- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 September 2014 15:46
- Hits: 2160
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sell into Strength
ประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดยืนเหนือ 1,580 จุด มาอยู่ที่ 1,583.27 จุด บวกเป็นวันที่ 4 อีก 4.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 51,223 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 มากถึง 1,895 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 7,087 สัญญา และกลับมาซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 1,142 ล้านบาท
หลัง SET INDEX ขยับขึ้นสู่กรอบเป้าหมาย 1,580-1,600 จุด ตามเป้าหมายที่ MBKET วางไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งเป็นการเก็งกำไรต่อการประชุม ECB ในเย็นนี้ นักลงทุนทั่วโลกต่างคาดเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ที่ใกล้เคียงกับ QE ของ เฟด ดังนั้น
•หาก ECB ตัดสินใจเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามที่ตลาดคาด MBKET เชื่อว่าจะเกิด Sell on Fact นำโดยตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ ในคืนนี้
•หาก ECB ตัดสินใจคงนโยบายการเงิน เพื่อรอประเมินตัวเลขเศรษฐกิจ และผลของโครงการ TLTRO อีกระยะหนึ่ง กลายเป็นจุดที่สร้างความผิดหวังกับนักลงทุนทั่วโลก นำไปสู่การปรับฐานของตลาดหุ้นในยุโรป และ สหรัฐฯ คืนนี้เช่นกัน
ดังนั้นไม่ว่า ECB จะตัดสินใจอย่างไรในค่ำนี้ ตลาดหุ้นโดยรวมมีแนวโน้มปรับฐาน แต่จะปรับลงแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับผลขอการประชุมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยอาจมี Downside risk ที่จำกัด แนวรับบริเวณ 1,550-1,560 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง จากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยหลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus ในวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
MBKET ยังคงให้น้ำหนักกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เก็งกำไรต่อแผนกระตุ้นของครม.ที่เตรียมเข้าทำงานประจำกระทรวงในปลายสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุนโดยรวม MBKET แนะนำให้นักลงทุน ทยอยขายทำกำไร และกลับมาถือเงินสดมากยิ่งขึ้น หากต้องการเก็งกำไรหุ้นช่วงสั้น อาจต้องจำกัดวงเงินมากยิ่งขึ้น เพราะ Upside gain ของ SET INDEX เริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” AAV
Portfolio Top Pick in 3Q14: AAV /AP/ IFEC
HOLD: SPALI/ SAMART/ SPCG/ BLAND/ IFEC/ BTS/ SIM/ MACO/ CK
Speculative buy: AAV
Action and Stock of the Day
SET INDEX ทะลุ 1,580 จุด
SET INDEX วันนี้ คาดแกว่งในกรอบแคบ รอผลการประชุม ECB เย็นนี้ ซึ่งประเมินผลการประชุม ไม่ว่าจะออก หรือ ไม่ออก มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม โอกาสเกิดตลาดหุ้นทั่วโลก ปรับฐานก็มีความเป็นไปได้มาก
ดังนั้นกลยุทธ์ ทยอยขายทำกำไรและถือเงินสดมากยิ่งขึ้น หากต้องการเก็งกำไร อาจต้องจำกัดวงเงินมากขึ้น
ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ปิดบวกเด่นเป็นวันที่ 3 นำโดย HSKI ที่ปิด +2.18% หลังตัวเลข HSBC PMI ภาคบริการของจีนออกมาดีกว่าคาด
สำหรับตลาดหุ้นไทย ขยับในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในเอเชีย เปิดทะลุ 1,570 จุด และ 1,580 จุด ตามลำดับ ผลักดันโดยหุ้นกลุ่ม PTT นำโดย PTT หลังราคาปรับฐานลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Valuation ต่ำจนน่าสนใจ บวกกับหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร ขยับดีต่อเนื่อง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,583.27 จุด บวกเป็นวันที่ 4 อีก 14.67 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้น เป็น 51,223 ล้านบาท
กลุ่มที่ปิดบวกมากที่สุดในวานนี้ได้แก่ กลุ่ม IMM +3.35%, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง +2.87% และกลุ่มปิโตรเคมี +2.06% ขณะที่กลุ่มหลัก กลุ่มธนาคาร +0.92% กลุ่มพลังงาน +1.36% และ กลุ่ม ICT +0.63%
ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้
ตลาดหุ้นเอเชีย (7.34 น.) เช้านี้ Nikkei เปิดลบเพียงเล็กน้อย ส่วน Kospi เปิดบวก เนื่องจาก DJIA ปิดบวกเพียงเล็กน้อย และนักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูผลการประชุม ECB ในเย็นนี้
MBKET คงมุมมองต่อการลงทุน “กลาง” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลัง SET INDEX ขยับขึ้นสู่กรอบเป้าหมายที่ MBKET ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ 1,580-1,600 จุด ณ ปัจจุบัน Upside gain เริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้น Valuation ของหุ้นหลักในตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Valuation ที่ตึงตัวมากยิ่งขึ้น ทำให้แนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยความผันผวนที่สูงขึ้น รวมถึงปัจจัยเฉพาะของตลาดหุ้นไทยที่สร้างความผันผวน ได้แก่
•Valuation ของ SET INDEX ณ ปัจจุบัน ซื้อขาย PER15 เท่ากับ 13.82x เทียบกับ 1SD ของ 2Yr Forward PER ตลอด 1 ปีของตลาดหุ้นไทยเท่ากับ 12.95x หรืออาจกล่าวได้ว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย Valuation ตึงตัวมากยิ่งขึ้น
•แรงขายจากกองทุน Trigger Funds เริ่มมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น 3-4 กองทุน NAV เริ่มเข้าใกล้ระดับเป้าหมายมากยิ่งขึ้น อาจเกิดแรงขายจากกองทุนดังกล่าวในช่วงสั้นนี้
ขณะที่การประชุม ECB ในเย็นวันนี้ เป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกขยับขึ้นตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเก็งกำไรต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม MBKET ประเมินประเด็นดังกล่าวต่อตลาดหุ้นยุโรป / สหรัฐฯ คืนนี้ และ ตลาดหุ้นเอเชีย ในวันพรุ่งนี้เช้าดังนี้
•หาก ECB ตัดสินใจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาจคล้ายกับโครงการ QE ที่เฟดใช้มาก่อนหน้านี้ ตามที่นักลงทุนทั่วโลกเก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ ดังนั้น หากผลการประชุมออกมาตามคาด เชื่อว่าจะเกิด Sell on Fact และทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกย่อตัวลงราว 1%+/-
•แต่หาก ECB ตัดสินใจ ชะลอการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยขอดูผลการใช้โครงการ TLTRO ที่ประกาศใช้ในการประชุมครั้งก่อน MBKET เชื่อว่า หากออกมาในทางเลือกนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนทั่วโลก และอาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงราว 2-3% และค่าเงินยูโร กับมาแข็งค่า เทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐฯ
ดังนั้น ทั้งปัจจัยภายในประเทศ และการประชุม ECB ในเย็นวันนี้ MBKET แนะนำว่า นักลงทุน ควรพิจารณาขายทำกำไร และถือเงินสดมากยิ่งขึ้นในวันนี้ หากต้องการเก็งกำไร ควรจำกัดวงเงิน มากยิ่งขึ้น เพราะ Upside gain ของตลาดหุ้นไทย เริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้น ด่านสำคัญ 1,590-1,600 จุด เชื่อว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการสร้างฐาน เพื่อไต่ระดับขึ้นทดสอบ และทะลุแนวดังกล่าว
สำหรับพัฒนาการทางการเมืองภายในประเทศ ที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ระยะที่ 2 ของคสช.นั้น ยังคงจำเป็นต้องติดตามต่อเนื่อง ดังนี้
oตารางเวลาด้านรัฐบาล
วันที่ 25 ส.ค. โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันที่ 30 ส.ค. นายกฯ พล.เอก ประยุทธ์ นำเสนอชื่อ คณะรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯ
คาดวันที่ 2-4 ก.ย. นายกฯ และ ครม. เข้าถวายสัตย์ ปฎิญาณ ก่อนเริ่มบริหารประเทศ
คาดสัปดาห์หน้า นายกฯ จะแถลงนโยบายบริหารประเทศ ต่อ สนช.
และครึ่งเดือนหลังของเดือนก.ย. นายกฯ แถลงร่างงบประมาณปี 2558 เพื่อขออนุมัติ จากทางสนช.
กรอบเวลาดังกล่าว สอดคล้องกับ กรอบเวลาที่ คสช. เคยชี้แจงไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทันต่อการเริ่มใช้งบประมาณประจำปี 2558 ในวันที่ 1 ต.ค. 2557
oร่างงบประมาณปี 2558 ได้ผ่านวาระที่ 1 วานนี้ ขั้นตอนถัดไปตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณา และนำเสนอต่อสนช. เพื่อพิจารณาวาระที่ 2-3 ตามลำดับ วันที่ 17-18 ก.ย. คาดว่าจะสามารถนำงบประมาณปี 2558 ใช้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้
oการยกเลิกกฎอัยการศึก ตลาดคาด นายกฯ จะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก เป็นบางพื้นที่ในช่วงแรก เช่นเดียวกับการยกเลิกเคอร์ฟิวในช่วงก่อนหน้านี้ พื้นที่การท่องเที่ยวน่าจะเป็นเป้าหมายแรกของการพิจารณายกเลิก
oแผน Roadmap ที่สำคัญด้านเศรษฐกิจ
แผนการลงทุน 2.4 ล้านล้านบาทคาดว่าจะเสนอต่อรมว. คมนาคมในวันที่ 4 ก.ย.
แผนปฎิรูปพลังงาน
ปัจจัยสำคัญวันนี้
1.ติดตามการพิจารณาแผนงานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญจากนี้ไป
•แผนการลงทุนด้านคมนาคม ในงบประมาณปี 2558 และแผนการลงทุน 8 ปี ของกระทรวงคมนาคม คาดว่า รมว. คมนาคม จะเข้ากระทรวง เพื่อพิจารณาดังกล่าวในวันที่ 4 ก.ย.
•มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
i.ข้อเสนอการลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ในปี 2557 มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อนำเสนอคือ รมว. กระทรวงการคลังในวันที่ 5 ก.ย.
ii.การยกเลิกกฎอัยการศึก ในบางพื้นที่ ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศในเย็นวันที่ 5 ก.ย. นี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
iii.คสช.เร่งรัดจัดตั้งกองทุนประกันภัยการท่องเที่ยว วงเงิน 200 ล้านบาท เพราะประเทศที่ใช้กฎอัยการศึก บริษัทประกันภัยจะไม่รับประกันการท่องเที่ยว หากมีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว จะเป็นบวกต่อภาคการท่องเที่ยว
MBKET มีความเห็นเป็นบวกต่อพัฒนาการดังกล่าว และจะส่งผลบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง / กลุ่มธนาคาร ในประเด็นแรก ส่วนประเด็นที่ 2 นั้น กลุ่มโรงแรมจะได้รับประโยชน์ทางตรง ขณะที่กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ จะได้ประโยชน์ทางอ้อม หุ้น Top Pick ได้แก่ CK / KTB / ERW / AAV
2.ติดตามการประชุมธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก ไฮไลท์อยู่ที่ ECB
•BoJ : Bloomberg consensus คาด BoJ จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.10% และเป้าหมายปริมาณเงินเช่นเดิม
•BoE: Bloomberg consensus คาด BoE จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เช่นเดิม แม้ว่าการประชุมครั้งก่อน สมาชิกบางท่านเริ่มต้องการให้ BoE ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วก็ตาม
•ECB: Bloomberg consensus และตลาดต่างคาดการณ์ ECB จะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB เช่นเดิม แต่อาจมีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องทางการเงินส่วนเกินเพิ่มเติม จากโครงการ TLTRO ที่ประกาศไปในการประชุมครั้งก่อนหน้า
3.สถานการณ์ในยูเครน ทรงตัว: หลัง ผู้นำ รัสเซีย – ยูเครน บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการหยุดยิง เพื่อรอดูผลการเลือกตั้งในยูเครน เดือนพ.ย. ส่งผลบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในอียู และ รัสเซีย เพราะแรงกดดันด้านมาตรการคว่ำบาตรของทั้ง 2 จะคลายตัวลงชั่วคราว
4.คืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
•ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน Bloomberg consensus คาด จ้างงานเพิ่มขึ้น 2.23 แสนตำแหน่ง จากเดือนก่อนหน้าที่จ้างเพิ่มขึ้น 2.18 แสนตำแหน่ง
วานนี้ วันก่อนหน้า
PER14 PER15 PER14 PER15
SET INDEX 16.06 13.82 15.88 13.70
PSE 20.53 17.73 20.04 17.33
JSE 16.93 14.44 16.86 14.38
KOSPI 10.49 9.13 10.45 9.10
TAIEX 15.06 14.12 15.00 14.02
Straits Time 14.77 13.61 14.67 13.53
SHCOMP 9.08 8.03 8.98 7.94
ที่มา: Bloomberg
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ได้แก่
1.AAV : ราคาปิด 4.82 บาท ราคาเหมาะสม 5.20 บาท
a)ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวก จากแรงเก็งกำไรการยกเลิกกฎอัยการศึกใน 22 จังหวัดท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะเสนอให้คสช.พิจารณาในวันศุกร์นี้
b)และกระทรวงการคลังเตรียมพิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมในวันศุกร์นี้เช่นกัน โดยคาดว่าจะให้นำใบเสร็จค่าใช้จ่ายค่าซื้อแพ็คเกจทัวร์ หรือ ค่าใช้จ่ายห้องพักโรงแรม มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท ต่อคนต่อปี
c)ดังนั้น เราคาดว่าหากกระทรวงการคลังอนุมัติมาตรการดังกล่าว จะเป็นบวกต่อรายได้ของสายการบินประเภท Low Cost Airline เนื่องจากจะส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีที่เข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยว
d)และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง -9.3% QTD ใน 3Q57 เหลือ US$95.54/barrel จะส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักของสายการบินลดลง
e)คาดจะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการในลักษณะ V Shaped ตั้งแต่ 3Q57 เป็นต้นไป และกำไรสุทธิปี 2558 คาดว่าจะเติบโต +240% yoy เป็น 1,671 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มสายการบิน และราคาหุ้นซื้อขายระดับ PBV 2558 เพียง 0.88 เท่า
What will DJIA move tonight? คืนนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ รายงานการจ้างงานภาคเอกชน
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
เงินทุนต่างชาติวานนี้กลับมาซื้อสุทธิ US$504 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$17 ล้าน
ตลาดหุ้น วานนี้(US$ ล้าน) วันก่อนหน้า(US$ ล้าน) YTD(US$ ล้าน) 2556(US$ ล้าน)
TAIEX 248.8 -10.7 13,502.0 9,188.0
KOSPI 141.5 n.a 8,923.0 4,875.1
JSE 40.5 -19.7 4,874.7 -1,806.4
PSE 14.2 -13.0 1,304.3 678.4
ตลาดหุ้นเวียดนาม 1.6 Closed 264.3 263.2
SET INDEX 59.0 26.5 -612.6 -6,210.5
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติหนาแน่นมากขึ้น
วานนี้ วันก่อนหน้า
ตลาดหุ้น (ล้านบาท) +1,895 +846
SET50 Index Futures (สัญญา) +7,087 +44
SSF (สัญญา) +972 -518
Metal Futures (สัญญา) -983 -204
ตลาดตราสารหนี้ (ล้านบาท) +1,142 -1,823
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 1,895 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,246 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ ขายสุทธิลดลงเหลือ 21,476 ล้านบาท กระแสเงินทุนต่างชาติในช่วงนี้ น่าจะเป็นผลจากการเสร็จสิ้นงาน Thailand Focus ในวันที่ 29 ส.ค.
ด้านนักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 7,087 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 7,131 สัญญา แม้ว่า S50U14 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือเพียง 1.93 จุดจากวันก่อนหน้า Discount 2.55 จุด
Metal Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 มากถึง 983 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 1,962 สัญญา เมื่อราคาทองคำในตลาดโลกปรับฐานลงหลุดแนว US$1,270-1,280 ในคืนวันก่อนหน้า
และ ตลาดตราสารหนี้ไทย นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1,142 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะยาว ลดลงอย่างต่อเนื่อง อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 มากถึง 1.43bps ปิดที่ 3.591%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 436 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 678 ล้านบาท
Stock Total Value(mn Bt) % of trading Volume Avg.Price(Bt)
KBANK 62.33 7.76% 227.65
SCB 29.84 3.04% 193.00
SCC 28.70 7.02% 437.46
AOT 22.60 2.16% 239.96
TTA 21.88 3.09% 23.70
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 เน้นกลุ่มธนาคาร และพลังงานต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR วานนี้ซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 2,078 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,478 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 8,302 ล้านบาท โดยกลุ่มพลังงานยังคงเป็นเป้าหมายการสะสมต่อเนื่อง และน่าจะเป็นตัวแปรผลักดัน SET INDEX วานนี้ สรุปภาพการลงทุน NVDR ได้ดังนี้
1.กลุ่มธนาคาร ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 578 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 654 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงานซื้อสุทธิ 319 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 261 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 274 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 114 ล้านบาท กลุ่มอาหาร ซื้อสุทธิ 251 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 179 ล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 234 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 221 ล้านบาท กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 212 ล้านบาท และ กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 163 ล้านบาท
2.ด้านกลุ่มเกษตร ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 83 ล้านบาท
ซื้อสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการซื้อขาย ขายสุทธิสูงสุด มูลค่าสุทธิ(ล้านบาท) % มูลค่าการขาย
CPF 288.80 19.53 GFPT -83.93 23.20
KBANK 243.07 34.59 DEMCO -73.78 3.96
PTT 222.71 9.33 TUF -58.79 13.97
PTTGC 220.04 16.99 TPIPL -44.98 2.50
AOT 195.17 11.58 BLA -31.13 18.55
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong