- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 March 2018 17:32
- Hits: 980
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play//Accumulate on Weakness
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET อ่อนตัวลงในช่วงเช้าตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจากฝั่งต่างประเทศ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมาแกว่ง Sideways และปิดทรงตัว ณ สิ้นวัน แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนต่างชาติกว่า 3.2 พันลบ. ขณะที่รายย่อยเป็นฝ่ายซื้อในปริมาณใกล้เคียงกัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องโดยยังคงไร้ปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระทบ โดยทุกสายตาต่างรอดูผลการประชุม FOMC โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธาน FED และ Dot Plot เพื่อประเมินโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ ขณะที่ฝั่งบ้านเราวันนี้จะประกาศตัวเลขนำเข้า-ส่งออกเดือน ก.พ. (ตลาดคาดส่งออกโตราว 9%) เรายังมองว่าระยะสั้นหุ้นที่ยัง Laggard และอิงกับเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลักน่าจะ Outperform ตลาดได้ ส่วนกลุ่มพลังงานวันนี้น่าจะได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard//สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ADVANC, MINT, MTLS, PTTEP, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$312ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไทย US$104ล้าน และฟิลิปปินส์ US$74ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้มีทิศทางไหลออกจากภูมิภาครอผลการประชุม FOMC เพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SCC <<
แนะนำซื้อ ในฐานะหุ้นใหญ่ที่ยัง Laggard SET50 ราคาเป้าหมาย 580 บาท
แม้เราคาดกำไรปีนี้ -3% Y-Y เป็น 5.31 หมื่นลบ. จากต้นทุนวัตถุดิบธุรกิจเคมีคอลที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ในเชิง Valuation ถือว่าน่าสนใจ โดย PE2018 ยังต่ำเพียง 11.2 เท่า และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4% ต่อปี งวด 2H17 จ่าย 10.50 บาท/หุ้น (yield 2%) ขึ้น XD 4 เม.ย.
NVDR กลับมาซื้อครั้งแรกในรอบ 3 เดือนราว 700 ลบ. ขณะที่ ยอด Short Sales เฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีลดลงเหลือเพียง 2 ล้านหุ้นต่อวัน จากปีก่อนที่ 15 ล้านหุ้นต่อวัน ถือเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกในระยะสั้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) CMAN เริ่มซื้อขายวันแรก จำนวนหุ้น IPO 240 ล้านหุ้น ที่ราคา 3.84 บาท CMAN เป็นผู้ดำเนินธุรกิจปูนไลม์และผลิตภัณฑ์เคมีต่อเนื่อง รายเดียวในประเทศที่มีทั้งโรงงานปูนไลม์และเหมืองแร่เป็นของตัวเอง ซึ่งมีความต้องการใช้ทั่วโลกและกระจายในหลายอุตสาหกรรม เช่น ก่อสร้าง น้ำตาล เหมืองแร่ กระดาษ และปิโตรเคมี การเติบโตของผู้ผลิตขึ้นอยู่กับการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่ง CMAN มีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการผลิต ที่เตาเผาสามารถใช้เชื้อเพลิงถ่านหินที่มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง เมื่อผนวกกับแผนการเพิ่มกำลังการผลิต และการขยายโรงงานในต่างประเทศ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปี 2018-2020 จะโตเฉลี่ยสูงถึง 44% ต่อปี ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของปี 2018 ด้วยวิธี DCF ได้เท่ากับ 6.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ CMAN)
(0) MINT มีข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าเตรียมเข้าลงทุนใน NH Hotel ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมในยุโรป ประเด็นข่าวดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันและแจ้งตลาดฯจาก MINT แต่หากอิงจาก Market Cap ปัจจุบันของ NHH ซึ่งอยู่ที่ราว 8.6 หมื่นลบ. คิดเป็น PE และ PBV ราว 30 เท่าและ 2 เท่า (ตัวเลขอิงจาก Bloomberg) เรามองว่าไม่ได้สูงนัก โดยหาก MINT เข้าซื้อในสัดส่วน 29.35% จากกลุ่ม HNA Group คาดว่ายังมีความสามารถในการกู้ แต่จะไม่ได้กระทบเชิงบวกต่อกำไรสุทธินัก เพราะถูกหักล้างด้วยดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่หากต้องทำ Tender Offer เราคาดว่ามีความจำเป็นที่ MINT ต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตามเรายังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปัจจุบันที่ 48 บาท
(0) HANA แม้บริษัทยังเห็นคำสั่งซื้อที่ดี และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์โลกยังเป็นขาขึ้น แต่ต้องเผชิญกับค่าเงินบาทแข็งค่า และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สุทธิแล้วอาจทำให้รายได้สกุลบาทและอัตรากำไรขั้นต้นไม่เติบโต รวมถึงอยู่ระหว่างการลงทุนครั้งใหม่ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตในอนาคต แต่ระยะสั้นในปีนี้คาดจะมีค่าใช้จ่าย R&D สูงขึ้น เราปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 16% เหลือ 2.3 พันลบ. -19.4% Y-Y (แต่หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนปีก่อน คาดกำไรปกติทรงตัว Y-Y) ส่วนราคาเป้าหมายปรับลงเป็น 43 บาท จากเดิม 58 บาท แต่ด้วยราคาหุ้นที่ปรับลงมามากจน PE2018 เหลือเพียง 12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตัวเองและของกลุ่ม และให้ Dividend Yield สูงปีละ 5.8% เราจึงคงคำแนะนำซื้อ
(0) ICHI ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2018 +17% Y-Y เน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แนวโน้มตลาดชาเขียวในประเทศยังไม่ดี เจอทั้งภาษีและแข่งขันแรง ส่วนต่างประเทศยังเน้น CLMV และอินโดนีเซียต่อเนื่อง โดย CLMV มีกำไร แต่อินโดนีเซียจะขาดทุนไปจนกว่าจะมีโรงงานในนั้นหรือราวปี 2021 และกำลังบุกไปจีน คาดเห็นภายในสิ้นปีนี้ แนวโน้มกำไร 1Q18 อาจยังไม่สดใส เพราะปรับขึ้นราคาขายจากภาษีเต็มไตรมาส และปรับสูตรเย็น เย็น ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตต่ำ แต่จะกลับมาฟื้นตัวใน 2Q18 ยังคาดกำไรปีนี้กลับมาโต 53% และคงราคาเป้าหมาย 8.5 บาท แนะนำถือ
(0) ASEFA บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ +15% Y-Y จากปีก่อนที่ทำได้เพียง Flat Y-Y โดยจะมีสินค้าและบริการที่หลากหลายขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย คาด GPM ที่ 23% ใกล้ค่าเฉลี่ยปีก่อน แต่ลดลงจากปี 2016 ที่ 25% จากภาวะการแข่งขันในธุรกิจที่ยังค่อนข้างรุนแรง ทั้งนี้ ประมาณการของเรา Conservative กว่าเป้าของบริษัท โดยคาดรายได้รวมปีนี้เพิ่ม 10% Y-Y ส่วน GPM ใกล้เคียงเป้าของบริษัท Backlog ณ สิ้น ก.พ. 18 ที่เกือบ 2 พันลบ. คาดรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 60-65% แนะนำเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท โดยมีปันผลงวด 2017 หุ้นละ 0.32 บาท yield 5.3% XD 3 พ.ค.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 มี.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ก.พ.)
- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
- ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต (มี.ค.)
- อังกฤษ: ประชุม BOE
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
23 มี.ค.- สหรัฐฯ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.พ.)
- ญี่ปุ่น: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
27 มี.ค.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
28 มี.ค.- ไทย: ประชุม กนง.
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคอยจับตาดูถ้อยแถลงการของเฟดในคืนนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินยูโรและปอนด์ ซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรบริษัทส่งออกและบริษัทข้ามชาติ
(+) ตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเช้านี้ โดยมีรายงานข่าวว่า BOJ อาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยถ้าเห็นเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะยังไม่ใช่ในเร็วๆนี้
() ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสำคัญหลักๆของโลก ทำให้ล่าสุด เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 31.20-31.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 1.34 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 63.40 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศเวเนซุเอลา ที่มีแนวโน้มว่าจะลดกำลังการผลิตลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับตัวลง 5.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,311.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO6784