WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 27-03-18


“ สหรัฐฯเปิดทางเจรจาการค้า เป็นบวกต่อตลาด  ”
ทิศทางตลาดหุ้นไทย:
  สถานการณ์ต่างประเทศเริ่มคลี่คลายลงและกลับมาเป็นบวกมากขึ้น หลังนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการค้า ขณะที่สหรัฐฯส่งผู้แทนการค้า เพื่อเจรจากับทางการจีนแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ด้วยปัจจัยบวกดังกล่าวเราจึงมองว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อน .... วันนี้ติดตามที่ประชุม ครม. อาจมีมติโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2 แสนล้านบาท, และวาระที่กสทช.เสนอ ครม. ขอแบ่งผ่อนชำระค่าใบอนุญาติคลื่น 900 MHzและมาตรการช่วยเหลือกลุ่มทีวีดิจิทอล, และการแถลงภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

กลยุทธ์การลงทุน:
  มองตลาดปรับตัวขึ้นต่อ แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น .... แนะนำหุ้นที่มีลักษณะเป็น domestic play ได้รับผลบวกจากปัจจัยในประเทศที่ยังแข็งแกร่ง, หากผลที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติเรื่องการแบ่งผ่อนชำระค่าใบอนุญาติคลื่น 900 MHz .… หุ้นที่ติด most active ที่เราแนะนำซื้อ ประกอบด้วย BBL, KTC, IVL ...  ขณะที่มาตรการช่วยเหลือกลุ่มทีวีดิจิทอลและโทรศัพท์ ที่จะเข้าประชุม ครม.วันนี้ หาก ครม.เห็นชอบตาม กสทช.เสนอ เราแนะนำซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์  ประกอบด้วย ADVANC  DTAC และ BEC*
 * เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) BBL : (ราคาปิด 200.00 บาท)
  BBL มีความน่าสนใจจาก 3 ประเด็นได้แก่ 1) Thai NVDR ยกเลิกการงดลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิง BBL, 2) หาก ครม. อนุมัติการช่วยเหลือกลุ่มทีวีดิจิทอล คาด BBL จะได้ผลประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว และ 3) คาดว่า BBL จะตั้งสำรองเพิ่มเติมจากเกณฑ์ IFRS 9 น้อยกว่าหุ้นกลุ่มแบงค์อื่นๆ  .... ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 222.00 บาท
(+) KTC : (ราคาปิด 293.00 บาท)
  KTC เป็นหุ้นที่อิงกับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก โดยบริษัทได้มีการขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากกลุ่มระดับ Mass ขึ้นสู่กลุ่มระดับ Premium ที่มีฐานเงินเดือนสูงกว่า 5 หมื่นบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีการบริหารแหล่งเงินกู้โดยการออกหุ้นกู้ระยะยาว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเราคาดปี 2018 บริษัทเติบโต +23% YoY ที่ 4,048 ล้านบาท
(+) ROBINS : (ราคาปิด 65.00 บาท)
  ROBINS เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่มีลักษณะเป็น domestic play ซึ่งปัจจุบันความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 79.3 ในขณะที่ค่าเฉลี่ย 2 ปีอยู่ที่ระดับราว 75 นอกจากนี้ เรายังมองว่าปี 2018 กำไรสุทธิของบริษัทจะเพิ่มขึ้น +13% YoY จากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว การบริหารต้นทุนที่ดีและการขยายสาขา   .... ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 79.00 บาท
 หุ้นมีประเด็น
(+) กลุ่มยานยนต์: คาดตลาดรถยนต์เดือน มี.ค.ดีต่อเนื่อง อานิสงส์มอเตอร์โชว์
  นายวุฒิกรสุริยะ ฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรถยนต์ในเดือน มี.ค.คาดว่ายังคงเติบโตดี เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงข้อเสนอพิเศษและเงื่อนไขการเช่าซื้อที่หลากหลายจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ตลอดจนการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองและราคาพืชผลทางการเกษตรที่ส่วนใหญ่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่บ้างแต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก รวมทั้งโครงการรถยนต์คันแรกได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ (ที่มา: เดลินิวส์)
ความเห็น: เราคาดว่าตลาดรถยนต์เดือน มี.ค.-เม.ย. ยังคงเติบโตดี โดยมีปัจจัยบวกจากอานิสงส์การจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-8 เม.ย.2018 ซึ่งเราประเมินว่ายอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ปี 2018 จะกลับมาเติบโตได้ครั้งแรกในรอบ 6 ปี จากปี 2017 ที่มียอดจองรถยนต์ที่ 31,031 คัน จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และการถือครองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกทยอยครบ 5 ปี ทำให้เกิดกำลังซื้อใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มยานยนต์ ได้แก่ AH (ราคาเป้าหมาย 42 บาท), SAT (ราคาเป้าหมาย 22 บาท) หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ ได้แก่ KKP (ราคาเป้าหมายที่ 89 บาท) รวมถึงคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อ GPI เนื่องจากเป็นผู้จัดงาน Motor show ซึ่งมีการขึ้นค่าเช่า 7% จากปีแล้ว เราจึงมองว่า 1H18 GPI จะมีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเหมาะสม 4.30 บาท
   
บทวิเคราะห์วันนี้
(0) TISCO (ถือ/91 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q18 ทรงตัว แต่สินเชื่อจะหดตัวลงต่อเนื่อง
  เราประมาณการกำไรสุทธิ 1Q18 ที่ 1.52 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% YoY จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นถึง 19% YoY จากการรวมพอร์ตกับ SCBT แต่มีค่าใช้จ่ายในการรวมพอร์ตสินเชื่อบ้าน ทำให้เราคาดว่า Cost to Income ratio จะอยู่ที่ระดับ 48.7% จาก 42.0% ใน 1Q17 ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 0.3% QoQ เนื่องจากไตรมาสก่อนมีรายได้ค่าธรรมเนียมในส่วนของ Incentive จากกองทุนรวมเข้ามา 300 ล้านบาท และเราคาดว่า NIM จะลดลงมาอยู่ที่ 4.74% จาก 4.96% ใน 4Q18 จากสินเชื่อที่หดตัวลง ขณะที่แนวโน้มของ NIM มีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องในปีนี้จากการลดพอร์สินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าเหมาะสมที่ 91 บาท เพราะ TISCO จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เม.ย. ที่ 5 บาท คิดเป็น dividend yield ค่อนข้างสูงที่ 5.5%

Analyst
Mongkol Puangpetra
License No: 001937  
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447  
+662 648 1127
[email protected]
OO7088

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!