- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 February 2018 15:46
- Hits: 1057
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Today Selections >> AOT, AP, CENTEL
Stock S R Comment
AOT 68.00 69.50 นักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยวไทยเป็นอันดับ 2
AP 8.50 8.80 เติบโตโดดเด่น ฐานลูกค้าแกร่งทุกกลุ่ม Segment
CENTEL 50.50 52.50 ลุย COSI ขยายฐานลูกค้า เสริมทัพโรงแรม
All eyes on CPI
SET : คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในโหมดของการปรับตัว Sideways ย่ำฐานไปอีกสักระยะ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 1 เดือนข้างหน้าที่ 1750 - 1850 จุด
No new high : ทั้งนี้ประเมินว่าดัชนียังจะไม่สามารถทำ New high เหนือระดับ 1850 จุดได้ เนื่องจาก
1) Bond yield สหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยจำกัด Fund flow ที่สำคัญ เนื่องจาก Earning yield gap ถูกบีบแคบลง เพราะ EPS ไม่ได้ถูกปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
2) ปัจจัยภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งอิตาลีในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งนักลงทุนยังไม่ได้ Price in ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สะท้อนจาก CDS ของอิตาลีที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
Nor below 1750 : แต่ก็ไม่คิดว่าดัชนีจะหลุดระดับแนวรับแรกของเราที่ 1750 จุดเช่นกัน เนื่องจาก
1) Bond yield ในประเทศยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งไม่จูงใจให้นักลงทุนในประเทศโยกย้ายเงินออกจากตราสารทุนเข้าสู่ตราสารหนี้
2) สภาพคล่องในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนจากการเติบโตของปริมาณเงินในประเทศที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
Key factors : สำหรับปัจจัยที่เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่
1) อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของสหรัฐฯ โดยในวันนี้ สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนมกราคม ทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 1.9% และ 1.7% ตามลำดับ หากตัวเลขจริงออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ มองจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ Bond yield สหรัฐฯได้
2) Bond yield ของสหรัฐฯและของไทย
3) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
4) ราคาน้ำมันดิบ และปริมาณการถือครอง Long position ของนักลงทุน Hedge Funds ทั่วโลก
5) Dot plots ที่จะออกมาจากการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 มีนาคมนี้ และการ Price in ของตลาด
6) การแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed คนใหม่ต่อสภาสหรัฐฯในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
7) VIX Index
8) CDS ของประเทศอิตาลี
9) ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย
กลยุทธ์การลงทุน : ในสภาวะที่การลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ยังคงแนะนำ Selective การลงทุนไปยังกลุ่มหุ้นปันผลสูง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มี Downside risk ต่ำกว่าตลาด มองตัวหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ AP, PSH, SPRC, TOP, IRPC, TISCO, KKP
แนวรับ 1,792 แนวต้าน 1,810
บทวิเคราะห์วันนี้ :
IRPC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8 บาท) ประกาศกำไรสุทธิ 4,513 ล้านบาท คาดแนวโน้มไตรมาส 1 จะดีขึ้นอย่างโดดเด่นทั้งปริมาณการขายและส่วนต่างราคา
SPRC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท) กำไรออกมา 2.573 ล้านบาท คาดค่าการกลั่นทำจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มค่าการกลั่นกลับมายืน 7 เหรียญฯต่อบาร์เรล อีกครั้ง
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO5521
Stock S R Comment
AOT 68.00 69.50 นักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยวไทยเป็นอันดับ 2
AP 8.50 8.80 เติบโตโดดเด่น ฐานลูกค้าแกร่งทุกกลุ่ม Segment
CENTEL 50.50 52.50 ลุย COSI ขยายฐานลูกค้า เสริมทัพโรงแรม
All eyes on CPI
SET : คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในโหมดของการปรับตัว Sideways ย่ำฐานไปอีกสักระยะ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 1 เดือนข้างหน้าที่ 1750 - 1850 จุด
No new high : ทั้งนี้ประเมินว่าดัชนียังจะไม่สามารถทำ New high เหนือระดับ 1850 จุดได้ เนื่องจาก
1) Bond yield สหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยจำกัด Fund flow ที่สำคัญ เนื่องจาก Earning yield gap ถูกบีบแคบลง เพราะ EPS ไม่ได้ถูกปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
2) ปัจจัยภูมิศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งอิตาลีในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งนักลงทุนยังไม่ได้ Price in ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สะท้อนจาก CDS ของอิตาลีที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
Nor below 1750 : แต่ก็ไม่คิดว่าดัชนีจะหลุดระดับแนวรับแรกของเราที่ 1750 จุดเช่นกัน เนื่องจาก
1) Bond yield ในประเทศยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งไม่จูงใจให้นักลงทุนในประเทศโยกย้ายเงินออกจากตราสารทุนเข้าสู่ตราสารหนี้
2) สภาพคล่องในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนจากการเติบโตของปริมาณเงินในประเทศที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
Key factors : สำหรับปัจจัยที่เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่
1) อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ของสหรัฐฯ โดยในวันนี้ สหรัฐฯจะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนมกราคม ทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 1.9% และ 1.7% ตามลำดับ หากตัวเลขจริงออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ มองจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ Bond yield สหรัฐฯได้
2) Bond yield ของสหรัฐฯและของไทย
3) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
4) ราคาน้ำมันดิบ และปริมาณการถือครอง Long position ของนักลงทุน Hedge Funds ทั่วโลก
5) Dot plots ที่จะออกมาจากการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 มีนาคมนี้ และการ Price in ของตลาด
6) การแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed คนใหม่ต่อสภาสหรัฐฯในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
7) VIX Index
8) CDS ของประเทศอิตาลี
9) ประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย
กลยุทธ์การลงทุน : ในสภาวะที่การลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ยังคงแนะนำ Selective การลงทุนไปยังกลุ่มหุ้นปันผลสูง ซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่มี Downside risk ต่ำกว่าตลาด มองตัวหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ AP, PSH, SPRC, TOP, IRPC, TISCO, KKP
แนวรับ 1,792 แนวต้าน 1,810
บทวิเคราะห์วันนี้ :
IRPC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8 บาท) ประกาศกำไรสุทธิ 4,513 ล้านบาท คาดแนวโน้มไตรมาส 1 จะดีขึ้นอย่างโดดเด่นทั้งปริมาณการขายและส่วนต่างราคา
SPRC (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท) กำไรออกมา 2.573 ล้านบาท คาดค่าการกลั่นทำจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มค่าการกลั่นกลับมายืน 7 เหรียญฯต่อบาร์เรล อีกครั้ง
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO5521
