WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงอ่อนตัว
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงตามบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ โดยแรงขายยังกระจุกตัวในหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง ขณะที่ ต่างชาติขายสุทธิ 3.6 พันลบ. พร้อมกับสถาบันที่ขายสุทธิ 3.2 พันลบ. ส่วนสถานะใน Index Future ต่างชาติ Net Short ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 2 หมื่นสัญญาหรือราว 4.8 พันลบ. 
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET ยังมีแนวโน้มแกว่งตัง Sideways Down จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังไม่สดใสนัก จากประเด็นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ รวมถึงการเลือกตั้งในอิตาลีที่ยังต้องติดตามว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้สำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรายังมองตลาดอ่อนตัวยังเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานคืนหลังจากที่เราแนะนำให้ขายทำกำไรบางส่วนบริเวณ High เดิมแล้วในสัปดาห์ก่อน และเชื่อว่าตลาดจะกลับมาปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไปจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง
  กลยุทธ์ : ยังเน้นทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานกลับในช่วงตลาดอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ADVANC, MINT, MTLS, PTTEP, SC 
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$892ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$583ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$114ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TISCO <<
ประกาศจ่ายปันผลมากถึง 5 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 5.6% ขึ้น XD วันที่ 27 เม.ย. 18
คาดกำไรปี 2018 ที่ 7.18 พันลบ. +18% Y-Y  จาก (1) คาดการณ์การตั้งสำรองฯหนี้สูญที่ลดลง เพราะ Coverage ratio ที่สูงถึง 197% เพียงพอต่อคุณภาพหนี้ปัจจุบันและ IFRS 9 (2) รับรู้รายได้จากพอร์ตสินเชื่อจาก SCBT เต็มปี ที่ราว 400-500 ลบ.ต่อปี
ราคาหุ้นยังทรงตัว YTD ถือว่า laggard ดัชนีกลุ่มแบงก์ที่ขึ้น 1.7% YTD แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท 
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กีดกันนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ โดยจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% เรามองมาตรการนี้กระทบเศรษฐิจเอเชียโดยเฉพาะจีนจำกัด เพราะส่วนใหญ่สหรัฐฯนำเข้าเหล็กจากแคนาดา บราซิล และเม็กซิโก แต่การปรับขึ้นของราคาเหล็กทั้งในสหรัฐฯและจีนปลายสัปดาห์ก่อน จะเป็นบวกกับหุ้นเหล็ก และเป็นลบกับหุ้นที่ใช้เหล็กเป็นต้นทุน เช่น รับเหมา ยานยนต์ ARROW ZIGA SMPC
(+) AMATA กำไร 4Q17 ที่ต่ำกว่าคาดเพราะลูกค้ารอความชัดเจนของกม. EEC และที่ดินที่ขายได้ส่วนใหญ่อยู่ที่ระยองซึ่งราคาขายต่ำกว่าที่ชลบุรี เรายังมองแนวโน้มสดใสเพราะมีพื้นที่พร้อมขายในแถบ EEC ราว 1.4 หมื่นไร่ บริษัทตั้งเป้าขาย 925 ไร่ในปีนี้ มากกว่าปีก่อนที่ขายได้เพียง 500 ไร่ ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
(+) BEC ราคาหุ้นฟื้นตัวจาก rating ละครบุพเพสันนิวาส EP3-EP4 ที่ขึ้นไปถึง 7-8 ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อการเก็งกำไรระยะสั้น เพราะละคร rating สูงเช่นนี้เว้นช่วงไปนาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาจะมี time lag การฟื้นตัวของผลประกอบการจึงน่าเป็นช่วง 2H18 ส่วนกำไร 1Q18  คาดลดลง Y-Y แนะนำเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 10.50  บาท 
(-) CK กำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 215 ลบ. -66% Q-Q, -37% Y-Y ต่ำกว่าคาด ส่วนผลการดำเนินงานปกติ ขาดทุน 50 ลบ. จากรายได้งานก่อสร้างที่ชะลอตัว และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าปกติ ทั้งการจ้างคนเพิ่มเพื่อรองรับงานใหม่ และการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญกิจการร่วมค้าแห่งหนึ่ง เราจะ Update ข้อมูลอีกครั้งหลังประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 7 มี.ค. 18 แต่เบื้องต้นยังคงคำแนะนำซื้อ
(+) MODERN กำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 83 ลบ. ลดลง 10% Q-Q เพราะ 3Q17 มีการบันทึกรายได้ค่าปรับจากการถูกยกเลิกสัญญาเช่า ถ้าหักออก กำไรปกติ +10% Q-Q, +25% Y-Y ตามการฟื้นตัวของตลาดออฟฟิสที่มีอัตรากำไรสูง ส่วนกำไรทั้งปี 2017 อยู่ที่ 216 ลบ. +25% Y-Y เราคาดปี 2018 +32% Y-Y อยู่ที่ 284 ลบ. จากการกลับมาโตของตลาดออฟฟิส และการรับรู้กำไรของโมเดอร์นฟอร์มแฮลท์แอนด์แคร์ ซึ่งมีแผนเข้า MAI ใน 4Q18 สำหรับปันผลงวด 2H17 สูงถึง 0.20 บาท/หุ้นหรือ 4% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท
(0) SAWAD กำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 725 ลบ. +17% Q-Q, +19% Y-Y จากค่าใช้จ่าย SG&A, ภาษี, และ minority ที่น้อยกว่าคาด ส่วน PPOP เป็นไปตามคาด Loan Spread ยังต่ำเพียง 15.8% จากการปรับสัญญาเงินกู้เป็นสัญญาเช่าซื้อ ค่าใช้จ่ายตั้งสำรองสูงขึ้นเท่าตัว Q-Q คาดเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ กำไรทั้งปี 2017 อยู่ที่ 2.67 พันลบ. +33% Y-Y ปัจจัยกดดันช่วงนี้อยู่ที่กม.ควบคุม Non-Bank เราคาด SAWAD ถูกกระทบจากกรณีเรียกเก็บค่าปรับล่าช้าสูงสุดในกลุ่ม   แนวโน้มปี 2018 อิงจากโครงสร้างเดิมคาด +15% Y-Y อยู่ที่ 3 พันลบ. แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 68 บาท กลุ่มนี้เราชอบ MTLS และ TK
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
5 มี.ค.- จีน: Caixin China PMI Composite (ก.พ.)
         - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.พ.)
6 มี.ค.- ศาลฎีกาตัดสินคดีความหงสา - BANPU-BPP
7 มี.ค.- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (ม.ค.), ตัวเลขจ้างงานของ ADP (ก.พ.), Fed Beige Book
          - ยูโรโซน: 4Q17 GDP
8 มี.ค.- ญี่ปุ่น: 4Q17 GDP
      - จีน: ดุลการค้า (ก.พ.)
       - ยูโรโซน: ประชุม ECB
9 มี.ค.- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.พ.)
(0) ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงเล็กน้อยในขณะที่อีกสองตลาดปรับตัวขึ้นหลังจากตลาดได้ปรับฐานลงมาในช่วง 3 วันก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนบางส่วนกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาด
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส เยอรมันและอิตาลีที่ปรับตัวลดลง 2-2.5% ในขณะที่ตลาดหุ้นอังกฤษเองก็ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนหลังความกังวลเรื่องการจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐ
(-) ตลาดเอเชียนำโดยดัชนี Hang Seng (Future) ปรับตัวลง 2.4% ในขณะที่ตลาดญี่ปุ่นปรับตัวลงเกือบ 1%
() ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.40 – 31.50 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 61.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดอลลาร์ได้อ่อนค่าลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปรับขึ้น 18.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,323.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO6075

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!