- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 September 2014 16:31
- Hits: 2232
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET ทำจุดสูงสุดใหม่...มีแนวโน้มทดสอบเป้าหมายหลักที่ 1,600 จุด: SET ปรับสูงขึ้นทำลายแนวต้านที่ 1,570 ตั้งแต่เปิดตลาด และปิดตลาดที่ 1,583.27 จุด +0.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน รับเหมาฯ และ AOT นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,895 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์ มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้านหลักบริเวณ 1,600 จุด ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) เศรษฐกิจฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q14 และคาดการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาล 2) กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็น 14% ปีหน้า และคาดว่าจะเห็น Upward Revision กำไร และเป้าหมายพื้นฐานช่วงนี้ 3) การพิจารณา ยกเลิก/ผ่อนคลาย กฎอัยการศึก เป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และกระแสเงินทุนไหลเข้า
“ซื้อ” กลุ่มธนาคาร รับเหมาฯ ท่องเที่ยว: ด้วย Valuation ในเชิง PE2015 กลุ่มธนาคารที่ต่ำ 10.4x (SET = 14x) และกำไรเติบโต 17% (SET = +14%) ทำให้เราแนะนำ “ซื้อ” KBANK, BBL, KTB ต่อเนื่อง รวมไปถึงกลุ่มรับเหมาฯ ที่ได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐฯอย่าง CK STEC และ “เก็งกำไร” รวมไปถึงกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT ERW CENTEL
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI และ STEC เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio
AOT…“ซื้อ” เป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 260-280 บาท: การ “พักฐาน” ของ AOT (เลือก AOT เป็นหุ้นในรายงาน Trigger Five วันที่ 1 ก.ย.) ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 260-280 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และจากนโยบายยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA นักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า 2) สถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ และโอกาสในการยกเลิกกฎอัยการศึก จะเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วง 4Q14 3) การเปิดสนามบินดอนเมืองระยะที่ 2 เพิ่มความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เน้นการเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาแม้นักท่องเที่ยวผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ -24% y-y ในเดือน มิ.ย. แต่นักท่องเที่ยวผ่านดอนเมืองยัง +18% y-y และ 4) การลดงบประมาณลงทุนสุวรรณภูมิ Phase 2 เป็นปัจจัยบวกต่อ Valuation
Technical
แนวโน้มตลาดขึ้นแข็งแกร่ง : ดัชนี SET สามารถทะลุผ่าน 1570-1572 จุดขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่เป็นจังหวะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น คาดว่าดัชนี SET จะมีทดสอบบริเวณกรอบแนวต้านเป้าหมาย 1600 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1575-1592 จุด และปรับแนวรับย่อยมาอยู่ที่ 1570 จุด เป็นจุดตัดขายเพื่อรักษากำไรระยะสั้น
หุ้นที่แนะนำซื้อ : EE ฟื้นตัวขึ้นมาจากต่ำสุด 1.00 บาท ทะลุผ่าน 1.15 บาท เป็นโอกาสซื้อหุ้นเพิ่ม คาดว่าราคาจะมีแนวโน้มขึ้นต่อไปสู่เป้าหมาย 1.24-1.25 บาท TPOLY สิ้นสุดการพักตัว 2 เดือน ราคาขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือนทะลุแนวต้าน 3.20 บาท เป็นสัญญาณซื้อตาม มีเป้าหมายยอดเดิม 3.60 บาท BANPU ทะลุผ่าน 34.00 บาท ทำลายยอดเดิมปีก่อน เป็นสัญญาณบวก คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 35.50 บาท มีเป้าหมายสำคัญ 37.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,060 จุด และถัดไปที่ 1,072 จุด ขณะที่แนะนำให้เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่ 1,046 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFV14 โดยคงเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,250 บาท หรือถัดไปที่ 18,600 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,500 บาท
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 3240-3330 บาท สำหรับสัญญา BRU14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน แม้ราคาน้ำมันดิบ Brent จะปรับลดลงแต่ยังไม่ทำให้สถานะ Short กลับมาได้เปรียบในช่วงนี้
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล