- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 March 2018 16:57
- Hits: 1064
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม BANPU
ราคาปิด 22.00 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
หุ้นกลุ่มถ่านหินมี Sentiment เชิงบวก หลังราคาถ่านหินล่วงหน้าปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ตลาดคืนวานนี้ เฉลี่ยเกือบ 1%
คาดราคาหุ้น BANPU จะ Outperform ตลาด หลังความเสี่ยงของคดีหงสาได้ถูกปลดล็อก และภาวะอุปทานถ่านหินตึงตัวในจีน เกิด Upside Risk โดย YTD ราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ยอยู่ที่ US$105/ตัน เทียบกับค่าเฉลี่ยของ Consensus ที่ราว US$80-85/ตัน
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.90 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง จากโอกาสที่การประมูลคลื่น 850MHz และ 1800 MHz จะถูกเลื่อนไปเป็นปี 2562 ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อ TRUE เนื่องจากมีจำนวนคลื่นในมือ ณ ปัจจุบันมากที่สุดในอุตฯ
ปัจจัยบวกรออยู่ใน 2Q61 คือการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF และคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษสูงถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะผลักดันให้ EBITDA ปี 2561 ทำระดับสูงสุดใหม่
สะสม BBL
ราคาปิด 209.00 บาท
ราคาเหมาะสม 240.00 บาท
คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 1.7 พันล้านบาทให้กับไทยทีวี ซึ่งเป็นบวกต่อ BBL เนื่องจากได้ตั้งสำรองหนี้ของไทยทีวีไปก่อนหน้าแล้ว
ดังนั้น BBL มีโอกาสกลับรายการสำรอง หรือ เก็บไว้เป็นสำรองส่วนเกิน เพื่อเพิ่ม Coverage Ratio ขณะที่ Valuation ซื้อขายที่ระดับ PBV2561 เพียง 0.9 เท่า
เก็งกำไร SCC
ราคาปิด 504.00 บาท
ราคาเหมาะสม 550.00 บาท
ปัจจัยหนุนทางเทคนิค หลังปรับตัวผ่าน 500.00 บาทได้วานนี้ และคาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 510-514 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 492.00 บาท
มี Catalyst รออยู่ คือการถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี FTSE Large Cap ซึ่งจะปรับน้ำหนักในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้กองทุนที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี FTSE เป็น Benchmark ต้องเข้าซื้อหุ้น SCC
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เรามองว่า SET INDEX จะพักตัวในวันนี้ พร้อมแรงขายทำกำไรมากขึ้นเมื่อ SET INDEX เข้าใกล้แนว 1815-1820 จุด พร้อมเกิดการหมุนเปลี่ยนกลุ่มหุ้น (Sector Rotation) สลับไปสู่กลุ่มที่ราคา Underperform ในช่วงก่อนหน้า อย่างกลุ่มธนาคาร / ICT
ปัจจัยต่างประเทศ มีแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลก จาก (1) ปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอนมากขึ้น หลังจาก รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ถูกปลดกะทันหัน อาจกระทบต่อแผนการพบกับผู้นำเกาหลีเหนือในเดือน พ.ค. และ (2) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงราว 1% ทดสอบแนว $US60/bbl. อีกครั้ง ด้วยแรงกดดันจากด้านอุปทานของ Shale Oil ในสหรัฐฯ
สหรัฐฯ รายงานอัตราเงินเฟ้อ เดือน ก.พ.เป็นไปตามตลาดคาด ทำให้ Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ ทรงตัวต่ำกว่าระดับ 2.90% เราประเมินว่า กระแสเงินทุนในตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ จะลดความหวือหวาลง เพื่อรอดูการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า (20-21 มี.ค.)
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ทยอยขายทำกำไรระยะสั้น แล้วสลับมาสะสมหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SET50 ที่ราคายังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าภาพรวมตลาด (Laggard) หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว
HOT Topic
1. ธนาคารใดได้ประโยชน์ หลังจาก วานนี้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้คืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 1.7 พันล้านบาทให้กับไทยทีวี
2. เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. +2.2% YoY ออกมาตามคาด เรามองอย่างไรต่อการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า
3. ปัจจัยการเมืองของสหรัฐฯ จะกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างไร หลังทรัมป์ปลดรัฐมนตรีต่างประเทศ
4. หุ้น Laggard ที่ได้ประโยชน์จากการปรับน้ำหนักของ FTSE ในวันศุกร์นี้ เราชอบหุ้นตัวใด?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปิดที่ 1809.90 จุด เพิ่มขึ้น 9.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 7.2 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big Lot หุ้น BEAUTY มูลค่า 2.6 พันล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยราว 342 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ราว 1.4 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิสะสม 6.9 พันล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.8 พันสัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Long สุทธิทั้งสิ้น 7.7 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.5 พันสัญญา รวม 2 วันมีสถานะ Long สุทธิทั้งสิ้น 5.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.4 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศและบัญชี บล.มีสถานะ Long สุทธิ 2.3 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 4.5 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ขยายตัว 2.2% YoY และ 0.2% MoM ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.8%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาด
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลดรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากเกิดความขัดแย้งด้านนโยบายต่างประเทศหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเตรียมเสนอร่างกฎหมายคว่ำมาตรการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม
API เผยปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.16 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 2.02 ล้านบาร์เรล
EIA เผยคาดการณ์ปริมาณการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ จะขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 6.95 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน เม.ย.2561
OECD ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกปี 2561 และ 2562 ขึ้นเป็น 3.9% ทั้ง 2 ปี และนับเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 และคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปี 2561
ธปท. เผยนโยบายการค้าระหว่างประเทศเป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 70% ของ GDP ไทย
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันธนาคารมูลค่า 1.7 พันล้านบาท ให้แก่บริษัทไทยทีวี
ครม.มีมติเห็นชอบหลักการ พ.ร.ก. กำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
คณะกรรมการ KCE มีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จาก 1 บาท เป็น 0.5 บาท
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU เดือน ก.พ. คาดขยายตัว 1.2%YoY วันที่ 16 มี.ค.
ติดตามการปรับน้ำหนักของดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันที่ 16 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6434
