- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 February 2018 19:56
- Hits: 1752
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//เก็งกำไร PTT
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบตลอดทั้งวันตามคาดเนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น อย่างไรก็ตามเริ่มมีแรงขายออกมาหนาแน่นขึ้นในช่วงท้ายตลาดและทำให้ดัชนีปิดลบ 8.65 จุด ณ สิ้นวัน นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิเป็นวันที่ 13 ติดตอ่กันอีก 1,997 ลบ. ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อในปริมาณที่ใกล้คียงกัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้นำโดย PTT ที่ประกาศกำไรดีกว่าคาดรวมถึงแตกพาร์ซึ่งเป็น Sentiment เชิงบวก ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการ 4Q17 ของบริษัทจดทะเบียนเท่าที่ประกาศออกมาถือว่าดีตามคาด อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคืนนี้ของรายงานการประชุม FED ว่ามีการพูดถึงเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอย่างไร โดยปัจจุบัน Bond Yield สหรัฐฯยังทรงตัวในระดับสูง เรายังมองการพักฐานของตลาดช่วงนี้เป็นเพียงระยะสั้นเพื่อปรับขึ้นต่อในระยะถัดไป
กลยุทธ์ : เก็งกำไร PTT และหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$190ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$104ล้าน และไทย US$64ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดจับตารายงานการประชุม Fed เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ปีนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> PCSGH <<
ได้รับจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกจาก ผลประกอบการของ 4Q17 ของ STANLY และ SAT ที่ออกมาดี เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17 ของ PCSGH ที่ 166 ลบ. +20% Y-Y จากยอดผลิตรถยนต์ที่ +9% Y-Y และสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่ม Non-Auto ซึ่งมีอัตรากำไรสูง
เงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าเป็นบวกต่อกลุ่มยานยนต์ เพราะสัดส่วนการผลิตรถยนต์ในประเทศราว 60% คือการผลิตเพื่อส่งออก
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13 บาท โดยมีงบ 4Q17 เป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น และการผลิตชิ้นส่วน EV เป็นรายแรกในประเทศเป็นปัจจัยหนุนระยะยาว ส่วนปันผลเฉพาะ 2H17 คาด 2% (ทั้งปี 4%)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) MTLS กำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 743 ลบ. +14.2% Q-Q, +54% Y-Y กำไรทั้งปี 2017 อยู่ที่ 2.5 พันลบ. +71% Y-Y ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่น้อยกว่าคาด สินเชื่อโตตามฤดูกาล +10% Q-Q, +51% YTD และ NPL ยังต่ำที่ 1.24% ของสินเชื่อรวม แนวโน้ม 1Q18 โดยปกติยังคงเป็นฤดูกาลที่ดีของสินเชื่อ เราคาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เบื้องต้นเราคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 3.4 พันลบ. (+37% Y-Y) โดยมี Upside จาก Credit cost ที่น้อยกว่าคาดและ Loan Spread ที่ดีกว่าคาด เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปี 2019-2020 คาด +30% เฉลี่ยต่อปี และ ROE ที่ > 30% สูงสุดในกลุ่มการเงิน คงราคาเหมาะสมที่ 48 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร จากเดิมซื้อ
(+) TU กำไรสุทธิ 4Q17 เท่ากับ 1,404 ลบ. (-19.2% Q-Q, +55.7% Y-Y) หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 988 ลบ. (-32% Q-Q, -23.6% Y-Y) (ดีกว่าคาด 6%) สาเหตุที่อ่อนตัว Q-Q เพราะเป็น Low Season แม้รายได้จะทรงตัวจากการฟื้นของคำสั่งซื้อปลาทูน่า แต่ไม่สามารถชดเชยการอ่อนตัวลงของอัตรากำไรขั้นต้น ส่วนกำไรสุทธิทั้งปี 2017 อยู่ที่ 6,021 ลบ. +14.6% Y-Y ไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 4,562 ลบ. -15.2% Y-Y แนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2018 คาด +7.4% Y-Y อยู่ที่ 6,466 ลบ. จากการฟื้นตัวของธุรกิจปลาทูน่า และคาดธุรกิจปลาแซลมอนพลิกมามีกำไร รวมถึงบริษัทย่อยอย่าง COSI และ COSFF จะได้รับผลบวกจากการลดภาษีของสหรัฐฯ เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 23 บาท แนะนำซื้อ
(+) BIG ได้รับผลดีจากการการเปิดตัวกล้อง Fujifirm X-A5 ซึ่งจะเริ่มขายวันนี้เป็นวันแรก โดยฟูจิทุ่มงบอย่างหนักเพื่อหวังสร้างปรากฏการณ์เหมือนตอนเปิดตัว X-A3 โดยได้ BNK48 เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของ BIG ถ้าอิงยอดขายของ X-A3 ที่ประสบความสำเร็จมากในปี 2016 ทุก 1 หมื่นตัวที่ขายได้จะมีกำไรสุทธิราว 40 ลบ. หากอิงที่ 3 หมื่นตัวหรือ 10 ตัวต่อสาขาต่อเดือน จะเป็นบวกกับกำไรสุทธิราว 100 ล้านบาท ส่วนกำไร 4Q17 ออกมาดีตามคาด +88% Q-Q และจ่ายปันผล 0.13 บาท/หุ้น ผลตอบแทน 4% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท
(+) FTE กำไรสุทธิ 4Q17 ออกมาตามคาดที่ 36 ลบ. -10% Q-Q ตามฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก แต่เพิ่มขึ้น 10% Y-Y จากงานขายที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ 3Q17 กำไรสุทธิทั้งปี 2017 จบที่ 131 ลบ. +50% Y-Y เราคาดยังเห็นการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในปีนี้ +15% Y-Y จากการฟื้นตัวของงานก่อสร้างและอาคารสูง รวมถึงการทำตลาดเชิงรุกในงานติดตั้งอุปกรณ์อย่างครบวงจรมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีงานในมืออยู่ราว 400 ลบ. ทั้งนี้ FTE ประกาศจ่ายปันผลเฉพาะ 2H17 มากถึง 0.126 บาท/หุ้น ขึ้น XD 17 เม.ย. 18 คิดเป็นผลตอบแทน 4% ถ้ารวมกับงวด 1H17 ปันผลทั้งปีจะสูงถึง 6% ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5 บาท
(+) ADB เรากลับมาแนะนำซื้อ โดยยังคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 2.30 บาท (อิง PE 20 เท่า) ปัจจัยหนุนมาจากคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q17 ที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งน่าจะกลับสู่ระดับปกติที่เคยทำได้ราว 15-20 ลบ.ต่อไตรมาส เราคาด +59% Q-Q, +27% Y-Y อยู่ที่ 15 ลบ. แม้คาดยอดขายทรงตัว แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นมากจากการปรับราคาขายได้สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น เราปรับกำไรสุทธิทั้งปี 2017 ขึ้นเป็น 26 ลบ. จาก 17 ลบ. แนวโน้มปีนี้จะสดใสมากขึ้น จากฐานที่ต่ำ การบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้ดีขึ้น รวมถึงตลาดอุปกรณ์การแพทย์ที่จะเริ่มรับรู้กำไรใน 2H18 คาดกำไรสุทธิ +164% Y-Y อยู่ที่ 69 ล้านบาท และคาดจะหนุนให้ปันผลเพิ่มเป็น 4-5% ต่อปีตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจในการลงทุน (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ADB)
(+) MTLS กำไรสุทธิ 4Q17 อยู่ที่ 743 ลบ. +14.2% Q-Q, +54% Y-Y กำไรทั้งปี 2017 อยู่ที่ 2.5 พันลบ. +71% Y-Y ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่น้อยกว่าคาด สินเชื่อโตตามฤดูกาล +10% Q-Q, +51% YTD และ NPL ยังต่ำที่ 1.24% ของสินเชื่อรวม แนวโน้ม 1Q18 โดยปกติยังคงเป็นฤดูกาลที่ดีของสินเชื่อ เราคาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เบื้องต้นเราคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 3.4 พันลบ. (+37% Y-Y) โดยมี Upside จาก Credit cost ที่น้อยกว่าคาดและ Loan Spread ที่ดีกว่าคาด เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปี 2019-2020 คาด +30% เฉลี่ยต่อปี และ ROE ที่ > 30% สูงสุดในกลุ่มการเงิน คงราคาเหมาะสมที่ 48 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร จากเดิมซื้อ
(+) TU กำไรสุทธิ 4Q17 เท่ากับ 1,404 ลบ. (-19.2% Q-Q, +55.7% Y-Y) หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 988 ลบ. (-32% Q-Q, -23.6% Y-Y) (ดีกว่าคาด 6%) สาเหตุที่อ่อนตัว Q-Q เพราะเป็น Low Season แม้รายได้จะทรงตัวจากการฟื้นของคำสั่งซื้อปลาทูน่า แต่ไม่สามารถชดเชยการอ่อนตัวลงของอัตรากำไรขั้นต้น ส่วนกำไรสุทธิทั้งปี 2017 อยู่ที่ 6,021 ลบ. +14.6% Y-Y ไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 4,562 ลบ. -15.2% Y-Y แนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2018 คาด +7.4% Y-Y อยู่ที่ 6,466 ลบ. จากการฟื้นตัวของธุรกิจปลาทูน่า และคาดธุรกิจปลาแซลมอนพลิกมามีกำไร รวมถึงบริษัทย่อยอย่าง COSI และ COSFF จะได้รับผลบวกจากการลดภาษีของสหรัฐฯ เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 23 บาท แนะนำซื้อ
(+) BIG ได้รับผลดีจากการการเปิดตัวกล้อง Fujifirm X-A5 ซึ่งจะเริ่มขายวันนี้เป็นวันแรก โดยฟูจิทุ่มงบอย่างหนักเพื่อหวังสร้างปรากฏการณ์เหมือนตอนเปิดตัว X-A3 โดยได้ BNK48 เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่ได้ใช้งบประมาณของ BIG ถ้าอิงยอดขายของ X-A3 ที่ประสบความสำเร็จมากในปี 2016 ทุก 1 หมื่นตัวที่ขายได้จะมีกำไรสุทธิราว 40 ลบ. หากอิงที่ 3 หมื่นตัวหรือ 10 ตัวต่อสาขาต่อเดือน จะเป็นบวกกับกำไรสุทธิราว 100 ล้านบาท ส่วนกำไร 4Q17 ออกมาดีตามคาด +88% Q-Q และจ่ายปันผล 0.13 บาท/หุ้น ผลตอบแทน 4% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท
(+) FTE กำไรสุทธิ 4Q17 ออกมาตามคาดที่ 36 ลบ. -10% Q-Q ตามฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก แต่เพิ่มขึ้น 10% Y-Y จากงานขายที่ฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ 3Q17 กำไรสุทธิทั้งปี 2017 จบที่ 131 ลบ. +50% Y-Y เราคาดยังเห็นการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในปีนี้ +15% Y-Y จากการฟื้นตัวของงานก่อสร้างและอาคารสูง รวมถึงการทำตลาดเชิงรุกในงานติดตั้งอุปกรณ์อย่างครบวงจรมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีงานในมืออยู่ราว 400 ลบ. ทั้งนี้ FTE ประกาศจ่ายปันผลเฉพาะ 2H17 มากถึง 0.126 บาท/หุ้น ขึ้น XD 17 เม.ย. 18 คิดเป็นผลตอบแทน 4% ถ้ารวมกับงวด 1H17 ปันผลทั้งปีจะสูงถึง 6% ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5 บาท
(+) ADB เรากลับมาแนะนำซื้อ โดยยังคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 2.30 บาท (อิง PE 20 เท่า) ปัจจัยหนุนมาจากคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q17 ที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งน่าจะกลับสู่ระดับปกติที่เคยทำได้ราว 15-20 ลบ.ต่อไตรมาส เราคาด +59% Q-Q, +27% Y-Y อยู่ที่ 15 ลบ. แม้คาดยอดขายทรงตัว แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นมากจากการปรับราคาขายได้สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น เราปรับกำไรสุทธิทั้งปี 2017 ขึ้นเป็น 26 ลบ. จาก 17 ลบ. แนวโน้มปีนี้จะสดใสมากขึ้น จากฐานที่ต่ำ การบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้ดีขึ้น รวมถึงตลาดอุปกรณ์การแพทย์ที่จะเริ่มรับรู้กำไรใน 2H18 คาดกำไรสุทธิ +164% Y-Y อยู่ที่ 69 ล้านบาท และคาดจะหนุนให้ปันผลเพิ่มเป็น 4-5% ต่อปีตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจในการลงทุน (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ADB)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 ก.พ.- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.พ. 18)
22 ก.พ.- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค. 18)
28 ก.พ. - สหรัฐฯ: 4Q17 GDP (ครั้งที่ 2)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ. 18)
(-) ดัชนีดาวโจนส์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นวอลมาร์ทที่ปรับตัวลดลงกว่า 10% หลังจากผลประกอบการไตรมาส4 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานความคืบหน้าในการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ (BREXIT)
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก นำโดยตลาดหุ้นไต้หวันที่ฟื้นตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากการปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วง2สัปดาห์ก่อนหน้า
() ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากดอลลาร์อินเด็กซ์แข็งค่าขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.5-31.6บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 61.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปริมาณการส่งน้ำมันดิบจากแคนนาดาไปสหรัฐมีปริมาณลดลงจากข้อจำกัดของท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน รวมถึงสภาวะตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลงกว่า 25 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,331.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ
21 ก.พ.- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.พ. 18)
22 ก.พ.- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค. 18)
28 ก.พ. - สหรัฐฯ: 4Q17 GDP (ครั้งที่ 2)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ. 18)
(-) ดัชนีดาวโจนส์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นวอลมาร์ทที่ปรับตัวลดลงกว่า 10% หลังจากผลประกอบการไตรมาส4 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานความคืบหน้าในการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ (BREXIT)
(+) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก นำโดยตลาดหุ้นไต้หวันที่ฟื้นตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากการปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วง2สัปดาห์ก่อนหน้า
() ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากดอลลาร์อินเด็กซ์แข็งค่าขึ้น ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.5-31.6บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 61.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปริมาณการส่งน้ำมันดิบจากแคนนาดาไปสหรัฐมีปริมาณลดลงจากข้อจำกัดของท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน รวมถึงสภาวะตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลงกว่า 25 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,331.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5755
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5755