- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 07 March 2018 17:48
- Hits: 1326
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
"มีแรงขายหลังปิดงบ-เริ่มขึ้น XD"
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ตาม ดัชนี Dow Jones Futures หลังนายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวประกาศลาออก โดยปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม และเราเริ่มเห็นแรงขายหุ้นขนาดใหญ่หลายๆกลุ่มของไทยวานนี้อีกด้วย ประเมินว่ามาจากความเสี่ยงของตลาดที่มากขึ้น และการส่งงบที่สิ้นสุดลง รวมถึงหุ้นทยอยขึ้น "XD" กันแล้ว .... ปัจจัยต่างประเทศ คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือน .... ปัจจัยในประเทศ กกร. คงคาดการณ์ GDP ปี 61 โต 3.8-4.5%, ครม. เห็นชอบจัดสรรงบกลางปี 61 เพิ่มเติมอีก 5,186 ลบ.ให้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ …. วันนี้ติดตามการประกาศ GDP ไตรมาส 4 ยุโรป
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดมีโอกาสปรับตัวลง แนะนำให้นักลงทุนทยอยลดพอร์ทลง หากจะเล่นเก็งกำไร แนะนำเป็นเพียงการเก็งกำไรในระหว่างวันเท่านั้น หุ้นที่แนะนำให้เก็งกำไรในช่วงสั้น ได้แก่กลุ่มที่ได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว หรือกลุ่มที่อิง domestic, เก็งการประกาศรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคในช่วงพรุ่งนี้ play หรือกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว …. โดยหุ้นที่ติด most active และคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจได้แก่ BANPU*, BJC, ADVANC*
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ : VGI
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : THREL UV ASAP
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) BANPU* : (ราคาปิด 22.90 บาท)
เรามองว่าการปรับตัวลงช่วงวานนี้ของ BANPU เป็นเพียงการ sell on fact ในช่วงสั้นเท่านั้น และเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ ค่าปรับที่รวมดอกเบี้ย ประมาณ 2.69 พันลบ. เรามองผลกระทบต่อ BANPU ไม่ถือว่ามีนัยยะมากนัก และต่ำกว่าศาลชั้นต้น ที่พิพากษาให้ BANPU จ่ายเงินทั้งสิ้น 3.17 หมื่นลบ. รามองเป้าหมายระยะสั้น ในเชิงกลยุทธ์ ของ BANPU ไว้ที่ 26 บาท
(+) BJC : (ราคาปิด 59.00 บาท)
วันพรุ่งนี้จะมีการรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. ซึ่งเราคาดว่าจะออกมาสูงต่อเนื่อง เป็นบวกต่อ BJC ซึ่งเดือน ม.ค. อยู่ที่ระดับ 80.0 ทำระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ BIGC ยังมีแผนเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง และยังมีแผนขยายเตาแก้วโรงงานที่ 5 .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 63.00 บาท
(+) ADVANC* : (ราคาปิด 200.00 บาท)
เราเห็นปริมาณการซื้อขายเข้ามามากในกลุ่ม ICT ช่วงวานนี้ เรามองเป็นการ switch กลุ่มของนักลงทุน .... เลือก ADVANC จากการเป็นผู้นำของกลุ่ม Telecom นอกจากนี้ ADVANC ยังได้รับผลบวกจากการเลื่อนการประมูลคลื่นออกไป 2-3 เดือน และเรามองว่า ADVANC มีจำนวนคลื่น ณ ปัจจุบันเพียงพอต่อการรองรับลูกค้าไปอีกประมาณ 3 ปี
หุ้นมีประเด็น
(0) กลุ่มธนาคาร (+) CPALL ธปท.ปรับเกณฑ์ "แบงกิ้งเอเยนต์" เบิกถอนสูงสุดวันละ 2 หมื่น มีผลวันที่ 6 มี.ค. เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สนส. 3/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปหรือวันที่ 6 มีนาคม โดยมีการปรับหลักเกณฑ์การประกอบกิจการสาขาธนาคารพาณิชย์ ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์ การแต่งตั้งตัวแทนของสถาบันการเงิน (Banking Agent) ในประเด็นสำคัญ เช่น การกำหนดหลักเกณฑ์ การตั้งตัวแทนธนาคารพาณิชย์หรือ "แบงกิ้ง เอเยนต์ ซึ่งในส่วนของการรับถอนเงินและตัวแทนจ่ายเงินสำหรับผู้ใช้บริการรายย่อยสามารถให้บริการได้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน ,การเลิกสาขาทั่วไป และสาขาอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารพาณิชย์สามารถเลิกการให้บริการที่ได้เปิดให้บริการอยู่เป็นการถาวร โดยจะต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ ล่วงหน้าอย่างน้อย 45 วัน
ความเห็น: เรามีมุมมองเป็นกลางกับประเด็นดังกล่าวต่อกลุ่มธนาคาร เนื่องจากเป็นไปตามแนวทางของแต่ละธนาคารอยู่แล้วที่ต้องการลดจำนวนสาขาลง และการจัดตั้ง Banking Agent จะช่วยให้ธนาคารสามารถปิดสาขาได้เร็วมากยิ่งขึ้น เพราะมีตัวแทนจากนิติบุคคลอื่นเข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งสามารถลดต้นทุนของสาขาของแต่ละธนาคารลงได้ แต่อย่างไรก็ดี เราคาดว่า เบื้องต้นธนาคารจะเสียรายได้ค่าธรรมเนียมในการให้บริการฝาก โอน ถอน หลังจากมี Banking agent ขณะที่เรามองว่า ตัวแทนของธนาคารที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ CPALL เนื่องจากมีจำนวนสาขา 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ และมีความน่าเชื่อถือ โดยมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งตรงตามคุณสมบัติของ ธปท. ทั้งนี้ เรายังให้คำแนะนำสำหรับ CPALL เป็น ถือ ราคาเป้าหมายที่ 86 บาท และมีความเป็นไปที่จะปรับประมาณการขึ้นหากได้รับการเป็นตัวแทนจากธนาคาร นอกจากนี้ เรายังมองว่า BJC, PTG, MTLS และ ADVANC ยังมีโอกาสในการเป็น Banking Agent อีกด้วย เพราะมีจำนวนสาขาจำนวนมากและครอบครุมในต่างจังหวัด ส่วนกลุ่มธนาคาร ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนเป็น เท่ากับตลาด เลือก TMB เป็น Top pick
(+) SC ยอดจอง online booking โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน sold out ในวันแรก
วานนี้ (6 มี.ค.2018) SC ได้มีการเปิดจอง online booking โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน (CENTRIC Ratchayothin) จำนวน 51 ห้อง หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาท ทั้งนี้ ยอดการจอง online booking สามารถขายได้หมด (sold out) ได้ในวันดังกล่าว และจะมีการเปิดจองอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 10-11 มี.ค.นี้ โดย SC ตั้งเป้ายอดขายจากโครงการนี้ภายในเดือน มี.ค.2018 ที่ 70% จากที่จะเปิดขายในช่วงแรกประมาณ 80%
ความเห็น: นับว่ายังคงเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนได้ภายในปี 2019 สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2018 จะมีจำนวนทั้งหมด 19 โครงการ มูลค่ารวม 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 17 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท และคอนโด 2 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท ขณะที่ SC ตั้งเป้าหมายรายได้และ Presales ปี 2018 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยในแง่รายได้จะเติบโต 37% YoY และ Presales จะเติบโต 11% YoY ด้านกำไรสุทธิปี 2018 เราคาดจะเติบโตโดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.07 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY เนื่องจากจะมีคอนโดขนาดใหญ่เริ่มโอน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Saladaeng One มูลค่าโครงการ 4.7 พันล้านบาท จะเริ่มโอน 2Q18 และโครงการ BEATNIQ มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท จะเริ่มโอน 3Q18 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 5 บาท
Analyst :
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO6157