- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 February 2018 16:09
- Hits: 832
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตลอดวันตามคาดก่อนที่จะปิดลบ 7.94 จุด ณ สิ้นวันด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 5 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อคืนว่าจะสร้างความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED หรือไม่ สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,146 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันอีก 1,894 ลบ. (แต่ยังคง Net Long ใน Index Futures อีก 7,526 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 1,800-1,810 จุด แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯจะออกมาสูงกว่าคาด แต่ตลาดไม่ได้ตอบรับในเชิงลบมากอย่างที่คาด โดยเชื่อว่าความกังวลบางส่วนได้สะท้อนไปในการปรับฐานช่วงก่อนหน้าแล้ว ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะฟื้นกลับในวันนี้จากราคาน้ำมันดิบที่พลิกมาบวกแรง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดจะยังมีความผันผวนอยู่จาก Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น เราจึงยังมองกลุ่ม Domestic Play ยังคงน่าสนใจ ขณะที่จังหวะอ่อนตัวของตลาดเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$41ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$153ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$60ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค แม้ว่าสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด แต่ตลาดเลือกให้ความสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THMUI <<
เงินบาทที่กลับมาแข็งค่าเป็นบวกกับ THMUI ที่นำเข้าลวดสลิงจากต่างประเทศมาขายในประเทศมากถึง 70% ของต้นทุนรวม โดยทุก 1% ที่แข็งค่าจะเป็นบวกกับกำไรสุทธิ 5%
แนวโน้มการเติบโตปี 2018 ยังสดใส เริ่มต้นด้วยการขายลวดสลิงให้กลุ่มเสาเข็ม รับเหมาก่อสร้าง พลังงาน และกำลังได้งานส่วนขยายของท่าเรือขนาดใหญ่เพื่อรองรับ EEC รวมถึงงานขายท่อน้ำที่เป็นธุรกิจใหม่ให้กับผู้รับเหมาภาคใต้ เราคาดกำไรสุทธิ +61% Y-Y อยู่ที่ 53 ลบ. จากปี 2017 ที่คาด +73% Y-Y อยู่ที่ 33 ลบ.
PE ปีนี้ 13 เท่า และ PEG ต่ำเพียง 0.4 เท่า ปันผล 4-5% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ THMUI)
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตลอดวันตามคาดก่อนที่จะปิดลบ 7.94 จุด ณ สิ้นวันด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 5 หมื่นลบ. นักลงทุนต่างรอดูตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อคืนว่าจะสร้างความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED หรือไม่ สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,146 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันอีก 1,894 ลบ. (แต่ยังคง Net Long ใน Index Futures อีก 7,526 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 1,800-1,810 จุด แม้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯจะออกมาสูงกว่าคาด แต่ตลาดไม่ได้ตอบรับในเชิงลบมากอย่างที่คาด โดยเชื่อว่าความกังวลบางส่วนได้สะท้อนไปในการปรับฐานช่วงก่อนหน้าแล้ว ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะฟื้นกลับในวันนี้จากราคาน้ำมันดิบที่พลิกมาบวกแรง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดจะยังมีความผันผวนอยู่จาก Bond Yield สหรัฐฯที่ยังปรับตัวขึ้น เราจึงยังมองกลุ่ม Domestic Play ยังคงน่าสนใจ ขณะที่จังหวะอ่อนตัวของตลาดเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : AMATA, BBL, BCH, MGT, SAPPE
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$41ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$153ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$60ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค แม้ว่าสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด แต่ตลาดเลือกให้ความสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THMUI <<
เงินบาทที่กลับมาแข็งค่าเป็นบวกกับ THMUI ที่นำเข้าลวดสลิงจากต่างประเทศมาขายในประเทศมากถึง 70% ของต้นทุนรวม โดยทุก 1% ที่แข็งค่าจะเป็นบวกกับกำไรสุทธิ 5%
แนวโน้มการเติบโตปี 2018 ยังสดใส เริ่มต้นด้วยการขายลวดสลิงให้กลุ่มเสาเข็ม รับเหมาก่อสร้าง พลังงาน และกำลังได้งานส่วนขยายของท่าเรือขนาดใหญ่เพื่อรองรับ EEC รวมถึงงานขายท่อน้ำที่เป็นธุรกิจใหม่ให้กับผู้รับเหมาภาคใต้ เราคาดกำไรสุทธิ +61% Y-Y อยู่ที่ 53 ลบ. จากปี 2017 ที่คาด +73% Y-Y อยู่ที่ 33 ลบ.
PE ปีนี้ 13 เท่า และ PEG ต่ำเพียง 0.4 เท่า ปันผล 4-5% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ THMUI)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) บอร์ด กสทช. มีมติชะลอประมูลคลื่น 900/1800 MHz ออกไปอีก 1-2 เดือนเพื่อรอผลกฤษฎีกาชี้ว่ามีอำนาจหรือไม่ ประเด็นนี้เป็นลบกับ DTAC ที่มีความต้องการคลื่นมากที่สุด แต่เป็นบวกกับ ADVANC และ TRUE จากการคงความได้เปรียบในการแข่งขัน แนะซื้อ ADVANC ราคาเป้าหมาย 220 บาท และในวันเดียวกัน ได้อนุมัติโครงการเน็ตชายขอบเฟส 2 คาดเริ่มประมูลปลาย ก.พ. และรู้ผล พ.ค. เป็นบวกกับ ITEL ที่เป็น 1 ใน 4 ผู้ชนะการประมูลเฟสแรก (TOT TRUE CAT ITEL) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
(+) PRAKIT เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 13.5 เท่า โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะเข้าสู่รอบการฟื้นตัว จากปริมาณงานที่มีมากตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีการกระจายตัวไปยังงานต่อเนื่อง เช่น จัดอีเวนท์ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปี 2017-2018 จะโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่ มูลค่าสินทรัพย์ลงทุนซึ่งปลอดภาระหนี้อยู่ที่ 14.78 บาทต่อหุ้น และคาดปันผลสูง 7-8% ต่อปี อีกทั้ง PE2018 ที่ 11 เท่า ยังไม่ถึงครึ่งของค่าเฉลี่ยระยะยาวกลุ่มมีเดียที่ 25 เท่า Downside ในเชิงปัจจัยพื้นฐานจึงจำกัดมาก
(0) KCE จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ได้รับข้อมูลที่เป็นกลางเชิงลบ โดยปัญหาราคาทองแดงแพงยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แม้จะเริ่มชะลอการปรับขึ้นแต่ยังต้องรอ Supply ใหม่เข้าสู่ตลาด ถึงจะเห็นการปรับตัวลงสู่จุดสมดุลเดิม ขณะที่ การแข็งค่าของเงินบาทที่มากกว่าเงินหยวนยังเป็นปัจจัยลบสำคัญ เพราะคู่แข่งหลักคือจีน ทำให้ KCE ต้องปรับราคาขายลงราว 1.2% Y-Y เราปรับลดกำไรปกติปี 2018 ลง 5.3% เป็นเติบโต 17.3% Y-Y จากเดิมคาดโต 24% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 79 บาท จากเดิม 84 บาท (อิง PE เดิม 17 เท่า) เพื่อสะท้อนผลลบจากการแข็งค่าของเงินบาทยังแนะนำเพียง ถือ
(0) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 4Q17 วันนี้ TOP, STEC, ROBINS
(0) บอร์ด กสทช. มีมติชะลอประมูลคลื่น 900/1800 MHz ออกไปอีก 1-2 เดือนเพื่อรอผลกฤษฎีกาชี้ว่ามีอำนาจหรือไม่ ประเด็นนี้เป็นลบกับ DTAC ที่มีความต้องการคลื่นมากที่สุด แต่เป็นบวกกับ ADVANC และ TRUE จากการคงความได้เปรียบในการแข่งขัน แนะซื้อ ADVANC ราคาเป้าหมาย 220 บาท และในวันเดียวกัน ได้อนุมัติโครงการเน็ตชายขอบเฟส 2 คาดเริ่มประมูลปลาย ก.พ. และรู้ผล พ.ค. เป็นบวกกับ ITEL ที่เป็น 1 ใน 4 ผู้ชนะการประมูลเฟสแรก (TOT TRUE CAT ITEL) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท
(+) PRAKIT เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 13.5 เท่า โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะเข้าสู่รอบการฟื้นตัว จากปริมาณงานที่มีมากตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีการกระจายตัวไปยังงานต่อเนื่อง เช่น จัดอีเวนท์ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปี 2017-2018 จะโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่ มูลค่าสินทรัพย์ลงทุนซึ่งปลอดภาระหนี้อยู่ที่ 14.78 บาทต่อหุ้น และคาดปันผลสูง 7-8% ต่อปี อีกทั้ง PE2018 ที่ 11 เท่า ยังไม่ถึงครึ่งของค่าเฉลี่ยระยะยาวกลุ่มมีเดียที่ 25 เท่า Downside ในเชิงปัจจัยพื้นฐานจึงจำกัดมาก
(0) KCE จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ได้รับข้อมูลที่เป็นกลางเชิงลบ โดยปัญหาราคาทองแดงแพงยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แม้จะเริ่มชะลอการปรับขึ้นแต่ยังต้องรอ Supply ใหม่เข้าสู่ตลาด ถึงจะเห็นการปรับตัวลงสู่จุดสมดุลเดิม ขณะที่ การแข็งค่าของเงินบาทที่มากกว่าเงินหยวนยังเป็นปัจจัยลบสำคัญ เพราะคู่แข่งหลักคือจีน ทำให้ KCE ต้องปรับราคาขายลงราว 1.2% Y-Y เราปรับลดกำไรปกติปี 2018 ลง 5.3% เป็นเติบโต 17.3% Y-Y จากเดิมคาดโต 24% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 79 บาท จากเดิม 84 บาท (อิง PE เดิม 17 เท่า) เพื่อสะท้อนผลลบจากการแข็งค่าของเงินบาทยังแนะนำเพียง ถือ
(0) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบ 4Q17 วันนี้ TOP, STEC, ROBINS
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
15-21 ก.พ.- ตรุษจีน: จีนหยุด 15-21 ก.พ., ฮ่องกงและไต้หวันหยุดถึง 19 ก.พ., เกาหลีหยุดถึง 16 ก.พ., สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเซียหยุดเฉพาะ 16 ก.พ.
16 ก.พ.- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ม.ค. 18)
19 ก.พ.- ไทย: 4Q17 GDP คาด 4.4% จาก 4.3%
21 ก.พ.- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.พ. 18)
22 ก.พ.- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค. 18)
(+) แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ แต่นักลงทุนได้มองข้ามไปถึงผลประกอบการ์บริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐบวกไปกว่า 1.5%
(+) ตัวเลขจีดีพี่ไตรมาส 4 ของเยอรมันนีที่ยังขยายตัวได้ดี รวมไปถึงการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมปิดบวกประมาณ 1-1.5%
(+) หุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยตลาดญี่ปุ่นที่บวกไปกว่า 1.2%
(-) ดอลลาร์อินเด็กซ์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาอยู่ในกรอบ 31.25-31.35 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.41 ดอลลาร์/บาร์เรล (2.4%) มาอยู่ที่ 60.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 27.6 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,358 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
15-21 ก.พ.- ตรุษจีน: จีนหยุด 15-21 ก.พ., ฮ่องกงและไต้หวันหยุดถึง 19 ก.พ., เกาหลีหยุดถึง 16 ก.พ., สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเซียหยุดเฉพาะ 16 ก.พ.
16 ก.พ.- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ม.ค. 18)
19 ก.พ.- ไทย: 4Q17 GDP คาด 4.4% จาก 4.3%
21 ก.พ.- สหรัฐฯ: FOMC Meeting Minutes
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.พ. 18)
22 ก.พ.- ไทย: ดุลการค้า (ม.ค. 18)
(+) แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ แต่นักลงทุนได้มองข้ามไปถึงผลประกอบการ์บริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐบวกไปกว่า 1.5%
(+) ตัวเลขจีดีพี่ไตรมาส 4 ของเยอรมันนีที่ยังขยายตัวได้ดี รวมไปถึงการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมปิดบวกประมาณ 1-1.5%
(+) หุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น นำโดยตลาดญี่ปุ่นที่บวกไปกว่า 1.2%
(-) ดอลลาร์อินเด็กซ์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดค่าเงินบาทแข็งขึ้นมาอยู่ในกรอบ 31.25-31.35 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวสูงขึ้นถึง 1.41 ดอลลาร์/บาร์เรล (2.4%) มาอยู่ที่ 60.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 27.6 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,358 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO5562
