- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 February 2018 16:28
- Hits: 2544
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
"กังวลสหรัฐฯปรับดอกเบี้ย"
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : หากไม่รวมการปรับตัวขึ้นของ PTT ช่วงวานนี้ ตลาดจะปรับตัวลงประมาณ -8.8 จุด คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลง ซึ่งเป็นไปตามลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ มองว่าความกังวลเรื่องการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เริ่มกลับมาอีกครั้ง .... ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงปรับตัวลง -0.7% จากรายงานการประชุม FOMC ที่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยับตัวขึ้นในปีนี้ สนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ย, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.94% .... ส่วนปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ม.ค.61 ส่งออกโต 17.6% ดีสุดรอบ 62 เดือน ซึ่งเติบโตได้ดีในสินค้า อาหารทะเลแช่แข็ง (+20%), กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (+20%), ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ม.ค.2018 ยังอยู่ในทิศทางที่ดีที่ 166,196 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% YoY และ 5.7% MoM
กลยุทธ์การลงทุน : เรามีมุมมองเช่นเดียวกับวันก่อน คือตลาดในระยะสั้นยังผันผวนและยังไม่ชัดเจน การเก็งกำไรระหว่างวันแนะนำเข้าลงทุนในลักษณะ selective buy แนะนำหุ้นที่ได้แรงหนุนจากตัวเลขส่งออกที่ออกมาดี อาทิ SAT, AH, PCSGH หรือ เก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานช่วง 4Q17 จะออกมาดีอาทิ CPALL, CENTEL, SPA, DDD, ERW, ORI, BCH, SAWAD .... โดยหุ้นที่ติด most active และคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจได้แก่ PTT*, CPN
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ : SAT
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : VNT, SGP, SPALI
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) PTT* :
PTT มีมูลค่าซื้อขายสูงที่สุดในตลาด และปรับตัวขึ้นได้ดีถึง +6.5% ในเชิงกลยุทธเรามองว่า PTT ยังมีความน่าสนใจอยู่จากปัจจัยบวกต่อเนื่องของอนุมัติแตกพาร์ 10 บาท เหลือ 1 บาท ซึ่งจะเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 เม.ย. นี้ และการเข้าซื้อ IRPC อีก 9.5% ของทุนฯ ทำให้ PTT ถือหุ้นเพิ่มเป็น 48% เรามองเป็นบวกต่อกลุ่ม PTT อีกทั้งกำไรสุทธิช่วง 4Q17 ออกมาที่ประมาณ 36,000 ล้านบาท สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท
(+) SAT :
เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่ม Auto อยู่ โดยรายงานสถิติอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเดือน ม.ค.2018 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 166,196 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% YoY และ 5.7% MoM เลือก SAT เนื่องจากดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถกระบะเป็นส่วนใหญ่ และยอดการส่งออกรถกระบะเติบโตสูงถึง +30% ในช่วง 4Q17 โดย SAT เป็นหนึ่งใน Top Pick ของหุ้นในกลุ่ม Auto ที่เราจัดทำบทวิเคราะห์ …. ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 22.00 บาท
(+) CPN :
CPN ประกาศกำไรปกติใน 4Q17 อยู่ที่ 2,326 พันล้านบาท (+5%YoY, -6% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้ จากการเปิดศูนย์ใหม่ 2 ศูนย์ที่นครราชสีมาและมหาชัย โดย CPN มีความน่าสนใจจากคาดการณ์กำไรปกติที่จะเติบโต +22% ในปีนี้จากการเปิดศูนย์ฯใหม่ในปีนี้อีกจำนวน 3 ศูนย์ฯ …. ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 92.00 บาท
หุ้นมีประเด็น
(+) ส่งออกเติบโต 17.6% ดีที่สุดในรอบ 62 เดือน
กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ม.ค.61 การส่งออกมีมูลค่า 20,101.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โต 17.6% ดีสุดในรอบ 62 เดือน ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 20,220.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โต 24.3% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 119.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ที่มา: อินโฟเควสท์)
ความเห็น : ส่งออกดี ทั้งสินค้าเกษตรกรรม (+16.2% YoY) และสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สินค้าที่มีการส่งออกขยายตัวมาก (ที่สัมพันธ์กับบริษัทในตลาดหุ้น)ในเดือน ม.ค. ประกอบด้วย กลุ่มอาหาร : ภาพรวม +18.3% (ธ.ค.60 +13.2%) แบ่งออกเป็น อาหารทะเลแช่แข็ง (+20.4%) กุ้งแช่แข็ง-แปรรูป (+3.7%) พลิกขึ้นมาจากติดลบ ไก่สด-แปรรูป (18.4%) หุ้นที่เป็นบวกจากตัวเลขส่งออกที่สูงขึ้น GFPT, CFRESH, กลุ่มรถยนต์-ชิ้นส่วน ภาพรวม +26.4% (ธ.ค.60 +13.6%) ขยายตัวดีทั้งการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วน หุ้นที่เป็นบวก SAT , AH และ PCSGH, กลุ่มอีเล็คทรอนิคส์ : ภาพรวม +20.0% (ธ.ค.60 +17.5%) วงจรพิมพ์ (+23.8%) Harddisk ขยายตัว 13.8% ชะลอจากเดือนก่อน 10.8% หุ้นที่เป็นบวก KCE
(+) Auto Sector : ยอดผลิตรถรยนต์เดือน ม.ค.2018 เพิ่มขึ้น YoY ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7
ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ม.ค.2018 ยังอยู่ในทิศทางที่ดีที่ 166,196 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% YoY และ 5.7% MoM โดยยังคงได้ผลบวกจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตโดดเด่น ด้านผลการดำเนินงานกลุ่มยานยนต์งวด 4Q17 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ตามทิศทางยอดผลิตรถยนต์ใน 4Q17 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.3% YoY แต่ลดลง 3% QoQ และภาพรวมกำไรปกติกลุ่มยานยนต์รวมทั้งปี 2017 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเด่นราว 24% YoY ส่วนปี 2018 เราคาดว่ากำไรปกติยังเติบโตได้ดีเฉลี่ยราว 15% YoY โดยเราคาดการณ์ยอดผลิตรภยนต์ปี 2018 ยังเติบโตราว 5% YoY ทั้งนี้ เรายังให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มยานยนต์เป็น Neutral หุ้น Top Pick ได้แก่ AH ราคาเป้าหมาย 37 บาท และ SAT ราคาเป้าหมาย 22 บาท
(0) Banking Sector : สินเชื่อเดือน ม.ค. 2018 หดตัวลงตามฤดูกาลจากการชำระหนี้คืนของสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก
จากข้อมูล ธ.พ. 1.1 ของกลุ่มธนาคารในเดือน ม.ค. 2018 ที่ออกมา พบว่า ใน 9 ธนาคารที่เราศึกษามีสินเชื่อรวมอยู่ที่ 8.9 ล้านล้านบาท ลดลง 0.8% MoM แต่เพิ่มขึ้น 3.5% YoY โดยภาพรวมที่ลดลง MoM เนื่องจากการชำระหนี้คืนของสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลที่ช่วงต้นปีจะมีการชำระคืน โดย LHBANK มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด 4.3% MoM รองลงมาเป็น BBL ลดลง 2.4% MoM ขณะที่ KKP มีสินเชื่อที่เติบโตได้สูงสุด 1.9% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อ SME คูณสามที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการเพิ่มขึ้น YoY มี KKP ที่มีการเติบโตมากที่สุด 12.2% YoY รองลงมาเป็น TISCO +10.6% YoY เนื่องจากการรวมพอร์ตกับ SCBT ขณะที่ KTB มีการหดตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบ YoY โดยลดลง 0.3% YoY จากการชำระคืนจากสินเชื่อภาครัฐและรายใหญ่ โดยในกลุ่มธนาคารเรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนเป็นเท่ากับตลาด เลือก BBL, KBANK และ TMB เป็น Top Pick
(+) WICE : กำไร 4Q17 ต่ำกว่าคาดจากรายการพิเศษ แต่อนาคตยังดี
WICE รายงานผลการดำเนินงาน ปี 2017 ว่ามีกำไร 90 ล้านบาท +16% YoY ขณะที่ผลการดำเนินงาน 4Q-17 มีกำไร 12 ล้านบาท -57% YoY และ -57% QoQ และ ทั้งนี้ กำไร ปี 2017 ที่มีการขยายตัวมาก มาจากการรับรู้รายได้เต็มปี จากการรวมกิจการ SEL มาตั้งแต่ 3Q-16 ขณะที่กำไร 4Q-17 ที่ออกมาต่ำกว่าที่เราเคยประเมินไว้ที่ 29 ลบ.
ความเห็น: กำไรที่โต 16% ในปี 2017 เป็นกำไรที่สะท้อนถึงการขยายธุรกิจ ทั้งการรับจ้างบริหารคลังสินค้า และจากการซื้อกิจการ เพื่อต่อยอดธุรกิจของ WICE กำไร 4Q-17 ออกมาต่ำกว่าคาด แต่มาจากการตัดค่าใช้จ่าย 2 รายการ คือ ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นของบริษัท Universal Worldwide Transportation ; UWT) เป็นจำนวน 9.2 ล้านบาท และผลขาดทุนจากอัตรแลกเปลี่ยนจากการเงินดอลล่าร์ในมือของ WICE เป็นผลจากเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 4Q-17 อีก 5 .1 ล้านบาท หากตัด 2 รายการนี้ออกไป กำไรปกติของ WICE นั้นยังถือว่าดีตามคาด คือ 29 ลบ. ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา
เรายังคงมีมุมมองในทางบวกต่อ WICE จากการที่รุกธุรกิจเข้าไปยังจีน ด้วยการเข้าซื้อหุ้น UWT เป็นผลบวกต่อ WICE ในระยะยาว โดยประเมินว่า การเข้ามาของ WICE จะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งเท่าตัว (ภายในเวลา 5 ปี) อีกทั้งปีนี้ เราทราบว่า WICE มีแผนในการทำ M&A ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ WICE อีก พร้อมกับการหาลูกค้าใหม่ๆ ที่เกิดจากการ Synergy กันระหว่าง WICE-SEL-UWT
แม้ราคาตลาด ที่ 7.20 บาท จะสูงกว่าราคาที่เหมาะสมของเรา ที่ 7.0 บาท แต่ด้วยมุมมองในเชิงบวกที่เรามีต่อ WICE และเรามีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการกำไรของ WICE สูงขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้นตัวนี้ และเห็นว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นหากราคาอ่อนตัวลงมาจากกำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด
บทวิเคราะห์วันนี้
(+) TOURISM (Overweight)
ข้อมูลจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาระบุจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค. 2018 อยู่ที่ 3.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11% YoY โดยนักท่องเที่ยวจีนยังคงมีสัดส่วนสูงสุดราว 27% ขณะที่ในเดือน ม.ค. 2018 นักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้นได้ดีที่ 13% YoY แม้ปีก่อนฐานสูงเพราะมีตรุษจีน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตสูงที่สุดเป็นรัสเซีย เติบโตได้ถึง 28% YoY รองลงมาเป็นอินเดียเติบโตได้ที่ 22% YoY ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวรวมเดือน ม.ค. 2018 คิดเป็น 9% จากที่เราคาดการณ์ทั้งปีนี้ที่ 38 ล้านคน เติบโตได้ไม่เยอะมาก เพราะปีก่อนมีเทศกาลตรุษจีนในเดือน ม.ค. 2018 ขณะที่เราคาดว่า ในช่วงเดือน ก.พ. 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวจะพลิกกลับมาเติบโตได้โดดเด่น เพราะมีเทศกาลตรุษจีน โดยเรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนเป็นมากกว่าตลาด ชอบ ERW และ CENTEL รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่าง AOT, SPA, BEAUTY และ TKN
(+) CPN (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 92.00 บาท)
CPN ประกาศกำไรปกติใน 4Q17 อยู่ที่ 2,326 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%YoY แต่ลดลง 6% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดไว้ โดยการเพิ่มขึ้น YoY มาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 3% YoY จากการเปิดศูนย์ใหม่ 2 ศูนย์ที่นครราชสีมาและมหาชัย รวมถึงมีการรับรู้รายได้จากการแปลง CPNRF เป็น CPNREIT เข้ามาช่วยอีก 175 ล้านบาท ส่วนการลดลง QoQ มาจากการปิดปรับปรุงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ส่งผลให้ Occupancy rate รวมมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 92% จาก 94% ในปีก่อน โดยเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 คาดจะอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นได้ถึง 22% YoY จากการรับรู้รายได้จากศูนย์ฯที่เพิ่งเปิดช่วง 4Q17 ที่นครราชสีมาและมหาชัยได้เต็มปี 2018 และมีการเปิดศูนย์ฯใหม่ในปีนี้อีกจำนวน 3 ศูนย์ฯ นอกจากนี้เซ็นทรัลเวิลด์จะปรับปรุงแล้วเสร็จในช่วง 3Q18 รวมถึงจะมีการรับรู้รายได้จากคอนโดอีกราว 3 พันล้านบาท เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 92 บาท
(+) RS (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 35.00 บาท)
RS ประกาศกำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 110 ลบ. สูงกว่าที่เราและตลาดคาด รายได้อยู่ที่ 914 ลบ. ใกล้เคียงกับที่เราคาด ปัจจัยหลักจาก 1) รายได้ธุรกิจ H & B ที่เติบโตโดดเด่นเพิ่มขึ้น 1,023%YoY มีสัดส่วนอยู่ที่ 51% ของรายได้ทั้งหมด ส่งผลให้ Gross profit margin ขยายตัวอยู่ที่ 43.2% 2) รายได้จากธุรกิจมีเดียที่ฟื้นตัวเพิ่ม 13%YoY จากเรตติ้งช่อง 8 ที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 2017 อยู่ที่ 333 ลบ.ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 102 ลบ.ในปี 2016 เรายังคงมองว่า Health & Beauty business ยังคงเป็น Earnings growth driver หลักในระยะยาว เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2018 จะอยู่ที่ 825 ลบ.เพิ่ม 148% YoY เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 35 บาท
(0) AAV (ถือ, ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท)
AAV รายงานกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 476 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่คาด โดยเติบโตได้ดี 1,053% YoY จากฐานกำไรที่ต่ำในปีก่อน และดีขึ้น 82% QoQ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว โดยได้ผลบวกจากนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาเติบโตโดดเด่น ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมทั้งปี 2017 อยู่ที่ 1,477 ล้านบาท ลดลง 21% YoY สำหรับปี 2018 เรามีการปรับลดลงจากเดิมราว 3% เป็น 1,649 ล้านบาท จากการปรับเพิ่มคาดการณ์ต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ราว 12% YoY ทั้งนี้ เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะยังคงเติบโตได้ดีราว 22.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY และคาดอัตรา load factor ยังคงอยู่ระดับสูง 87% ใกล้เคียงกับปีก่อน เรามีการปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 6.20 บาท ยังคงแนะนำ ถือ
(0) SC (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท)
SC รายงานกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111% YoY และ 53% QoQ แต่หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษจากผลขาดทุนจากการปรับมูลค่ายุติธรรมและตัดจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จะทำให้มีกำไรปกติที่ 649 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย โดยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นถึง 190% YoY และ 78% QoQ จากยอดโอนโครงการแนวราบและคอนโดที่เพิ่มขึ้น และทำให้รวมทั้งปี 2017 มีกำไรสุทธิ 1.26 ล้านบาท ลดลง 36% YoY สำหรับกำไรสุทธิปี 2018 คาดว่าจะกลับมาเติบโตสูงราว 64% YoY เป็น 2.07 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีคอนโดขนาดใหญ่เริ่มโอน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Saladaeng One และ BEATNIQ ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5 บาท
(0) TK (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท)
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 110 ล้านบาทต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด โดยเพิ่มขึ้น 8%YoY จากยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศที่ขยายตัว 4% แต่ลดลง 17%QoQ จากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 10% ตามคุณภาพสินเชื่อที่อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 4.7% รวมทั้งค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 604 ล้านบาทจากการขยายสินเชื่อทั้งในและนอกประเทศ และการตั้งสำรองที่เพียงพอต่อ IFRS9 เรามองว่าราคาหุ้นที่ลดลงว่านั้นสะท้อนการบังคับใช้ข้อบังคับสัญญาเช่าซื้อที่มีผลตั้งแต่ 2H18 ที่คาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มขึ้น จึงเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเหมาะสม 20.00 บาท (อิง PBV ที่ 1.9x)
Analyst :
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO5808