- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 March 2018 17:52
- Hits: 1289
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม ADVANC
ราคาปิด 212.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
สัปดาห์ที่ผ่านมา กสทช.มีมติให้ ADVANC และ TRUE แบ่งชำระค่างวดคลื่น 900MHz เป็นเวลา 5 ปี โดยจะเสนอครม.ในวันที่ 27 มี.ค.
เป็นบวกต่อกระแสเงินสดของ ADVANC ให้มีความตึงตัวลดลง และมีโอกาสที่จะจ่าย Dividend Payout Ratio ได้สูงกว่าคาดการณ์ที่ 70% ในปี 2561 จะขึ้น XD เงินปันผล 2H60 หุ้นละ 3.57 บาท วันที่ 5 เม.ย.
เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 117.00 บาท
ราคาเหมาะสม 123.00 บาท
มีปัจจัยบวกรออยู่ คือ กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศร่าง TOR ประมูลปิโตรเลี่ยมรอบใหม่ ช่วงปลายเดือน มี.ค.,ยื่นซองประกวดราคาเดือน เม.ย. และทราบผลประมูลใน 4Q61
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากแรงหนุนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ปี 2561 คาดกำไรเติบโตเด่น +29.2% YoY เป็น 34,296 ล้านบาท
สะสม BCH
ราคาปิด 16.70 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรายได้ 2 เดือนแรกใน 1Q61 เติบโตสูงกว่า 10% YoY ทั้งกลุ่มลูกค้าเงินสดและประกันสังคม
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่ ก.ค.2560 และ WMC จะพลิกเป็นกำไรเป็นปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
เก็งกำไร TISCO
ราคาปิด 91.00 บาท
ราคาเหมาะสม 95.00 บาท
ปัจจัยหนุนทางเทคนิค ปรับตัวผ่านแนวต้านที่ 90.75 บาทได้ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 93.00 บาทได้ แนวรับ 90.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 88.50 บาท
ขึ้น XD เงินปันผลปี 2560 หุ้นละ 5.00 บาท วันที่ 27 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 5.5% และกลุ่มธนาคารมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การเริ่ม Preview งบ 1Q61 เป็นกลุ่มแรก และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต YoY
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ 1805-1820 จุด พร้อมคาดเห็นการฟื้นตัวระยะสั้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการปรับดัชนี FTSE และมีแรงขายเข้ามาผิดปกติในช่วงท้ายของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เช่น SCC, TLGF, DCC, M เป็นต้น ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติ มีแนวโน้มชะลอตัวลงเพื่อรอดูผลการประชุมเฟด ระหว่างวันที่ 20-21 มี.ค.
แม้ปัจจัยต่างประเทศ ยังมีความไม่แน่นอนทั้งประเด็นสงครามการค้า การเมืองในอิตาลี แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยกลับมีแนวโน้มเป็นบวก ล่าสุด ธปท.ส่งสัญญาณเตรียมปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปีนี้ ในการประชุม กนง. วันที่ 28 มี.ค. จากปัจจุบันคาดเศรษฐกิจไทยโต 3.9% สาเหตุหลักมาจากภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่ขยายตัวเด่นต่อเนื่อง
ภาวะที่ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้าง และขาดทิศทางที่ชัดเจน เราวางกลยุทธ์หลัก คือ การเลือกซื้อหุ้นรายตัวที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว (Selective Buy) เน้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีกว่าคาด อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TISCO), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE), โรงพยาบาล (BCH) ขณะที่กลุ่ม Global Play คือ กลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ยังมีความน่าสนใจในการเข้าเก็งกำไรเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวจากแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ $US60/bbl.
HOT Topic
1. นักลงทุนทั่วโลกรอผลการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. เราควรวางกลยุทธ์อย่างไร?
2. วันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ เพราะอะไร?
3. หุ้นปันผลเด่น เราชอบหุ้นตัวใด?
4. แบงค์ชาติมีโอกาสปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2561 ขึ้น จากปัจจุบันที่ 3.9% เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปิดที่ 1811.76 จุด ติดลบราว 4.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.6 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการปรับดัชนี FTSE ณ ราคาปิด กดดัน SET INDEX และราคาหุ้นบางตัวให้มีความผันผวนผิดปกติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1.4 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 1.8 พันสัญญา รวม 5 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมสูงถึง 1.7 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่พลิกกลับมามีสถานะ Long สุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1 พันสัญญา ส่งผล QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิคงเหลือราว 1.5 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีกราว 1.1 พันล้านบาท รวมราว 3.6 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยบริษัทเอกชนในสหรัฐฯที่ต้องการขอยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต้องใช้ระยะเวลาราว 90 วัน ในการรอคำอนุมัติ โดยนโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มี.ค. 2561
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยอาจลดเงินสนับสนุนทางการทหารให้แก่เกาหลีใต้ เพื่อกดดันให้เกาหลีใต้ยอมแก้ไขข้อตกลงทางการค้าต่อสหรัฐฯ
EU รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ขยายตัว 1.1%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ 1.2%YoY ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.1%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4 แท่นเป็น 800 แท่น
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ก.พ. แตะระดับ 102 จุด สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 99.3 จุด ทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2547
จีนเตรียมประกาศชื่อผู้ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคนใหม่ ในวันนี้
ติดตามการประชุม G20 และ WTO วันที่ 19-20 มี.ค.
ติดตามการประชุม FED วันที่ 20-21 มี.ค.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการรายงานค่า PMI ของสหรัฐและอียู วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนก.พ. วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมของอิตาลี วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาระหว่าง EU และอังกฤษ กรณี Brexit วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกไทย เดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.
จับตาการแก้ปัญหาการคลังของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) ที่มีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 23 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6650
สะสม ADVANC
ราคาปิด 212.00 บาท
ราคาเหมาะสม 250.00 บาท
สัปดาห์ที่ผ่านมา กสทช.มีมติให้ ADVANC และ TRUE แบ่งชำระค่างวดคลื่น 900MHz เป็นเวลา 5 ปี โดยจะเสนอครม.ในวันที่ 27 มี.ค.
เป็นบวกต่อกระแสเงินสดของ ADVANC ให้มีความตึงตัวลดลง และมีโอกาสที่จะจ่าย Dividend Payout Ratio ได้สูงกว่าคาดการณ์ที่ 70% ในปี 2561 จะขึ้น XD เงินปันผล 2H60 หุ้นละ 3.57 บาท วันที่ 5 เม.ย.
เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 117.00 บาท
ราคาเหมาะสม 123.00 บาท
มีปัจจัยบวกรออยู่ คือ กระทรวงพลังงานเตรียมประกาศร่าง TOR ประมูลปิโตรเลี่ยมรอบใหม่ ช่วงปลายเดือน มี.ค.,ยื่นซองประกวดราคาเดือน เม.ย. และทราบผลประมูลใน 4Q61
คาดกำไรปกติ 1Q61 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากแรงหนุนของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ปี 2561 คาดกำไรเติบโตเด่น +29.2% YoY เป็น 34,296 ล้านบาท
สะสม BCH
ราคาปิด 16.70 บาท
ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรายได้ 2 เดือนแรกใน 1Q61 เติบโตสูงกว่า 10% YoY ทั้งกลุ่มลูกค้าเงินสดและประกันสังคม
คาดกำไรสุทธิ 1Q61 เติบโต YoY จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าหัวโครงการประกันสังคมตั้งแต่ ก.ค.2560 และ WMC จะพลิกเป็นกำไรเป็นปีแรก ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 เติบโต +12.5% YoY เป็น 1,032 ล้านบาท
เก็งกำไร TISCO
ราคาปิด 91.00 บาท
ราคาเหมาะสม 95.00 บาท
ปัจจัยหนุนทางเทคนิค ปรับตัวผ่านแนวต้านที่ 90.75 บาทได้ และมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 93.00 บาทได้ แนวรับ 90.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 88.50 บาท
ขึ้น XD เงินปันผลปี 2560 หุ้นละ 5.00 บาท วันที่ 27 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 5.5% และกลุ่มธนาคารมีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การเริ่ม Preview งบ 1Q61 เป็นกลุ่มแรก และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต YoY
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ 1805-1820 จุด พร้อมคาดเห็นการฟื้นตัวระยะสั้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการปรับดัชนี FTSE และมีแรงขายเข้ามาผิดปกติในช่วงท้ายของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เช่น SCC, TLGF, DCC, M เป็นต้น ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติ มีแนวโน้มชะลอตัวลงเพื่อรอดูผลการประชุมเฟด ระหว่างวันที่ 20-21 มี.ค.
แม้ปัจจัยต่างประเทศ ยังมีความไม่แน่นอนทั้งประเด็นสงครามการค้า การเมืองในอิตาลี แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยกลับมีแนวโน้มเป็นบวก ล่าสุด ธปท.ส่งสัญญาณเตรียมปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปีนี้ ในการประชุม กนง. วันที่ 28 มี.ค. จากปัจจุบันคาดเศรษฐกิจไทยโต 3.9% สาเหตุหลักมาจากภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่ขยายตัวเด่นต่อเนื่อง
ภาวะที่ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้าง และขาดทิศทางที่ชัดเจน เราวางกลยุทธ์หลัก คือ การเลือกซื้อหุ้นรายตัวที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว (Selective Buy) เน้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตดีกว่าคาด อย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TISCO), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE), โรงพยาบาล (BCH) ขณะที่กลุ่ม Global Play คือ กลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ยังมีความน่าสนใจในการเข้าเก็งกำไรเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวจากแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ $US60/bbl.
HOT Topic
1. นักลงทุนทั่วโลกรอผลการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. เราควรวางกลยุทธ์อย่างไร?
2. วันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ เพราะอะไร?
3. หุ้นปันผลเด่น เราชอบหุ้นตัวใด?
4. แบงค์ชาติมีโอกาสปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2561 ขึ้น จากปัจจุบันที่ 3.9% เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปิดที่ 1811.76 จุด ติดลบราว 4.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 7.6 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการปรับดัชนี FTSE ณ ราคาปิด กดดัน SET INDEX และราคาหุ้นบางตัวให้มีความผันผวนผิดปกติ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1.4 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 1.8 พันสัญญา รวม 5 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมสูงถึง 1.7 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่พลิกกลับมามีสถานะ Long สุทธิวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 1 พันสัญญา ส่งผล QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิคงเหลือราว 1.5 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีกราว 1.1 พันล้านบาท รวมราว 3.6 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยบริษัทเอกชนในสหรัฐฯที่ต้องการขอยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต้องใช้ระยะเวลาราว 90 วัน ในการรอคำอนุมัติ โดยนโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้วันที่ 23 มี.ค. 2561
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยอาจลดเงินสนับสนุนทางการทหารให้แก่เกาหลีใต้ เพื่อกดดันให้เกาหลีใต้ยอมแก้ไขข้อตกลงทางการค้าต่อสหรัฐฯ
EU รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ขยายตัว 1.1%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อยที่ 1.2%YoY ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.1%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4 แท่นเป็น 800 แท่น
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ก.พ. แตะระดับ 102 จุด สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 99.3 จุด ทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2547
จีนเตรียมประกาศชื่อผู้ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคนใหม่ ในวันนี้
ติดตามการประชุม G20 และ WTO วันที่ 19-20 มี.ค.
ติดตามการประชุม FED วันที่ 20-21 มี.ค.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการรายงานค่า PMI ของสหรัฐและอียู วันที่ 22 มี.ค.
ติดตามการายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือนก.พ. วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมของอิตาลี วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการเจรจาระหว่าง EU และอังกฤษ กรณี Brexit วันที่ 23 มี.ค.
ติดตามการรายงานนำเข้า - ส่งออกไทย เดือน ก.พ. ระหว่างวันที่ 19-24 มี.ค.
จับตาการแก้ปัญหาการคลังของสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) ที่มีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 23 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6650