในระยะยาวที่จะมีตลาดที่กว้างขวางมากขึ้น และมีความมั่นคงในเรื่องของสินค้าประเภทวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น เนื่องจาก SCG เป็นผู้ประกอบการที่ผลิตวัสดุก่อสร้างหลากหลายประเภทอยู่แล้ว ทาง DBS แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานอยู่ระหว่างการปรับปรุง (Under review)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]