- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 March 2018 18:39
- Hits: 1926
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์ แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด
KGI คาด SET วันอังคารฟื้นตัว หลังหุ้นโลกคลายกังวลสงครามการค้า + ราคาน้ำมันปรับขึ้นลดทอนผลจาก XD effect ของหุ้น PTT* (PTT* ขึ้น XD เงินปันผล 12 บาท/หุ้น มีผลต่อดัชนีฯ 3.41 จุด) หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นแรงเมื่อคืน ตามข่าว i) ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เองกลับแถลงไม่เห็นด้วยต่อมาตรการภาษีเหล็ก/อลูมิเนียม อาจส่งผลให้โดนัลด์ ทรัมป์ คิดอีกรอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ii) ทรัมป์กล่าวในทวีตเตอร์ส่วนตัวว่าจะไม่มีการยุติมาตรการภาษีดังกล่าว เว้นแต่ว่าการเจรจาค้าเสรี NAFTA มีดีลที่ดีกับสหรัฐฯ จากข่าวดังกล่าว ตลาดจึงมองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ดีอัพไซด์ของการรีบาวด์ยังมีจำกัด หลังบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ เด้งเช่นกัน และเทรดเดอร์ส่วนหนึ่งยังชะลอเพื่อติดตามตัวเลขค่าจ้างแรงงาน (wage growth) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ภาพรวม SET ช่วงสั้นจึงยังเป็นไซด์เวย์ เพื่อรอปัจจัยดังกล่าว ผนวกกับปัจจัยสำคัญในประเทศในวันที่ 8 มี.ค. ซึ่ง สนช. จะพิจารณากฎหมายเลือกตั้งซึ่งผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการมาแล้ว
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร COM7*, SGP*, SIMAT
COM7* (เป้า Consensus 20.2 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นพักฐานที่แนวรับหลังปรับขึ้นแรงตามคาดแล้ว เป็นโอกาสซื้อเก็งกำไร ประเมินแนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 20 บาท (Trailing stop 17.5 บาท) 2) เราประเมินความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง (เริ่มให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง และนายกฯ กำหนดกรอบการเลือกตั้งไม่เกิน ก.พ.2562) จะทำให้ Sentiment เศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศเป็นบวกต่อเนื่องได้ 3) ประเมินดีมานด์ สินค้าไอที ยังเติบโตรองรับยุคดิจิตอล และผู้ประกอบการหลักทยอยออกสินค้ารุ่นใหม่ๆ เช่น Samsung S9, และ iPhone เตรียมเปิดตัว iPhone SE2 เป็นต้น โดย Consensus ยังคาดกำไรปีนี้โต +22.2% YoY ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรในหุ้นค้าปลีกตัวอื่น ที่ยังมี Upside และฝ่ายวิจัยฯยังแนะนำ "ซื้อ" เช่น CPALL*, ROBINS* เป็นต้น
SGP* (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) จากการเยี่ยมชมกิจการคลังสินค้าและท่าเรือรับแก๊ส ที่ประเทศจีน เราประเมิน i) ความเสี่ยงขาดทุนสต๊อกจากราคาแก๊สที่ปรับลงจากปัจจัยฤดูกบาลรอบนี้มีน้อย จาก Inventory days ที่ต่ำเพียง 10 วัน ii) วางแผนธุรกิจขยายการลงทุนธุรกิจ LNG รองรับดีมานด์ในจีน (LNG มีดีมานด์เพิ่มขึ้นมากในจีน เพราะนโยบายลดการใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าของจีน) คาดมีความคืบหน้าลงทุนภายในปีนี้ iii) วางแผนขยายตลาด LPG ไปจีนตอนบน ที่ห่างจากท่าเรือ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้อัตรากำไรที่สูงขึ้น (ปัจจุบัน SGP เน้นขายจีนตอนใต้) 2) Valuation ไม่แพง Trailing PE เพียง 10.2 เท่า 3) ปันผล 1 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 3.2% (XD 8 มี.ค.) และแตกพาร์จาก 1.0 บาท/หุ้น เป็น 0.5 บาท/หุ้น 4) ประเมินแนวรับ 30.75 บาท และ 30 บาท / แนวต้าน 32 บาท และ 34 บาท (Trailing stop 29.5 บาท)
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ผลการดำเนินงาน 4Q60 คาดจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว โดยมีกำไรปกติจากการดำเนินงานแล้ว แต่มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญราว 15.4 ล้านบาท ทำให้ปี 2560 รายงานผลขาดทุนสุทธิ 8.5 แสนบาท (หากตัดรายการดังกล่าวออก ปี 2560 จะมีกำไรปกติ 6.9 ล้านบาท) ขณะที่ธุรกิจ Label&stamping มีกำไร และธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ขาดทุนลดลงต่อเนื่อง 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2561 จะ Turnaround ต่อเนื่องได้ จาก i) ธุรกิจอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ ถึงจุดคุ้มทุน ไม่เป็นตัวถ่วงหนักแบบในอดีต ii) ธุรกิจ Label&Stamping เริ่มรับรู้ออเดอร์ iPhone X ใน 1Q61 และต่อเนื่องกลางปีนี้ iPhone SE2 iii) เตรียมประกาศซื้อกิจการที่มีกำไรแล้ว มาเสริมธุรกิจ Label&Stamping 3) ประเมินราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานที่แนวราคา ±3.5 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" แนวรับ 3.50 บาท แนวต้านแรก 3.70 บาท และถัดไปที่ 4.10 บาท (Stop loss 3.30 บาท)
หุ้นในกระแส
ศาลฎีกานัดตัดสินบ้านปูวันนี้ คดีโรงไฟฟ้าหงสา ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินในกรณีที่ BANPU* แพ้คดีฯ จะกระทบต่อมูลค่าเหมาะสม 4.5 บาท แต่เราเชื่อว่าราคาหุ้นปรับขึ้นมา 3.7 บาท/หุ้นตั้งแต่ต้นปี 2561 สะท้อนความคาดหวังผลการตัดสินคดีฯในเชิงบวกไปพอสมควรแล้ว ระยะสั้นระมัดระวังแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ดีพื้นฐานไม่เปลี่ยน หากมีการพักฐานประเมินเป็นโอกาสซื้อ แนวรับ 21.5 บาท (Stop loss 20.5 บาท) และประเมินราคาเหมาะสม 24 บาท
หุ้นมีข่าว
(- กลุ่มเหล็ก / + กลุ่มรับเหมาฯ, อสังหาฯ, ยานยนต์) หวั่นเหล็กทะลักอาเซียน (โพสต์ทูเดย์) กลุ่มเหล็ก ส.อ.ท. ห่วงผลกระทบสหรัฐขึ้นภาษีเหล็ก ทำสินค้าทะลักตลาดอาเซียนกว่า 27 ล้านตัน นายกรกต ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากกรณี ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก (เซฟการ์ด) อัตรา 25% และอะลูมิเนียม 10% นั้น จะส่งผลกระทบทั้งทางตรง คือสูญเสียตลาดส่งออกสินค้าเหล็กในสหรัฐ 3.8 แสนตัน มูลค่า 1.04 หมื่นล้านบาท และทางอ้อม คือสินค้าเหล็กจากทั่วโลก 27.03 ล้านตัน ทะลักเข้าไทยและอาเซียน
(+) เครือปูนใหญ่ยื่นขอซื้อหุ้นในเวียดนาม (โพสต์ทูเดย์) นวพลาสติกเครือปูนใหญ่ ยื่นเสนอราคาขอซื้อหุ้นบิน มิน พลาสติกประเทศเวียดนามอีก 29.5% รวมถือเพิ่มเป็น 49.9% นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC*) เปิดเผยว่า บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) (นวพลาสติก) จะเข้าร่วมในกระบวนการยื่นเสนอราคาเพื่อซื้อหุ้น 29.5% ในบริษัท บิน มิน พลาสติก จอย9N สต๊อก (BMP) จาก State Capital Investment Corporation (SCIC) หน่วยงานการลงทุนที่สำคัญของรัฐบาลเวียดนาม โดยกระบวนการยื่นเสนอราคาเพื่อชื้อหุ้นจะเป็นไปตามกฎเกณฑ์และระเบียบของ SCIC การเปิดเผยข้อมูลจะเป็นไปตามกฎเกณฑ์และระเบียบของกระทรวงการคลังของเวียดนาม และตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE)
(+) เซ็นทรัลดัน 8 แสน ล. ภายใน 5 ปี หลังจ่อลงทุน3แสนล้านทั้งในและต่างประเทศ รองรับเศรษฐกิจฟื้น (โพสต์ทูเดย์) กลุ่มเซ็นทรัลกางแผน 5 ปี กวาดรายได้ 8 แสนล้าน เตรียมเทงบ 2-3 แสนล้าน ขยายธุรกิจไทยและต่างประเทศ นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในอีก 5 ปีนับจากนี้ (2561-2565) บริษัทมีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 2-3 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเข้าสู่เป้าหมายรายได้ ปีละ 8 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 5 ปี จากปี 2561 ที่คาดมีรายได้กว่า 3.97 แสนล้านบาท
(+) ASAP เปิดแผน 3 ปีได้ 3 พันล้านปีนี้เติบโต 30% (โพสต์ทูเดย์) ซินเนอร์เจติคฯ วางเป้ารายได้ 3,000 ล้าน ในอีก 3 ปี ลุยลงทุนปีนี้ขั้นต่ำ 3,500 ล้าน นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ (ASAP) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้ารายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท จากปี 2560 ที่ผ่านมาทำได้ 1,600 ล้านบาท และสัดส่วนรายได้จากรถเช่าระยะยาวจะอยู่ที่ 80% จาก 95% โดยจะเพิ่มรายได้ในส่วนของรถเช่าระยะสั้นและรถเช่าพร้อมคนขับ เพราะอัตรากำไรจะสูงกว่าและมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก
(+) PTTEP* ยิ้มโมซัมบิกคืบ! รัฐบาลอนุมัติแผนพัฒนา (ข่าวหุ้น) PTTEP* เผยข่าวดี รัฐบาลโมซัมบิกอนุมัติแผนพัฒนา “แหล่งโกลฟินโญ-อาตุม” แล้ว เตรียมเข้าสู่ขั้นตอนตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย ฟากบริษัทร่วมทุนเซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซ LNG กับผู้ผลิตไฟฟ้าฝรั่งเศส 15 ปี ปริมาณ 1.2 ล้านตัน/ปี
(+) EGCO* จ่อผุดนิคมฯ ในจ.ระยอง ทุ่ม 1.2 หมื่นล้าน เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า (ข่าวหุ้น) EGCO* แย้มเตรียมลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมใน จ.ระยอง คาดชัดเจนปีนี้ ส่งซิกกำไรปี 2561 โตเกิน 6% ลุยรักษา ROE อยู่ที่ 10% พร้อมทุ่มงบ 12,000 ล้านบาท ลงทุนโรงไฟฟ้า 3 โครงการ ขนาด 544 MW
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TOA (เป้าพื้นฐาน 40.5 บาท) ประเมินแนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 34.5 บาท และถัดไปที่ 37 บาท (Trailing stop 33 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
EGCO* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 278 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ฝ่ายวิจัยฯประเมิน การขายหุ้น Masinloc power plant project (MPPCL) และ EASTW จะทำให้มูลค่าหุ้น EGCO* เพิ่มขึ้น 18 บาท/หุ้น โดยคาดจะมีกำไรจากการขายหุ้น 1.24 หมื่นล้านบาท และจะทำให้บริษัทมีเงินสดในมือก้อนโตสำหรับการลงทุนในอนาคต
BCPG* แนะนำ "ขาย" เป้าพื้นฐาน 20 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นกลาง โดยฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯกำไรสุทธิปี 2561 - 62 ลง 23.7 - 21.1% ตามลำดับ จากค่าใช้จ่าย Amotization ที่คาดจะเพิ่มขึ้นจากโครงการ Geothermal และโครงการพลังงานลม ราว 584 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ดีค้าใช้จ่ายดังกล่าวเป็น Non-cash จึงไม่กระทบต่อราคาเหมาะสมที่คำนวณโดยใช้วิธี DCF ฝ่ายวิจัยฯจึงยังคงราคาเป้าหมายไว้ตามเดิม
CENTEL* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 56.5 บาท จากที่ประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นกลาง ภาพระยะยาวมีการลงทุนที่จะทำให้มีโอกสในการเติบโต แต่ฝ่ายวิจัยฯคาดภาพระยะสั้น ถูกถ่วงด้วยการเติบโตที่ไม่โดดเด่น เนื่องจากไม่มีการขยายโรงแรมเพิ่มเติมเร็วๆนี้ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารยังเปราะบางมาก ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปี 2561 - 62 ลง 5 - 6 %
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1805 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1805 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1805-1826 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1805 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลงในกรอบ 1805-1758 จุด
แนวรับวันนี้: 1805/1785 แนวต้านวันนี้: 1812/1822
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO6116
