- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 08 March 2018 17:17
- Hits: 1394
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม BANPU
ราคาปิด 21.20 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
วานนี้ราคาปรับตัวลง -7.4% จากความกังวลที่รัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎหมายควบคุมราคาถ่านหินที่จำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศ เพื่อลดผลขาดทุนของโรงไฟฟ้าที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
เรามองว่าราคาหุ้นลงมากเกินไป เนื่องจาก BANPU มียอดขายถ่านหินในอินโดนีเซียเพียง 6% และจำหน่ายให้โรงไฟฟ้าในอินโดนีเซียเพียงเล็กน้อย ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงเป็นโอกาสในการสะสม
สะสม BJC
ราคาปิด 58.00 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นค้าปลีกจะตอบรับเชิงบวก วันนี้จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ. เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
อีกทั้งกำไรปกติปี 2561 เราคาดเติบโตสูงถึง +29% YoY เป็น 6.7 พันล้านบาท ขยายตัวสูงสุดใน Coverage หุ้นกลุ่มค้าปลีกของเรา
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.45 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
Sentiment เชิงบวก วานนี้ NVDR ซื้อสุทธิ TRUE สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 179 ล้านบาท และผลประกอบการ 4Q60 ออกมาในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นบวก โดย EBITDA ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9.0 พันลบ.
TRUE ได้ประโยชน์ทางตรงหากเลื่อนประมูลคลื่น 850MHz ไปเป็นปี 2562 ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดมีโอกาสทิ้งห่าง DTAC มากขึ้น และปี 2561 คาดกำไรสุทธิสูงถึง 2.6 หมื่นลบ. จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF
เก็งกำไร KKP
ราคาปิด 76.50 บาท
ราคาเหมาะสม 80.00 บาท
ทางเทคนิคคาดราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวน์หลังปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 76.00 บาท โดยคาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นสู่ 78.00 บาท
ขึ้น XD เงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 3.00 บาท ในวันที่ 5 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 3.9% ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
คาดว่า SET INDEX จะทรงตัวได้ดีขึ้น หลังจากปรับตัวลงมา 6 วันติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการขายทำกำไร (Sell on Fact) หลังเสร็จสิ้นการประกาศงบการเงิน ทำให้ SET INDEX ลงมาใกล้แนวรับใหญ่บริเวณ 1760-1765 จุด (ต่ำสุดที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 6 และ 9 ก.พ.) เทียบเท่า PER'61 ราว 16 เท่า เราเชื่อว่า Downside Risk เริ่มจำกัดมากขึ้น
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX วานนี้จะลงแรงถึง 2.3% เมื่อสหรัฐฯ รายงานสต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น อาจกดดันต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอยู่บ้างในวันนี้ แต่เป็นไปอย่างจำกัด เพราะกลุ่มพลังงาน -3.44% และกลุ่มปิโตรเคมี -4.89% ตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมาแล้ว
วันนี้ ติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ คือ สนช. กำหนดลงมติร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. หากโหวตผ่าน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อกรอบเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเอื้อให้ SET INDEX ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำให้เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว (Selective Buy) เน้นกลุ่มการบริโภคภายในประเทศ ได้แก่ ค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TMB), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE) หรือหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นพลังงาน/ ปิโตรเคมี ซึ่งราคาหุ้นพักฐานลงมา (PTT/ PTTEP/ PTTGC/ IRPC/ BANPU)
HOT Topic
1. สนช. เตรียมลงมติกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งสส. และการได้มาซึ่งสว. วันนี้
2. ติดตามความคืบหน้าภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ
3. ประเด็นเด่นหุ้นรายตัวของ BANPU และ PTTEP
4. เรามองอย่างไรต่อการประชุม ECB ในวันนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับฐานลงแรงถึง 17.42 จุด ปิดที่ 1781.64 จุด ถูกกดดันจากหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ นำโดย PTT (-2.17%), PTTGC (-4.44%) และ PTTEP (-1.76%) กดดันตลาดราว 6 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ทรงตัวระดับสูง 7.2 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big Lot หุ้น TPIPL มูลค่าราว 2 พันล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 1.81 บาท/หุ้น) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1.2 พันล้านบาท และ 1.8 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.9 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 393 สัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิทั้งสิ้น 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 3 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิกว่า 1.9 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 5 วันทำการ ราว 2.5 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยอาจยกเว้นการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมให้กับสมาชิก NAFTA (MEXICO+CANADA) คาดประกาศรายละเอียดภายในวันศุกร์นี้
เฟด เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Beige Book) ระบุอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ อยู่ในภาวะตึงตัว
กสทช. มีมติให้ชะลอการประมูลการติดตั้งโครงการเน็ตประชารัฐ
ตลท. เตรียมใช้เครื่องหมาย "C" หรือ Caution ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากฐานะการเงินอ่อนแอลง
EU รายงาน GDP 4Q60 ขยายตัว 2.7%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
ญี่ปุ่นรายงาน GDP 4Q60 ขยายตัว 1.6%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1%YoY
EIA รายงานสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
ติดตามการเตรียมลงมติร่างกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ สนช. และ การเตรียมเสนอเกณฑ์การกำกับดูแลการระดมทุนด้วยเหรียญดิจิตอลหรือ ICO แก่บุคคลทั่วไป และเสนอให้ ICO เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ ของ ก.ล.ต. วันที่ 8 มี.ค.
ติดตามการรายงานการนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน ก.พ. คาดส่งออกขยายตัว 11%YoY และนำเข้าขยายตัว 8%YoY และการประชุม ECB วันที่ 8 มี.ค.
ติดตามการประชุม BOJ, เงินเฟ้อจีน เดือน ก.พ. ตลาดคาดขยายตัว 2.4%YoY และภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ วันที่ 9 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6199
สะสม BANPU
ราคาปิด 21.20 บาท
ราคาเหมาะสม 32.00 บาท
วานนี้ราคาปรับตัวลง -7.4% จากความกังวลที่รัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎหมายควบคุมราคาถ่านหินที่จำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าในประเทศ เพื่อลดผลขาดทุนของโรงไฟฟ้าที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
เรามองว่าราคาหุ้นลงมากเกินไป เนื่องจาก BANPU มียอดขายถ่านหินในอินโดนีเซียเพียง 6% และจำหน่ายให้โรงไฟฟ้าในอินโดนีเซียเพียงเล็กน้อย ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงเป็นโอกาสในการสะสม
สะสม BJC
ราคาปิด 58.00 บาท
ราคาเหมาะสม 72.00 บาท
คาดหุ้นค้าปลีกจะตอบรับเชิงบวก วันนี้จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.พ. เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
อีกทั้งกำไรปกติปี 2561 เราคาดเติบโตสูงถึง +29% YoY เป็น 6.7 พันล้านบาท ขยายตัวสูงสุดใน Coverage หุ้นกลุ่มค้าปลีกของเรา
เก็งกำไร TRUE
ราคาปิด 6.45 บาท
ราคาเหมาะสม 8.35 บาท
Sentiment เชิงบวก วานนี้ NVDR ซื้อสุทธิ TRUE สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 179 ล้านบาท และผลประกอบการ 4Q60 ออกมาในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นบวก โดย EBITDA ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9.0 พันลบ.
TRUE ได้ประโยชน์ทางตรงหากเลื่อนประมูลคลื่น 850MHz ไปเป็นปี 2562 ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดมีโอกาสทิ้งห่าง DTAC มากขึ้น และปี 2561 คาดกำไรสุทธิสูงถึง 2.6 หมื่นลบ. จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF
เก็งกำไร KKP
ราคาปิด 76.50 บาท
ราคาเหมาะสม 80.00 บาท
ทางเทคนิคคาดราคาหุ้นมีโอกาสรีบาวน์หลังปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 76.00 บาท โดยคาดว่ามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นสู่ 78.00 บาท
ขึ้น XD เงินปันผลงวด 2H60 หุ้นละ 3.00 บาท ในวันที่ 5 พ.ค. คิดเป็น Dividend Yield 3.9% ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี
Profit - Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
คาดว่า SET INDEX จะทรงตัวได้ดีขึ้น หลังจากปรับตัวลงมา 6 วันติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการขายทำกำไร (Sell on Fact) หลังเสร็จสิ้นการประกาศงบการเงิน ทำให้ SET INDEX ลงมาใกล้แนวรับใหญ่บริเวณ 1760-1765 จุด (ต่ำสุดที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 6 และ 9 ก.พ.) เทียบเท่า PER'61 ราว 16 เท่า เราเชื่อว่า Downside Risk เริ่มจำกัดมากขึ้น
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX วานนี้จะลงแรงถึง 2.3% เมื่อสหรัฐฯ รายงานสต๊อคน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น อาจกดดันต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอยู่บ้างในวันนี้ แต่เป็นไปอย่างจำกัด เพราะกลุ่มพลังงาน -3.44% และกลุ่มปิโตรเคมี -4.89% ตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมาแล้ว
วันนี้ ติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ คือ สนช. กำหนดลงมติร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. หากโหวตผ่าน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อกรอบเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะเอื้อให้ SET INDEX ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำให้เลือกเก็งกำไรหุ้นรายตัว (Selective Buy) เน้นกลุ่มการบริโภคภายในประเทศ ได้แก่ ค้าปลีก (BJC/ CPALL), ธนาคาร (KBANK/ TMB), สื่อสาร (ADVANC/ TRUE) หรือหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นพลังงาน/ ปิโตรเคมี ซึ่งราคาหุ้นพักฐานลงมา (PTT/ PTTEP/ PTTGC/ IRPC/ BANPU)
HOT Topic
1. สนช. เตรียมลงมติกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งสส. และการได้มาซึ่งสว. วันนี้
2. ติดตามความคืบหน้าภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ
3. ประเด็นเด่นหุ้นรายตัวของ BANPU และ PTTEP
4. เรามองอย่างไรต่อการประชุม ECB ในวันนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับฐานลงแรงถึง 17.42 จุด ปิดที่ 1781.64 จุด ถูกกดดันจากหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ นำโดย PTT (-2.17%), PTTGC (-4.44%) และ PTTEP (-1.76%) กดดันตลาดราว 6 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ทรงตัวระดับสูง 7.2 หมื่นล้านบาท โดยมีรายการ Big Lot หุ้น TPIPL มูลค่าราว 2 พันล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 1.81 บาท/หุ้น) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1.2 พันล้านบาท และ 1.8 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.9 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 393 สัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิทั้งสิ้น 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 3 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิกว่า 1.9 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวันแรกในรอบ 5 วันทำการ ราว 2.5 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยอาจยกเว้นการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมให้กับสมาชิก NAFTA (MEXICO+CANADA) คาดประกาศรายละเอียดภายในวันศุกร์นี้
เฟด เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Beige Book) ระบุอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ อยู่ในภาวะตึงตัว
กสทช. มีมติให้ชะลอการประมูลการติดตั้งโครงการเน็ตประชารัฐ
ตลท. เตรียมใช้เครื่องหมาย "C" หรือ Caution ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากฐานะการเงินอ่อนแอลง
EU รายงาน GDP 4Q60 ขยายตัว 2.7%YoY เท่ากับคาดการณ์ของตลาด
ญี่ปุ่นรายงาน GDP 4Q60 ขยายตัว 1.6%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1%YoY
EIA รายงานสต๊อคน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
ติดตามการเตรียมลงมติร่างกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ สนช. และ การเตรียมเสนอเกณฑ์การกำกับดูแลการระดมทุนด้วยเหรียญดิจิตอลหรือ ICO แก่บุคคลทั่วไป และเสนอให้ ICO เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ ของ ก.ล.ต. วันที่ 8 มี.ค.
ติดตามการรายงานการนำเข้า-ส่งออกจีน เดือน ก.พ. คาดส่งออกขยายตัว 11%YoY และนำเข้าขยายตัว 8%YoY และการประชุม ECB วันที่ 8 มี.ค.
ติดตามการประชุม BOJ, เงินเฟ้อจีน เดือน ก.พ. ตลาดคาดขยายตัว 2.4%YoY และภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ วันที่ 9 มี.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO6199