- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 13 February 2018 17:26
- Hits: 1137
บล.ซีไอเอ็มบี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Investment Strategy
กลยุทธ์ : วันนี้ทาง MSCI ได้ประกาศน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในดัชนี MSCIThailand ปรากฏว่าไม่มีหุ้นที่ได้เข้าไปคำนวณใน Global standard และ Small cap ส่วนน้ำหนักโดยรวมในดัชนี MSCI Thailand ยังต้องติดตาม ประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกต่างกังวลคือ เมื่อดัชนีตลาดหุ้นลงไปสู่ช่วงของการปรับฐานหรือปรับตัวมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดหลังจากนั้นจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะฟื้น หากดูตัวเลขสถิติหลังดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 ลงไปมากกว่า 10% ในช่วงตั้งแต่ปี 1928 ถึงปัจจุบัน โดยเฉลี่ยดัชนี S&P ลงไปประมาณ -16%พบว่าจะใช้เวลา 64 วัน การดีดตัวกลับของดัชนีตลาดหุ้นไทย ในช่วงนี้อาจยังไม่แรง เนื่องจากมีแรงกดของหุ้นในกลุ่มพลังงานหลัก ส่งผลให้เรามองว่ากรอบการดีดตัวในรอบนี้ยังให้ดูที่ประมาณ 1820-1825 จุด หากไม่ผ่าน อาจลงมาเล่นต่ำกว่า 1800 จุดได้อีก หากมีแรงกดรอบใหม่จากความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐรวมทั้งราคาน้ำมันย่อตัวลงต่อ วันนี้มองแนวโน้มดัชนีSET จะขึ้นต่อทะลุ 1800 จุด จากแรงหนุนของการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและการเปิดของตลาดภูมิภาคจากแรงหนุนของการประกาศแผนงบประมาณของนาย Donald Trumpวันนี้มองแนวต้านที่ 1808-1813 จุดและแนวรับที่ 1796-1792 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรIRPC BJC IVL STEC และ MALEE
Themes play :
MINT : เราแนะนำ ซื้อ MINT โดยมีราคาเป้าหมาย 52.50 บาท หลังจากที่ MINT ได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI เพิ่มขึ้น จากการประกาศเมื่อเช้านี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 28 ก.พ. 18 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าซื้อประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นประมาณ 4.4 ล้านหุ้นจากการปรับเพิ่มน้ำหนักในครั้งนี้ ในด้านของพื้นฐาน เราคาดว่า MINT จะมีกำไรปกติเติบโต 41% yoy เป็น 1.9 พันล้านบาทใน 4Q17 ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมทั้งในไทยและต่างประเทศ จากรายได้ต่อห้องพัก(RevPAR) ที่เติบโตสองหลัก ขณะที่เราคาดว่าธุรกิจอาหารจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบเล็กน้อยใน 4Q17 แต่ดีกว่า -2.5% yoy ใน 3Q17 ส่วนธุรกิจอสังหาฯยังไม่แน่นอน ดังนั้น MINT จึงน่าจะทำกำไรปกติได้ตามประมาณการของเราที่ 5.88 พันล้านบาทในปี FY17 หากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายยูนิตของโครงการหรูใน 4Q17 MINTคาดว่าธุรกิจอาหารจะมี SSSG อยู่ที่ +2-3% ในปี FY18 จากประมาณ -1% ในปี FY17สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทให้แนวทางว่า RevPAR ของโรงแรมในไทยจะเติบโต 6-7% yoyโรงแรมในต่างประเทศที่ +10% yoy ในปี FY18 ขณะที่เราประมาณการ SSSG อยู่ที่ 2% ในปีFY18-19 และตั้งสมมติฐาน RevPAR ไว้ค่อนข้าง conservative ที่ 8% ในปี FY18 และ 10%ในปี FY19 จากสถิตินักท่องเที่ยวของไทยที่คาดจะเติบโต 9-10% และเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ
ประเด็นสำคัญในสัปดาห์
14 ก.พ. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 4/60
14 ก.พ. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
14 ก.พ. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนม.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.1%
14 ก.พ. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนม.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่0.4%
คาดการณ์วันประกาศงบไตรมาส 4/60
13 ก.พ. : IRPC, SPRC, KCE
14 ก.พ. : SF, PLAT, RATCH, AOT, LPN, TASCO,SPALI, BTS
15 ก.พ. : ROBINS TOP
Fundamental Stock :
SPA : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 23.50 บาท
QH : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 4.00 บาท
BANKS : Sector Note คำแนะนำ : Overweight Top pick – BBL, KTB, TMB
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1820 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไร
JMT Network Services (JMT TB; THB 38.25) – ซื้อ
United Paper (UTP TB; THB 10.70) – ซื้อ
SET Index : แนวรับ 1790 แนวต้าน 1820
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS.
OO5454
กลยุทธ์ : วันนี้ทาง MSCI ได้ประกาศน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในดัชนี MSCIThailand ปรากฏว่าไม่มีหุ้นที่ได้เข้าไปคำนวณใน Global standard และ Small cap ส่วนน้ำหนักโดยรวมในดัชนี MSCI Thailand ยังต้องติดตาม ประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกต่างกังวลคือ เมื่อดัชนีตลาดหุ้นลงไปสู่ช่วงของการปรับฐานหรือปรับตัวมากกว่า 10% จากจุดสูงสุดหลังจากนั้นจะใช้เวลาเท่าไรถึงจะฟื้น หากดูตัวเลขสถิติหลังดัชนีตลาดหุ้น S&P 500 ลงไปมากกว่า 10% ในช่วงตั้งแต่ปี 1928 ถึงปัจจุบัน โดยเฉลี่ยดัชนี S&P ลงไปประมาณ -16%พบว่าจะใช้เวลา 64 วัน การดีดตัวกลับของดัชนีตลาดหุ้นไทย ในช่วงนี้อาจยังไม่แรง เนื่องจากมีแรงกดของหุ้นในกลุ่มพลังงานหลัก ส่งผลให้เรามองว่ากรอบการดีดตัวในรอบนี้ยังให้ดูที่ประมาณ 1820-1825 จุด หากไม่ผ่าน อาจลงมาเล่นต่ำกว่า 1800 จุดได้อีก หากมีแรงกดรอบใหม่จากความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐรวมทั้งราคาน้ำมันย่อตัวลงต่อ วันนี้มองแนวโน้มดัชนีSET จะขึ้นต่อทะลุ 1800 จุด จากแรงหนุนของการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและการเปิดของตลาดภูมิภาคจากแรงหนุนของการประกาศแผนงบประมาณของนาย Donald Trumpวันนี้มองแนวต้านที่ 1808-1813 จุดและแนวรับที่ 1796-1792 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรIRPC BJC IVL STEC และ MALEE
Themes play :
MINT : เราแนะนำ ซื้อ MINT โดยมีราคาเป้าหมาย 52.50 บาท หลังจากที่ MINT ได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในดัชนี MSCI เพิ่มขึ้น จากการประกาศเมื่อเช้านี้ โดยจะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันที่ 28 ก.พ. 18 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าซื้อประมาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นประมาณ 4.4 ล้านหุ้นจากการปรับเพิ่มน้ำหนักในครั้งนี้ ในด้านของพื้นฐาน เราคาดว่า MINT จะมีกำไรปกติเติบโต 41% yoy เป็น 1.9 พันล้านบาทใน 4Q17 ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมทั้งในไทยและต่างประเทศ จากรายได้ต่อห้องพัก(RevPAR) ที่เติบโตสองหลัก ขณะที่เราคาดว่าธุรกิจอาหารจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบเล็กน้อยใน 4Q17 แต่ดีกว่า -2.5% yoy ใน 3Q17 ส่วนธุรกิจอสังหาฯยังไม่แน่นอน ดังนั้น MINT จึงน่าจะทำกำไรปกติได้ตามประมาณการของเราที่ 5.88 พันล้านบาทในปี FY17 หากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายยูนิตของโครงการหรูใน 4Q17 MINTคาดว่าธุรกิจอาหารจะมี SSSG อยู่ที่ +2-3% ในปี FY18 จากประมาณ -1% ในปี FY17สำหรับธุรกิจโรงแรม บริษัทให้แนวทางว่า RevPAR ของโรงแรมในไทยจะเติบโต 6-7% yoyโรงแรมในต่างประเทศที่ +10% yoy ในปี FY18 ขณะที่เราประมาณการ SSSG อยู่ที่ 2% ในปีFY18-19 และตั้งสมมติฐาน RevPAR ไว้ค่อนข้าง conservative ที่ 8% ในปี FY18 และ 10%ในปี FY19 จากสถิตินักท่องเที่ยวของไทยที่คาดจะเติบโต 9-10% และเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ
ประเด็นสำคัญในสัปดาห์
14 ก.พ. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 4/60
14 ก.พ. : การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยตลาดคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
14 ก.พ. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนม.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.1%
14 ก.พ. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนม.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่0.4%
คาดการณ์วันประกาศงบไตรมาส 4/60
13 ก.พ. : IRPC, SPRC, KCE
14 ก.พ. : SF, PLAT, RATCH, AOT, LPN, TASCO,SPALI, BTS
15 ก.พ. : ROBINS TOP
Fundamental Stock :
SPA : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 23.50 บาท
QH : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 4.00 บาท
BANKS : Sector Note คำแนะนำ : Overweight Top pick – BBL, KTB, TMB
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1820 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไร
JMT Network Services (JMT TB; THB 38.25) – ซื้อ
United Paper (UTP TB; THB 10.70) – ซื้อ
SET Index : แนวรับ 1790 แนวต้าน 1820
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS.
OO5454