- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 March 2018 17:47
- Hits: 2585
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรรายตัว / Technical Rebound
Smart Pick
สะสม PTT
ราคาปิด 548.00 บาท
ราคาเหมาะสม 590.00 บาท
คาดกลุ่มพลังงานจะฟื้นตัวตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น +0.9% ปิดที่ US$64.94/barrel หลัง OPEC และรัสเซียให้คำมั่นว่าจะคงกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี 2561
มี Catalyst รออยู่ คือการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 เม.ย. เพื่อขออนุมัติแตกพาร์จาก 10.00 บาท เป็น 1.00 บาท โดยคาดว่าจะซื้อขายพาร์ใหม่ได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย. หรือต้น เดือน พ.ค.
สะสม TPIPP
ราคาปิด 6.90 บาท
ราคาเหมาะสม 8.00 บาท
คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้แจ้งตลท.ว่าโรงไฟฟ้า TG6 จำนวน 90MW ซึ่งได้ Adder 3.50 บาท เป็นระยะเวลา 7 ปี จะเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 5 เม.ย.2561
ส่งผลให้กำไรสุทธิตั้งแต่ 2Q61 ถึง 1Q62 จะเติบโตเด่น YoY ต่อเนื่อง และผลักดันกำไรปี 2561 ให้เติบโตสูงถึง +93% YoY เป็น 5.01 พันล้านบาท พร้อมปันผลในเกณฑ์ดีราว 4.5% ต่อปี
สะสม ADVANC
ราคาปิด 206.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
คาดกำไรปกติ 1Q61 ที่ 8.1 พันล้านบาท +5.2% YoY และ +5.1% QoQ จากรายได้ที่ขยายตัว +5.9% YoY ตามความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่างๆ ทรงตัวจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ขึ้น XD ปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 3.57 บาท วันที่ 5 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 1.7% และมีปัจจัยบวกโดยคาดว่าภาครัฐฯจะพิจารณาอนุมัติแบ่งจ่ายค่างวดคลื่น 900MHz งวดสุดท้ายจำนวน 6 หมื่นล้านบาท ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่งผลให้กระแสเงินดีขึ้น และอาจทำให้ปรับ Dividend Payout Ratio ขึ้น
เก็งกำไร KTB
ราคาปิด 19.00 บาท
ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรง 3 วันทำการ คาดว่าจะเกิด Technical Rebound ได้ แนวรับ 18.80 บาท แนวต้าน 19.50 บาท และ Stop Loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 18.60 บาท
ขึ้น XD เงินปันผลงวดปี 2560 หุ้นละ 0.61 บาท วันที่ 7 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 3.2%
Profit - Taking : -
กลยุทธ์วันนี้
เราคาด SET INDEX จะกลับมาฟื้นตัว หลังวานนี้ปรับฐานลงทดสอบแนวรับหลัก 1760 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดที่ SET INDEX เคยทำไว้เมื่อวันที่ 6 ก.พ. และ 9 มี.ค. จากความกังวลต่อกรอบเวลาเลือกตั้ง รวมถึงการซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาฟิวเจอร์ส Series H18 ทั้ง SET50 Index และ Single Stock Futures
บรรยากาศการลงทุนโดยรวมวันนี้มีแนวโน้มดีขึ้น หลังสินทรัพย์เสี่ยง (Risky Assets) ทั่วโลกฟื้นตัว สะท้อนจากตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ที่ปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ และราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเช่นกัน จากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ และเรามองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ บริเวณ 1760-1775 จุด
นอกจากนี้เราเชื่อว่า SET INDEX จะเริ่มเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ช่วงประมาณการงบ 1Q61 เริ่มต้นที่กลุ่มธนาคาร เราคาดกำไรรวมของกลุ่มฯ กลับมาเติบโต 19% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ลดลงราว 5% YoY จากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น เราประเมินว่า ธนาคารที่กำไรจากการดำเนินงานหลักจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY ใน 1Q61 ได้แก่ BAY, BBL และ TISCO (ดูบทวิเคราะห์ Sector Update เช้านี้)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เลือกซื้อหุ้นที่ราคาปรับลงมามาก แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง บนความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของภาวะตลาดโดยรวม ทั้งกลุ่ม Global Play จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูง และกลุ่ม Domestic Play มีแรงบวกจากการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ของ ธปท.
HOT Topic
1.SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1760 จุดวานนี้ เรามองอย่างไร?
2.หุ้นกลุ่มธนาคารสะเด็ดน้ำหรือยัง? หลังลงติดต่อกันประเด็นยกเว้นค่าธรรมเนียม
3.โรงไฟฟ้า TG6 ของ TPIPP จะ COD ในวันที่ 5 เม.ย. เรามองอย่างไร
4.ติดตามบทวิเคราะห์ Preview งบ 1Q61 กลุ่มธนาคารของเรา คาดกำไรฟื้นตัว +19% QoQ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ลดลง 18.07 จุด หลุดแนวรับ 1780 จุด มาปิดที่ 1766.92 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 8.4 หมื่นล้านบาท แรงกดดันหลังมาจากหุ้น PTT (-2.14%), AOT (-2.58%) ส่งผลต่อดัชนีราว 6 จุดด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิวันแรกในรอบ 4 วันราว 4.4 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 สูงถึงราว 2.7 หมื่นสัญญา รวม 4 วัน Short สุทธิสะสมทั้งสิ้น 4.6 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ราว 5.2 พันสัญญา รวม 3 วัน Long สุทธิสะสมทั้งสิ้น 8.2 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.6 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิราว 1.9 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 610 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2 แท่น เป็น 797 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะรวม (น้ำมัน+แก๊ส) ลดลง 2 แท่น เหลือ 993 แท่น นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์
OPEC และรัสเซีย มีแผนขยายระยะเวลาการควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบไปจนถึงกลางปีหน้า
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นภาษีเงินได้นิติบุคคลของ AMAZON รวมถึง การใช้ประโยชน์จากระบบไปรษณีย์สหรัฐฯ และยังทำให้ผู้ค้าปลีกหลายพันรายขาดรายได้
รัสเซียมีแผนปิดสถานกงสุลสหรัฐฯในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และขับไล่นักการทูตสหรัฐฯ 60 ราย เพื่อตอบโต้การสหรัฐฯที่ขับไล่คณะทูตของรัสเซียออกนอกประเทศ
สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ (PCE) ขยายตัว 1.6%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
อังกฤษรายงาน GDP 4Q60 ขยายตัว 1.4% YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
ติดตามการรายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. โดย ธปท. วันนี้
หลายตลาดหุ้นปิดทำการวันนี้เนื่องในวัน Good Friday เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น
ปัจจัยติดตามสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทย เดือน มี.ค. วันที่ 2 เม.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อยุโรป เดือน มี.ค. วันที่ 4 เม.ย.
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ วันที่ 6 เม.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist, 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO7293