- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 March 2018 16:27
- Hits: 781
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว เน้น Domestic Play
Smart Pick
สะสม INTUCH
ราคาปิด 59.00 บาท
ราคาเหมาะสม 74.75 บาท
Valuation ยังน่าสนใจ ณ ปัจจุบันซื้อขายส่วนลดจาก NAV ของการถือหุ้นใน ADVANC, THCOM สูงถึง 27% เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ราว 18% เชื่อว่าหุ้น INTUCH จะกลับมา Outperform
ขึ้น XD เงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 1.27 บาท วันที่ 9 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.1% และกำไรของ ADVANC ปีนี้กลับสู่การเติบโตในรอบ 3 ปี หนุนกำไรของ INTUCH +13% YoY
สะสม BJC
ราคาปิด 58.25 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะแข็งแกร่งกว่าหุ้นกลุ่ม Global Play จากตลาดเข้าสู่การพักฐานเพื่อรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.
กลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.ส่งสัญญาณปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2561 ขึ้นในสัปดาห์หน้า จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ +3.9% หนุน Sentiment การลงทุนของกลุ่มค้าปลีก
เก็งกำไร SAPPE
ราคาปิด 23.80 บาท
ราคาเหมาะสม 34.50 บาท
หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มมี Sentiment เชิงบวก จากเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ อีกทั้งคาดว่าตลาดตอบรับเชิงบวกต่อ Product ใหม่ของ SAPPE คือ Beauti Jelly ซึ่งจะวางขายที่ 7-11 ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.เป็นต้นไป
คาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +25% YoY เป็น 476 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 2 ด้วย Valuation น่าสนใจ PER2561 เพียง 15.2 เท่า เทียบเท่า PEG ที่ 0.6 เท่า
เก็งกำไร BCH
ราคาปิด 17.00 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
ปัจจัยหนุนทางเทคนิค หลังราคาหุ้นปิดที่ 17.00 บาทวานนี้ จึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 18.00 บาท แนวรับ 16.80 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 16.50 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY หนุนจากการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่ ก.ค.2560 และ WMC พลิกเป็นกำไรปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
การพักฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ เกิดจากปัจจัยเฉพาะตัวในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก แม้อาจส่งผลกระทบเชิง Sentiment ต่อตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าบ้าง แต่เราเชื่อว่าส่งผลกระทบต่อพื้นฐานตลาดหุ้นไทยจำกัด เราประเมินภาพระยะสัปดาห์ของ SET INDEX มีแนวต้านหลักบริเวณ 1820 จุด ขณะที่ความเสี่ยงด้านล่าง (Downside Risk) ไม่ลึกมาก แนว 1780 จุด +/- จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยภายนอกประเทศ เริ่มเห็นสัญญาณผันผวนมากขึ้น จากประเด็นความเสี่ยงในสหรัฐฯ หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ ได้ทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 23 มี.ค.นี้ อาจนำไปสู่การปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) อีกครั้ง
อีกทั้งตลอดสัปดาห์ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (20-21 มี.ค.) ต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงไว้ที่ 3 ครั้งหรือไม่, นโยบายกำแพงภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มี.ค.นี้ รวมถึง การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอิตาลี หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 มี.ค.
มุมมองของเราประเมินว่า กลุ่ม Domestic Play ดูปลอดภัยกว่ากลุ่ม Global Play ในช่วงนี้ จากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ กลยุทธ์การลงทุนเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวเช่นเดิม เน้นสะสมกลุ่ม Domestic เป็นหลัก ได้แก่ ค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TISCO), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE/ INTUCH)
HOT Topic
1. หุ้นกลุ่ม Domestic Play คาดว่าจะ Outperform ตลาด เพื่อรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.
2. หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มเริงร่า เข้าสู่ High Season ฤดูร้อนมาเร็วกว่าปกติ เราชอบหุ้นตัวใด
3. INTUCH น่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายมีส่วนลดจาก NAV มากเกินไป
4. ความคืบหน้าในการเจรจา BREXIT จะกระทบอย่างไรต่อตลาดหุ้นไทย?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลงแรงถึง 11.97 จุด ปิดที่ 1799.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท โดยหลักเกิดจากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT(-2.19%), PTTGC(-2.49%) และ SCC(-1.19%) มีผลกระทบต่อตลาดราว -4.5 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิราว 2.5 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 632 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการราว 3.1 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเพียงเล็กน้อยเพียง 23 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 1.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 4.1 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิราว 3.7 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
EU และอังกฤษ สามารถบรรลุข้อตกลงในการอนุญาตให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิก EU ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2563 จากเดิมที่จะเป็นสมาชิกถึง มี.ค. 2562 เท่านั้น
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจไล่ Robert Mueller ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของสหรัฐฯ เนื่องจาก Mueller เข้าไปสืบสวนการกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ
สมาคมการค้าของสหรัฐฯ 45 แห่ง ส่งจดหมายให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯยกเลิกแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
วลาดิมีร์ ปูติน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีรัสเซียสมัยที่ 4 ต่อเนื่องไปอีก 6 ปี
สัปดาห์นี้มีหุ้น IPO เข้าใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ CMAN เข้าซื้อขายใน SET ราคา IPO ที่ 3.84 บาท/หุ้น ในวันที่ 21 มี.ค. และ CHAYO เข้าซื้อขายในตลาด MAI ราคา IPO ที่ 2.88 บาท/หุ้น ในวันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการประชุม G20 และ WTO วันที่ 19-20 มี.ค.
ติดตามการประชุม FED วันที่ 20-21 มี.ค.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการรายงานค่า PMI ของสหรัฐและอียู วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนก.พ. วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมของอิตาลี วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกไทย เดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.
จับตาการแก้ปัญหาการคลังของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) ที่มีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 23 มี.ค.
สะสม INTUCH
ราคาปิด 59.00 บาท
ราคาเหมาะสม 74.75 บาท
Valuation ยังน่าสนใจ ณ ปัจจุบันซื้อขายส่วนลดจาก NAV ของการถือหุ้นใน ADVANC, THCOM สูงถึง 27% เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ราว 18% เชื่อว่าหุ้น INTUCH จะกลับมา Outperform
ขึ้น XD เงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 1.27 บาท วันที่ 9 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.1% และกำไรของ ADVANC ปีนี้กลับสู่การเติบโตในรอบ 3 ปี หนุนกำไรของ INTUCH +13% YoY
สะสม BJC
ราคาปิด 58.25 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นกลุ่ม Domestic Play จะแข็งแกร่งกว่าหุ้นกลุ่ม Global Play จากตลาดเข้าสู่การพักฐานเพื่อรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.
กลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ธปท.ส่งสัญญาณปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2561 ขึ้นในสัปดาห์หน้า จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ +3.9% หนุน Sentiment การลงทุนของกลุ่มค้าปลีก
เก็งกำไร SAPPE
ราคาปิด 23.80 บาท
ราคาเหมาะสม 34.50 บาท
หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มมี Sentiment เชิงบวก จากเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ อีกทั้งคาดว่าตลาดตอบรับเชิงบวกต่อ Product ใหม่ของ SAPPE คือ Beauti Jelly ซึ่งจะวางขายที่ 7-11 ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.เป็นต้นไป
คาดกำไรปกติปี 2561 เติบโต +25% YoY เป็น 476 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 2 ด้วย Valuation น่าสนใจ PER2561 เพียง 15.2 เท่า เทียบเท่า PEG ที่ 0.6 เท่า
เก็งกำไร BCH
ราคาปิด 17.00 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
ปัจจัยหนุนทางเทคนิค หลังราคาหุ้นปิดที่ 17.00 บาทวานนี้ จึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 18.00 บาท แนวรับ 16.80 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 16.50 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY หนุนจากการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่ ก.ค.2560 และ WMC พลิกเป็นกำไรปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
การพักฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ เกิดจากปัจจัยเฉพาะตัวในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก แม้อาจส่งผลกระทบเชิง Sentiment ต่อตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าบ้าง แต่เราเชื่อว่าส่งผลกระทบต่อพื้นฐานตลาดหุ้นไทยจำกัด เราประเมินภาพระยะสัปดาห์ของ SET INDEX มีแนวต้านหลักบริเวณ 1820 จุด ขณะที่ความเสี่ยงด้านล่าง (Downside Risk) ไม่ลึกมาก แนว 1780 จุด +/- จะทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง
ปัจจัยภายนอกประเทศ เริ่มเห็นสัญญาณผันผวนมากขึ้น จากประเด็นความเสี่ยงในสหรัฐฯ หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ ได้ทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 23 มี.ค.นี้ อาจนำไปสู่การปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) อีกครั้ง
อีกทั้งตลอดสัปดาห์ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (20-21 มี.ค.) ต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงไว้ที่ 3 ครั้งหรือไม่, นโยบายกำแพงภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มี.ค.นี้ รวมถึง การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอิตาลี หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 มี.ค.
มุมมองของเราประเมินว่า กลุ่ม Domestic Play ดูปลอดภัยกว่ากลุ่ม Global Play ในช่วงนี้ จากความไม่แน่นอนในต่างประเทศ กลยุทธ์การลงทุนเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวเช่นเดิม เน้นสะสมกลุ่ม Domestic เป็นหลัก ได้แก่ ค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TISCO), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE/ INTUCH)
HOT Topic
1. หุ้นกลุ่ม Domestic Play คาดว่าจะ Outperform ตลาด เพื่อรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.
2. หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มเริงร่า เข้าสู่ High Season ฤดูร้อนมาเร็วกว่าปกติ เราชอบหุ้นตัวใด
3. INTUCH น่าสนใจ เนื่องจากซื้อขายมีส่วนลดจาก NAV มากเกินไป
4. ความคืบหน้าในการเจรจา BREXIT จะกระทบอย่างไรต่อตลาดหุ้นไทย?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลงแรงถึง 11.97 จุด ปิดที่ 1799.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.1 หมื่นล้านบาท โดยหลักเกิดจากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่นำโดย PTT(-2.19%), PTTGC(-2.49%) และ SCC(-1.19%) มีผลกระทบต่อตลาดราว -4.5 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิราว 2.5 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 632 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการราว 3.1 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเพียงเล็กน้อยเพียง 23 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 1.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 4.1 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิราว 3.7 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
EU และอังกฤษ สามารถบรรลุข้อตกลงในการอนุญาตให้อังกฤษยังคงเป็นสมาชิก EU ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2563 จากเดิมที่จะเป็นสมาชิกถึง มี.ค. 2562 เท่านั้น
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจไล่ Robert Mueller ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของสหรัฐฯ เนื่องจาก Mueller เข้าไปสืบสวนการกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ
สมาคมการค้าของสหรัฐฯ 45 แห่ง ส่งจดหมายให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯยกเลิกแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
วลาดิมีร์ ปูติน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีรัสเซียสมัยที่ 4 ต่อเนื่องไปอีก 6 ปี
สัปดาห์นี้มีหุ้น IPO เข้าใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ CMAN เข้าซื้อขายใน SET ราคา IPO ที่ 3.84 บาท/หุ้น ในวันที่ 21 มี.ค. และ CHAYO เข้าซื้อขายในตลาด MAI ราคา IPO ที่ 2.88 บาท/หุ้น ในวันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการประชุม G20 และ WTO วันที่ 19-20 มี.ค.
ติดตามการประชุม FED วันที่ 20-21 มี.ค.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการรายงานค่า PMI ของสหรัฐและอียู วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนก.พ. วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมของอิตาลี วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกไทย เดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.
จับตาการแก้ปัญหาการคลังของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) ที่มีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 23 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6722
