- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 March 2018 17:17
- Hits: 2179
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรรายตัว / Technical Rebound
Smart Pick
สะสม BJC
ราคาปิด 57.00 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้ธปท.มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งปรับ GDP ปี 2561 ขึ้นจากเดิมที่ 3.9% เป็น 4.1%
กลุ่มค้าปลีกยังมีอีกปัจจัยบวกรออยู่ คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในวันที่ 1 เม.ย. เป็นบวกต่อภาคบริโภคในประเทศ ขณะที่เราคาดกำไรปกติ 1Q61 ของ BJC จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้ที่ฟื้นตัวของ BIGC
เก็งกำไร KBANK
ราคาปิด 213.00 บาท
ราคาเหมาะสม 260.00 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลงแรงถึง -4% ตอบรับเชิงลบมากเกินไป ต่อผลกระทบของรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะลดลง หลัง KBANK ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่าน Mobile Application
เราประเมินผลกระทบในกรณี Base Case กระทบต่อเป้าหมายของ KBANK เพียง 1.00 บาท และกรณี Worst Case ที่ 3.00 บาท แต่ระยะยาวเรามองว่า ธนาคารจะได้ประโยชน์จากต้นทุนสาขาและต้นทุนจัดการเงินสดที่ลดลง
สะสม BCH
ราคาปิด 16.60 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
เรามองว่าหุ้นโรงพยาบาลจะทนต่อแรงเสียดทานของบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่เป็นลบได้ เพราะผลการดำเนินงานไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY เด่น จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่เดือน ก.ค.2560 และ WMC จะพลิกเป็นกำไรเป็นปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
เก็งกำไร CPN
ราคาปิด 79.50 บาท
ราคาเหมาะสม 86.50 บาท
การฟื้นตัวของราคาหุ้นวานนี้เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค โดยคาดว่ามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 82.00 บาท แนวรับ 79.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 78.50 บาท
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q61 คาดกำไรปกติเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้คอนโดมีเนียม และการเปิด 2 ศูนย์การค้าใหม่ในปีที่ผ่านมา ผลักดันกำไรปกติปี 2561 เติบโต +32% YoY เป็น 1.3 หมื่นล้านบาท
Profit - Taking : -
กลยุทธ์วันนี้
เรามองว่า SET INDEX วันนี้อาจเปิดอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับ 1780 จุด มีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายชั่วโมงการซื้อขายวันนี้ อาจเห็นความผันผวนของหุ้นใหญ่ในดัชนี SET50 เพราะ S50H18 ซื้อขายเป็นวันสุดท้าย อาจเกิด Arbitrage ระหว่างตลาด Spot และ Futures
การประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ย RP1 ที่ 1.5% ตามที่เราและตลาดคาด พร้อมปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้นจาก 3.9% เป็น 4.1% เร่งตัวจากปีก่อนที่ขยายตัว 3.9% บนการปรับสมมติฐานหลักคือ การบริโภคภาคเอกชนจาก 3.1% เป็น 3.3%, การลงทุนภาคเอกชน จาก 2.3% เป็น 3% และการส่งออก จาก 4% เป็น 7% สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และช่วยพยุงให้ SET INDEX ทรงตัวได้
การแข่งขันระหว่างธนาคารขนาดใหญ่เปิดฉากขึ้น ด้วยนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมของ KBANK, SCB และ KTB เรามองเป็นลบระยะสั้นเท่านั้น กรณีฐาน (Base Case) กระทบเชิงลบต่อประมาณการกำไรปีนี้ของ KBANK, SCB, KTB ราว 3% แต่ระยะยาว กลับมองเป็นบวก เพราะธนาคารจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนสาขาได้คล่องตัวขึ้น พร้อมเปิดโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เก็งกำไรหุ้นรายตัวบนความคาดหวังต่อการฟื้นตัวทางเทคนิค เลือกหุ้นกลุ่ม Domestic เป็นหลัก เพราะได้กระแสเชิงบวกจากการปรับเพิ่มประมาณการ GDP โดย ธปท. เน้นไปที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก/ ธนาคาร/ สื่อสาร/ โรงพยาบาล
HOT Topic
1.ติดตามบทวิเคราะห์เชิงลึกผลกระทบต่อกลุ่มธนาคาร จากการยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกิจผ่าน Mobile Application
2.ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.1% สอดคล้องกับมุมมองของเรา หุ้นกลุ่มใดได้ประโยชน์?
3.SET50 Index Futures สัญญา S50H18 ซื้อขายวันนี้เป็นวันสุดท้าย คาดเกิด Arbitrage ส่งผลให้หุ้นใหญ่ผันผวนช่วงท้ายตลาด
4.1780 จุด เอาอยู่ไหม? เดือนหน้าเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลงแรงหลุด 1800 จุด มาปิดที่ 1784.99 จุด ลดลง 17.59 จุด โดยหลักโดนกดดันจากหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ได้แก่ MAKRO (-11.76%), KBANK (-4.05%), CPALL (-2.5%) และ SCB (-2.4%) กดดันตลาดรวม -8.21 จุด มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายการ Big Lot หุ้น MAKRO มูลค่ามากถึง 1 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 892 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 2.8 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิกว่า 4.3 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 INDEX FUTURES นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 7.3 พันสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมกว่า 1.9 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 1.6 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 12 วันทำการราว 3.6 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เช่นเดิม และปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.1% จาก 3.9% โดยเป็นการปรับภาคส่งออกและบริการเป็นสำคัญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับพิจารณาวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขณะที่ สนช.เตรียมยื่น พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 เม.ย.นี้
เจ้าหน้าที่บริหารของสหรัฐฯ เผยสหรัฐฯจะยังไม่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจนกว่าจะถึงเดือน มิ.ย. เพื่อขยายระยะเวลาในการเจรจาข้อตกลงทางการค้า
สหรัฐฯรายงาน GDP 4Q60 ครั้งที่ 3 ขยายตัวที่ระดับ 2.9%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.7%YoY และสูงกว่าการรายงานครั้งก่อนที่ขยายตัว 2.5%YoY
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
เกาหลีเหนือมีแผนเจรจากับญี่ปุ่นหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำกับสหรัฐฯ
ติดตามการรายงานอัตราเงินเฟ้อ (PCE) วันนี้
ติดตามการรายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. โดย ธปท. วันที่ 30 มี.ค.
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรรายตัว / Technical Rebound
Smart Pick
สะสม BJC
ราคาปิด 57.00 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้ธปท.มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย พร้อมทั้งปรับ GDP ปี 2561 ขึ้นจากเดิมที่ 3.9% เป็น 4.1%
กลุ่มค้าปลีกยังมีอีกปัจจัยบวกรออยู่ คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในวันที่ 1 เม.ย. เป็นบวกต่อภาคบริโภคในประเทศ ขณะที่เราคาดกำไรปกติ 1Q61 ของ BJC จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้ที่ฟื้นตัวของ BIGC
เก็งกำไร KBANK
ราคาปิด 213.00 บาท
ราคาเหมาะสม 260.00 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลงแรงถึง -4% ตอบรับเชิงลบมากเกินไป ต่อผลกระทบของรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะลดลง หลัง KBANK ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่าน Mobile Application
เราประเมินผลกระทบในกรณี Base Case กระทบต่อเป้าหมายของ KBANK เพียง 1.00 บาท และกรณี Worst Case ที่ 3.00 บาท แต่ระยะยาวเรามองว่า ธนาคารจะได้ประโยชน์จากต้นทุนสาขาและต้นทุนจัดการเงินสดที่ลดลง
สะสม BCH
ราคาปิด 16.60 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
เรามองว่าหุ้นโรงพยาบาลจะทนต่อแรงเสียดทานของบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่เป็นลบได้ เพราะผลการดำเนินงานไม่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY เด่น จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่เดือน ก.ค.2560 และ WMC จะพลิกเป็นกำไรเป็นปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
เก็งกำไร CPN
ราคาปิด 79.50 บาท
ราคาเหมาะสม 86.50 บาท
การฟื้นตัวของราคาหุ้นวานนี้เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค โดยคาดว่ามีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 82.00 บาท แนวรับ 79.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 78.50 บาท
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q61 คาดกำไรปกติเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้คอนโดมีเนียม และการเปิด 2 ศูนย์การค้าใหม่ในปีที่ผ่านมา ผลักดันกำไรปกติปี 2561 เติบโต +32% YoY เป็น 1.3 หมื่นล้านบาท
Profit - Taking : -
กลยุทธ์วันนี้
เรามองว่า SET INDEX วันนี้อาจเปิดอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับ 1780 จุด มีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายชั่วโมงการซื้อขายวันนี้ อาจเห็นความผันผวนของหุ้นใหญ่ในดัชนี SET50 เพราะ S50H18 ซื้อขายเป็นวันสุดท้าย อาจเกิด Arbitrage ระหว่างตลาด Spot และ Futures
การประชุม กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ย RP1 ที่ 1.5% ตามที่เราและตลาดคาด พร้อมปรับประมาณการ GDP ปีนี้ขึ้นจาก 3.9% เป็น 4.1% เร่งตัวจากปีก่อนที่ขยายตัว 3.9% บนการปรับสมมติฐานหลักคือ การบริโภคภาคเอกชนจาก 3.1% เป็น 3.3%, การลงทุนภาคเอกชน จาก 2.3% เป็น 3% และการส่งออก จาก 4% เป็น 7% สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และช่วยพยุงให้ SET INDEX ทรงตัวได้
การแข่งขันระหว่างธนาคารขนาดใหญ่เปิดฉากขึ้น ด้วยนโยบายฟรีค่าธรรมเนียมของ KBANK, SCB และ KTB เรามองเป็นลบระยะสั้นเท่านั้น กรณีฐาน (Base Case) กระทบเชิงลบต่อประมาณการกำไรปีนี้ของ KBANK, SCB, KTB ราว 3% แต่ระยะยาว กลับมองเป็นบวก เพราะธนาคารจะสามารถบริหารจัดการต้นทุนสาขาได้คล่องตัวขึ้น พร้อมเปิดโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เก็งกำไรหุ้นรายตัวบนความคาดหวังต่อการฟื้นตัวทางเทคนิค เลือกหุ้นกลุ่ม Domestic เป็นหลัก เพราะได้กระแสเชิงบวกจากการปรับเพิ่มประมาณการ GDP โดย ธปท. เน้นไปที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก/ ธนาคาร/ สื่อสาร/ โรงพยาบาล
HOT Topic
1.ติดตามบทวิเคราะห์เชิงลึกผลกระทบต่อกลุ่มธนาคาร จากการยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกิจผ่าน Mobile Application
2.ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.1% สอดคล้องกับมุมมองของเรา หุ้นกลุ่มใดได้ประโยชน์?
3.SET50 Index Futures สัญญา S50H18 ซื้อขายวันนี้เป็นวันสุดท้าย คาดเกิด Arbitrage ส่งผลให้หุ้นใหญ่ผันผวนช่วงท้ายตลาด
4.1780 จุด เอาอยู่ไหม? เดือนหน้าเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลงแรงหลุด 1800 จุด มาปิดที่ 1784.99 จุด ลดลง 17.59 จุด โดยหลักโดนกดดันจากหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ได้แก่ MAKRO (-11.76%), KBANK (-4.05%), CPALL (-2.5%) และ SCB (-2.4%) กดดันตลาดรวม -8.21 จุด มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากรายการ Big Lot หุ้น MAKRO มูลค่ามากถึง 1 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 892 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 2.8 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิกว่า 4.3 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 INDEX FUTURES นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 7.3 พันสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมกว่า 1.9 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 1.6 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 12 วันทำการราว 3.6 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เช่นเดิม และปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2561 ขึ้นเป็น 4.1% จาก 3.9% โดยเป็นการปรับภาคส่งออกและบริการเป็นสำคัญ
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับพิจารณาวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขณะที่ สนช.เตรียมยื่น พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 เม.ย.นี้
เจ้าหน้าที่บริหารของสหรัฐฯ เผยสหรัฐฯจะยังไม่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจนกว่าจะถึงเดือน มิ.ย. เพื่อขยายระยะเวลาในการเจรจาข้อตกลงทางการค้า
สหรัฐฯรายงาน GDP 4Q60 ครั้งที่ 3 ขยายตัวที่ระดับ 2.9%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.7%YoY และสูงกว่าการรายงานครั้งก่อนที่ขยายตัว 2.5%YoY
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
เกาหลีเหนือมีแผนเจรจากับญี่ปุ่นหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำกับสหรัฐฯ
ติดตามการรายงานอัตราเงินเฟ้อ (PCE) วันนี้
ติดตามการรายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. โดย ธปท. วันที่ 30 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist ,662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO7223