- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 September 2014 15:42
- Hits: 2225
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Test 1590?
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดต่ำกว่า 1,580 จุดเล็กน้อย มาอยู่ที่ 1,579.73 จุด ลบเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 3.54 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 52,895 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติชัดเจนเป็นวันที่ 2 ด้วยการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 1,011 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 157 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,869 สัญญา
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวเพื่อทดสอบแนว 1,590 จุด ด้วยปัจจัยบวกดังนี้
•ECB สร้างความประหลาดใจแก่นักลงทุนทั่วโลก ด้วยการเลือกลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.10% เป็น 0.05% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB เป็น -0.20% จากเดิม -0.10% ส่งผลให้ค่าเงินทั่วโลกอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นบวกต่อภาคการส่งออกของเอเชีย
•นายกรัฐมนตรี และ ครม. มีอำนาจเต็ม หลังเข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ เย็นวานนี้ คาดว่า รมว.เจ้ากระทรวงต่างๆ จะเริ่มทำงานกันในวันนี้ จับตากระทรวงคมนาคม ต่อการพิจารณาแผนการลงทุนคมนาคมในงบประมาณปี 2558 และแผนระยะยาว 8 ปี รวมถึงกระทรวงการยุติธรรม ที่จะพิจารณาแนวทางการยกเลิกกฎอัยการศึก ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้
MBKET ประเมินประเด็นบวกทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าเม็ดเงินทุนต่างชาติจะลงทุนในตลาดหุ้นไทยหนาแน่นต่อเนื่อง ขณะที่แรงขายจากกองทุน Trigger Funds วานนี้ราว 3.0 พันล้านบาท คาดว่าเสร็จสิ้นแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการออกขายกองทุน Trigger Funds ได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้น SET INDEX ในระลอกสั้นนี้ มีโอกาสขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,590-1,600 จุดในต้นสัปดาห์หน้า
คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมิน โอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลางปีหน้า อย่างที่ตลาดประเมินหรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุน กลับเข้าเก็งกำไรอีกครั้ง โดยเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายการบริหารประเทศของ ครม.ในช่วงสั้นนี้
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” AAV/ SVI
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC
HOLD: SPALI/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK
Speculative buy: AAV/ SVI
Action and Stock of the Day
SET INDEX ปิดต่ำกว่า 1,580 จุดอีกครั้ง
SET INDEX วันนี้ คาดดีดตัวกลับขึ้นทดสอบแนว 1,590 จุด +/- หลัง ECB ลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ นายกฯ และ ครม. เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการวันนี้
ดังนั้นกลยุทธ์ กลับเข้าเก็งกำไรหุ้นหลักในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ปิดลบเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าเป็นการขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงก่อนการประชุม ECB ในเย็นวานนี้
ด้านตลาดหุ้นไทย SET INDEX ขยับขึ้นสู่กรอบ 1,585-1,590 จุด ก่อนที่เกิดแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาวะการลงทุนรอบเอเชีย และยุโรป ต่างปรับฐานลงเล็กน้อย กดดันให้ SET INDEX ย่อตัวลงมาแกว่งในกรอบต่ำกว่า 1,580 จุด ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,579.73 จุด ลบเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 3.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเป็น 52,895 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกมากที่สุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่ม IMM +2.94%, กลุ่ม Professional +2.44% และกลุ่มกระดาษ +1.90% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร +0.57% กลุ่มพลังงาน +0.54% และ กลุ่ม ICT -1.22%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.34 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดบวกเด่น หลังค่าเงินเยนอ่อนค่าแตะระดับ Yen105/US$ ขณะที่ตลาด Kospi เปิดลบเล็กน้อย
MBKET ขยับมุมมองต่อการลงทุนขึ้นเป็น “บวก” วันแรกในรอบ 3 วันทำการ จากเดิมที่ให้มุมมองเป็น “กลาง” ด้วยปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ ดังต่อไปนี้
•ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย แทนการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินอย่างที่ตลาดคาดการณ์
oอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงเหลือ 0.05% จากเดิม 0.15% เป็นระดับต่ำสุดของ ECB
oอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB ลดลงจากเดิม -0.10% เป็น -0.20%
•นายกรัฐมนตรี และ ครม. เข้าถวายสัตย์ปฎิญาณ เย็นวานนี้ ทำให้ นายกฯ และ ครม. สามารถเริ่มทำงานในฐานะของรัฐบาล คาด รมว.ด้านเศรษฐกิจจะเร่งทำงานและพิจารณาแผนงานที่ค้างการพิจารณาออกมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
oรมว.คมนาคม กับการพิจารณาแผนการลงทุนในงบประมาณปี 2558 และ แผนการลงทุนระยะยาว 8 ปี วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งปลัดคมนาคม เตรียมข้อมูล เพื่อนำเสนอแล้ว
เป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร / กลุ่มวัสดุก่อสร้าง
oรมว.ยุติธรรม เรียกประชุมวันนี้ เพื่อพิจารณาสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศ ตลาด และ MBKET คาดว่า รมว.ยุติธรรม อาจพิจารณาเสนอต่อนายกฯ ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวในเย็นวันนี้
เป็นบวกต่อกลุ่มโรงแรม / กลุ่มสายการบิน / กลุ่มสนามบิน
หลัง ECB สร้างความประหลาดใจต่อนักลงทุนทั่วโลก ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย บวกกับประเด็นการเมืองภายในประเทศที่เดินหน้าเข้าสู่ระยะที่ 2 ชัดเจน ขณะที่ SET INDEX ปรับฐานย่อยวานนี้ ทำให้คาดว่า SET INDEX ระลอกสั้นนี้จะดีดตัวกลับขึ้นทดสอบ 1,600 จุด และอาจทะลุแนวดังกล่าวสู่ 1,620 จุดได้ หากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าว
ดังนั้น MBKET แนะนำให้ นักลงทุน กลับเข้าเก็งกำไรต่อหุ้นในกลุ่มหลักที่ได้ประโยชน์จากพัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศ เป็นสำคัญ ทั้งนี้นักลงทุน ควรกำหนดแนว Stop Loss เพื่อปิดความเสี่ยงของการลงทุนเสมอ เพราะความผันผวนของ SET INDEX อยู่ในระดับสูงขึ้น เมื่อเข้าสู่แนวต้านใหญ่ 1,600 จุด
สำหรับพัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศ ในระยะที่ 2 ของคสช. จากนี้ไป ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่
oร่างงบประมาณปี 2558 ได้ผ่านวาระที่ 1 วานนี้ ขั้นตอนถัดไปตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณา และนำเสนอต่อสนช. เพื่อพิจารณาวาระที่ 2-3 ตามลำดับ วันที่ 17-18 ก.ย. คาดว่าจะสามารถนำงบประมาณปี 2558 ใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้
oการยกเลิกกฎอัยการศึก ตลาดคาด นายกฯ จะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก เป็นบางพื้นที่ในช่วงแรก เช่นเดียวกับการยกเลิกเคอร์ฟิวในช่วงก่อนหน้านี้ พื้นที่การท่องเที่ยวน่าจะเป็นเป้าหมายแรกของการพิจารณายกเลิก
oแผน Roadmap ที่สำคัญด้านเศรษฐกิจ
แผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาทคาดว่าจะเสนอต่อรมว. คมนาคมในวันที่ 4 ก.ย.
แผนปฎิรูปพลังงาน
แผนกระตุ้นการท่องเที่ยว
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ติดตามการทำงานของ รัฐมนตรี กระทรวงด้านเศรษฐกิจจากนี้ไป
•กระทรวงคมนาคม: แผนการลงทุนด้านคมนาคม ในงบประมาณปี 2558 และแผนการลงทุน 8 ปี ของกระทรวงคมนาคม คาดว่า รมว. คมนาคม อาจเข้ากระทรวงเพื่อพิจารณาประเด็นเหล่านี้ในวันนี้
•มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
i.วันนี้ รมว. ยุติธรรม จะมีการประชุมในช่วงเช้า เพื่อประเมินสถานการณ์ความสงบทั่วประเทศ อาจเป็นไปได้ว่า รมว.ยุติธรรมจะพิจารณาและนำเสนอต่อนายกฯ ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ในเย็นวันนี้
ii.วันนี้ รมว. กระทรวงการคลัง อาจพิจารณาข้อเสนอการลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ในปี 2557 มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
iii.คสช.เร่งรัดจัดตั้งกองทุนประกันภัยการท่องเที่ยว วงเงิน 200 ล้านบาท เพราะประเทศที่ใช้กฎอัยการศึก บริษัทประกันภัยจะไม่รับประกันการท่องเที่ยว หากมีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว จะเป็นบวกต่อภาคการท่องเที่ยว
MBKET มีความเห็นเป็นบวกต่อพัฒนาการดังกล่าว และจะส่งผลบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร ในประเด็นแรก ส่วนประเด็นที่ 2 นั้น กลุ่มโรงแรมจะได้รับประโยชน์ทางตรง ขณะที่กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ จะได้ประโยชน์ทางอ้อม หุ้น Top Pick ได้แก่ CK / KTB / ERW / AAV
2.การลดอัตราดอกเบี้ย ECB ยิ่งทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขยับขึ้นยาก: ผลต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB วานนี้ได้แก่
•ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่า
•Euro Carry Trade มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เพราะเข้าเกณฑ์ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน บวกกับทิศทางค่าเงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ MBKET ประเมินตลาดหุ้นในเอเชีย จะเป็นเป้าหมายของเงินทุนรอบใหม่
•ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่กำหนดด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ย่อมได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ดังนั้นราคาน้ำมันดิบ / ราคาสินค้าเกษตร จะแกว่งในกรอบแคบเท่านั้น MBKET มีความเห็นเป็นบวกต่อเอเชีย ซึ่งจะมีความอ่อนไหวกับราคาน้ำมันดิบค่อนข้างสูง เมื่อราคาน้ำมันดิบทรงตัวได้ ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะทรงตัวเช่นกัน
•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินต่างๆ รวมถึงเงินในเอเชีย เป็นบวกต่อภาคการส่งออกของเอเชีย ซึ่งถือเป็นตัวแปรขับเคลื่อนเศรษฐกิจในเอเชียที่มีขนาดใหญ่ สินค้าจากยุโรป และ เอเชียจะถูกขึ้นเมื่อเทียบกับสินค้าในสหรัฐฯ
•โอกาสที่เฟดจะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในกลางปีหน้า อาจต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ให้ยิ่งแข็งค่ามากขึ้น เฟดอาจใช้ประเด็นนี้เป็นตัวแปรในการประวิงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เช่นกัน
3.จับตากลุ่มส่งออกขยับเด่นในช่วงสั้น: จากอานิสงค์ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ECB คืนวานนี้ ทำให้สกุลเงินในเอเชียอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐน อย่างโดดเด่น รวมถึงค่าเงินบาท ย่อมเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออกของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง KCE / SVI ที่มีฐานลูกค้าหลักอยู่ในอียู ทำให้ยอดขายสินค้าของลูกค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากราคาสินค้าที่ถูกลงในแง่ของสกุลเงิน
4.คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ:
•อัตราการว่างงานเดือนส.ค. Bloomberg consensus คาด 6.1% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.2%
•การจ้างงานภาคเอกชน เดือนส.ค. Bloomberg consensus คาดเพิ่มขึ้น 2.15 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.98 แสนตำแหน่ง
5.ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่
•ติดตามการเข้าทำงานของ รมว.แต่ละท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงพาณิชย์, กลุ่มไอซีที และ กลุ่มการท่องเที่ยว อาจเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละส่วนออกมาหลังการประชุม ครม.นัดแรกวันที่ 9 ก.ย.
•ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงิน และการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติ หลัง ECB ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง อาจเห็นเม็ดเงินในลักษณะ Carry Trade กลับเข้าตลาดหุ้นในเอเชียได้
•ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในต่างประเทศ ได้แก่ ดุลการค้าในจีน, GDP ใน 2Q57 ของญี่ปุ่น และ อียู เป็นต้น
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.03 13.79 16.06 13.82
PSE 20.35 17.58 20.53 17.73
JSE 16.85 14.37 16.93 14.44
KOSPI 10.48 9.12 10.49 9.13
TAIEX 15.04 14.09 15.06 14.12
Straits Tim
14.76 13.60 14.77 13.61
SHCOMP 9.15 8.09 9.08 8.03
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.SVI : ราคาปิด 4.68 บาท ราคาเหมาะสม 5.60 บาท
a)MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์จะได้อานิสงค์บวก หลัง ECB ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเหลือ 0.05% จากเดิมที่ 0.15% และดอกเบี้ยเงินฝากลงเป็น -0.2% จากเดิมที่ -0.1%
b)และส่งผลให้ Dollar Index ทำระดับแข็งค่าสูงสุดในรอบ 14 เดือน ดังนั้น จึงทำให้ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลงด้วยเช่นกัน และเป็นบวกต่อรายได้ของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์เนื่องจากมีสัดส่วนกว่า 95% เป็นยอดขายในสกุลเงิน USD
c)คาดผลประกอบการ 3Q57 จะเติบโตสูงทั้ง yoy และ qoq และมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ได้ จากผลบวกตามฤดูกาล และรับรู้คำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้ายุโรป
d)ผลักดันให้กำไรปกติปี 2557 เติบโต +66.5% yoy เป็น 814 ล้านบาท ขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ และยังมี Valuation ที่ไม่แพง โดยซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 10.6 เท่า ต่ำกว่า DELTA ที่ 13.9 เท่า และ KCE ที่ 11.3 เท่า
e)รวมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีราวปีละ 5%
2.AAV : ราคาปิด 4.82 บาท ราคาเหมาะสม 5.20 บาท
a)ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวก จากแรงเก็งกำไรการยกเลิกกฎอัยการศึกใน 22 จังหวัดท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะเสนอให้คสช.พิจารณาในวันนี้
b)และกระทรวงการคลังเตรียมพิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในวันนี้เช่นกัน โดยคาดว่าจะให้นำใบเสร็จค่าใช้จ่ายค่าซื้อแพ็คเกจทัวร์ หรือ ค่าใช้จ่ายห้องพักโรงแรม มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ต่อคนต่อปี
c)ดังนั้น เราคาดว่าหากกระทรวงการคลังอนุมัติมาตรการดังกล่าว จะเป็นบวกต่อรายได้ของสายการบินประเภท Low Cost Airline เนื่องจากจะส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีที่เข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว
d)และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง -10.3% QTD ใน 3Q57 เหลือ US$94.45/barrel จะส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักของสายการบินลดลง
e)คาดจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการในลักษณะ V Shaped ตั้งแต่ 3Q57 เป็นต้นไป และกำไรสุทธิปี 2558 คาดว่าจะเติบโต +240% yoy เป็น 1,671 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มสายการบิน และราคาหุ้นซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.88 เท่า
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ รายงานการจ้างงาน
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้ซื้อสุทธิ US$42 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$504 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 8.8 248.8 13,511.2 9,188.0
KOSPI n.a 141.5 8,968.9 4,875.1
JSE 13.2 40.5 4,887.7 -1,806.4
PSE -11.3 14.2 1,293.0 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 7.3 1.6 271.6 263.2
SET INDEX 31.6 59.0 -580.9 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,011 +1,895
SET50 Index Futures (สัญญา) -2,869 +7,087
SSF (สัญญา) +1,037 +972
Metal Futures (สัญญา) +10 -983
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +157 +1,142
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 1,011 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 5,257 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 20,465 ล้านบาท น่าจะเป็นผลจากการเสร็จสิ้นงาน Thailand Focus ในวันที่ 29 ส.ค.
ด้านนักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,869 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 7,131 สัญญา คาดว่าจะเป็นการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.97 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.93 จุด
Metal Futures การลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้ขาดความโดดเด่น แม้ว่าจะกลับมา Long สุทธิวันแรกในรอบ 5 วันทำการ แต่ก็เพียง 10 สัญญา เทียบกับตลอด 4 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 1,962 สัญญา เนื่องจากทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกขาดความชัดเจน
และ ตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่ก็เพียง 157 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิเพียง 1,299 ล้านบาทเท่านั้น
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 559 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 436 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
KBANK 170.43 11.45% 233.69
BBL 72.92 5.88% 212.72
TRUE 55.20 4.29% 11.04
BGH 30.97 7.64% 19.55
IVL 30.30 2.97% 28.47
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 7 คงเน้นกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิอีก 1,860 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 2,078 ล้านบาท รวม 7 วันทำการซื้อสุทธิ 10,162 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมียังคงสะสมแน่นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 สรุปภาพการลงทุน NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 4 อีก 970 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 578 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 248 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 234 ล้านบาท กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 200 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 139 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 274 ล้านบาท และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 115 ล้านบาท
2.ส่วนกลุ่มประกันภัยถูกขายสุทธิสูงสุด 67 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
KBANK 507.10 31.16 DTAC -358.60 27.76
INTUCH 302.24 29.65 TUF -124.19 18.21
KTB 277.60 9.51 LPN -99.07 26.49
PTTGC 201.73 21.84 BLA -54.51 15.49
CPF 171.82 25.65 ADVANC -42.47 14.42
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong