- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 February 2018 16:30
- Hits: 694
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1795-1800 แนวต้าน 1820
SET Index: 1810.46 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1795-1800 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณ 1810 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับฐานของ SET Index น่าจะมีแนวรับที่บริเวณ 1795-1800 จุด ดังนั้น แนวโน้มในระยะสั้น เพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1800 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1790 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1760 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม โดยมีแนวต้านของการฟื้นตัวที่ 1820 จุด
แนวต้าน : 1812 และ 1815
แนวรับ : 1808 และ 1804
PTT = 498/504, BANPU = 21.50/22.00, LH = 11.00/11.20, IVL = 54.00/55.00, AOT = 69.00/70.00
Workpoint Entertainment (WORK TB; THB 82.25) -ซื้อ
แนวต้าน : 85.00 และ 86.00
แนวรับ : 82.25 และ 82.00
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ WORK โดยมีแนวรับที่ 82.25 และ 82.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 85.00 และ 86.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 80.00 ลงไป
Namyong Terminal (NYT TB; THB 6.65) -ซื้อ
แนวต้าน : 7.00 และ 7.10 / แนวต้านสำคัญ 7.40
แนวรับ : 6.65 และ 6.55
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ NYT โดยมีแนวรับที่ 6.65 และ 6.55 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไป ทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.30 ลงไป
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
SET Index: แนวรับ 1795-1800 แนวต้าน 1820
SET Index: 1810.46 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1795-1800 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดที่บริเวณ 1810 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับฐานของ SET Index น่าจะมีแนวรับที่บริเวณ 1795-1800 จุด ดังนั้น แนวโน้มในระยะสั้น เพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1800 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1790 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1760 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม โดยมีแนวต้านของการฟื้นตัวที่ 1820 จุด
แนวต้าน : 1812 และ 1815
แนวรับ : 1808 และ 1804
PTT = 498/504, BANPU = 21.50/22.00, LH = 11.00/11.20, IVL = 54.00/55.00, AOT = 69.00/70.00
Workpoint Entertainment (WORK TB; THB 82.25) -ซื้อ
แนวต้าน : 85.00 และ 86.00
แนวรับ : 82.25 และ 82.00
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ WORK โดยมีแนวรับที่ 82.25 และ 82.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 85.00 และ 86.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 80.00 ลงไป
Namyong Terminal (NYT TB; THB 6.65) -ซื้อ
แนวต้าน : 7.00 และ 7.10 / แนวต้านสำคัญ 7.40
แนวรับ : 6.65 และ 6.55
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ NYT โดยมีแนวรับที่ 6.65 และ 6.55 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไป ทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.30 ลงไป
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ปรับตัวลงตามภูมิภาค
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนอย่างหนักโดยดัชนีดาวโจนส์ลงไปมากกว่า 600 จุด เหตุมาจากตลาดเริ่มกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐจะขึ้นเร็วกว่าคาดและบางส่วนมองจะขึ้นมากกว่า 3 ครั้ง โดยปัจจัยที่หนุนให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น คือ ตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรเดือน ม.ค. พุ่งขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าแรงพุ่งขึ้น 2.9% (YoY) แนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นยังไปหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐพุ่งขึ้นไปที่ 2.85% เทียบวันพฤหัสบดีที่ 2.72% และต้นปีที่2.46% การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐ ส่วนหนึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทจะเพิ่มขึ้น และหากเพิ่มขึ้นไปอีกความน่าดึงดูดใจในพันธบัตรจะมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
แม้จะยังไม่มีใครทราบว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะลงได้อีกเท่าไร หรือจะรีบาวน์กลับ แต่ในช่วงที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรยังทรงตัวในระดับสูง น่าจะยังกดดันตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ โดยเรามองว่าในช่วงอีก 2-3 วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะมองหาจุดต่ำสุดหรือยังแกว่งตัวลง เพราะดูเหมือนการปรับตัวลงในระดับมากกว่า 600 จุดจะไม่ได้เห็นนานแล้ว การปรับตัวลงแรงในวันเดียวเกิดล่าสุดคือในเดือน ก.ย. 2016 ดังนั้นประเด็นทีต้องติดตาม ในสัปดาห์นี้คือ 1. การประมูลพันธบัตรของสหรัฐมูลค่า 66 พันล้านดอลลาร์ 2. การเจรจาเรื่อง เพดานหนี้ในวันที่ 8 ม.ค. และ 3.ผลการดำเนินงาน Q4/17 โดยประเด็นหลังคาดกันว่าจะเป็นตัวพยุงไม่ให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงไปลึกมากๆ เพราะยังออกมาดีมากๆ
การปรับตัวลงในระดับมากกว่า 600 จุด ตลาดยังคงมองว่าน่าจะลงไปต่อ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พวกที่มองว่าจะลงไปประมาณ 10% และที่มองประมาณ 6-7% เรามองว่าโอกาสการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐในรอบนี้ น่าจะอยู่ในระดับ 6-7% เพราะยังเชื่อว่างบใน Q4/17 และทั้งปี2018 จะยังเติบโตรวมทั้งเศรษฐกิจ สำหรับการลงในระดับ 6-7% มาจากค่าเฉลี่ยของการลงแรงๆ รอบ 1 วันในอดีดประมาณ 40 ครั้งตั้งแต่ปี1899 โดยที่ลงมากที่สุดที่ -22.61% (Black Monday ปี 1987) แต่เฉลี่ยในช่วงหลังๆ จะลงไปประมาณ 6-7% ปัจจุบันดาวโจนส์ ลงไปแล้ว -4.1%ก็เหลือลงได้อีก 2-3% (หากรอบนี้ลงประมาณ 6-7%)
ความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยปกติจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกและราคาน้ำมัน สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เรามองว่าจะมีช่วงแรกๆ ตามภูมิภาคเพราะต่างชาติถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยไม่มาก แต่อย่างไรก็ตามผลที่น่าจะกระทบกับตลาดแม้ต่างชาติถือหุ้นไทยน้อย คือผลกระทบผ่านราคาน้ำมัน โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลง แต่ไม่มาก หลังจากนี้หากตลาดหุ้นสหรัฐยังปรับตัวลง เรามองว่าราคาน้ำมันน่าจะลงได้ต่อ เพราะให้ค่าสหสัมพันธ์ในเชิงบวกที่สูงมากๆ ในรูปด้านซ้าย (หุ้นขึ้น-ราคาน้ำมันขึ้น) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นพลังงานของไทย ส่วนรูปขวา เราแสดงค่าการเคลื่อนไหวของดัชนี SET เทียบดาวโจนส์ในรอบ 3 ปี โดยความชันของการขึ้นในปี 2017 ถึงปัจจุบันมีสูงมาก
วันนี้เปิดขึ้นดัชนี SET น่าจะดิ่งลงตามดัชนีในภูมิภาค และการเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ล่วงหน้า โดยเรามองว่าหากลงไปลึกอาจมีการรีบาวน์ในช่วงสั้น แล้วอาจลงได้ใหม่ ขึ้นอยู่กับทิศทางอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรในสหรัฐ การเข้าซื้อ ยังให้ดูทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐอีก 2-3 วัน วันนี้มองแนวรับที่ 1810-1805 จุด แนวต้านที่ 1815-1820 จุด วันนี้ไม่มีหุ้นแนะนำเก็งกำไร เพราะมองตลาดยังไม่นิ่งคือยังผันผวนอีกในช่วง 1-2 วัน
วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนอย่างหนักโดยดัชนีดาวโจนส์ลงไปมากกว่า 600 จุด เหตุมาจากตลาดเริ่มกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐจะขึ้นเร็วกว่าคาดและบางส่วนมองจะขึ้นมากกว่า 3 ครั้ง โดยปัจจัยที่หนุนให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น คือ ตัวเลขการจ้างานนอกภาคเกษตรเดือน ม.ค. พุ่งขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าแรงพุ่งขึ้น 2.9% (YoY) แนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นยังไปหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐพุ่งขึ้นไปที่ 2.85% เทียบวันพฤหัสบดีที่ 2.72% และต้นปีที่2.46% การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐ ส่วนหนึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทจะเพิ่มขึ้น และหากเพิ่มขึ้นไปอีกความน่าดึงดูดใจในพันธบัตรจะมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น
แม้จะยังไม่มีใครทราบว่าดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะลงได้อีกเท่าไร หรือจะรีบาวน์กลับ แต่ในช่วงที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรยังทรงตัวในระดับสูง น่าจะยังกดดันตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ โดยเรามองว่าในช่วงอีก 2-3 วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะมองหาจุดต่ำสุดหรือยังแกว่งตัวลง เพราะดูเหมือนการปรับตัวลงในระดับมากกว่า 600 จุดจะไม่ได้เห็นนานแล้ว การปรับตัวลงแรงในวันเดียวเกิดล่าสุดคือในเดือน ก.ย. 2016 ดังนั้นประเด็นทีต้องติดตาม ในสัปดาห์นี้คือ 1. การประมูลพันธบัตรของสหรัฐมูลค่า 66 พันล้านดอลลาร์ 2. การเจรจาเรื่อง เพดานหนี้ในวันที่ 8 ม.ค. และ 3.ผลการดำเนินงาน Q4/17 โดยประเด็นหลังคาดกันว่าจะเป็นตัวพยุงไม่ให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงไปลึกมากๆ เพราะยังออกมาดีมากๆ
การปรับตัวลงในระดับมากกว่า 600 จุด ตลาดยังคงมองว่าน่าจะลงไปต่อ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พวกที่มองว่าจะลงไปประมาณ 10% และที่มองประมาณ 6-7% เรามองว่าโอกาสการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐในรอบนี้ น่าจะอยู่ในระดับ 6-7% เพราะยังเชื่อว่างบใน Q4/17 และทั้งปี2018 จะยังเติบโตรวมทั้งเศรษฐกิจ สำหรับการลงในระดับ 6-7% มาจากค่าเฉลี่ยของการลงแรงๆ รอบ 1 วันในอดีดประมาณ 40 ครั้งตั้งแต่ปี1899 โดยที่ลงมากที่สุดที่ -22.61% (Black Monday ปี 1987) แต่เฉลี่ยในช่วงหลังๆ จะลงไปประมาณ 6-7% ปัจจุบันดาวโจนส์ ลงไปแล้ว -4.1%ก็เหลือลงได้อีก 2-3% (หากรอบนี้ลงประมาณ 6-7%)
ความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยปกติจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกและราคาน้ำมัน สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย เรามองว่าจะมีช่วงแรกๆ ตามภูมิภาคเพราะต่างชาติถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยไม่มาก แต่อย่างไรก็ตามผลที่น่าจะกระทบกับตลาดแม้ต่างชาติถือหุ้นไทยน้อย คือผลกระทบผ่านราคาน้ำมัน โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลง แต่ไม่มาก หลังจากนี้หากตลาดหุ้นสหรัฐยังปรับตัวลง เรามองว่าราคาน้ำมันน่าจะลงได้ต่อ เพราะให้ค่าสหสัมพันธ์ในเชิงบวกที่สูงมากๆ ในรูปด้านซ้าย (หุ้นขึ้น-ราคาน้ำมันขึ้น) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นพลังงานของไทย ส่วนรูปขวา เราแสดงค่าการเคลื่อนไหวของดัชนี SET เทียบดาวโจนส์ในรอบ 3 ปี โดยความชันของการขึ้นในปี 2017 ถึงปัจจุบันมีสูงมาก
วันนี้เปิดขึ้นดัชนี SET น่าจะดิ่งลงตามดัชนีในภูมิภาค และการเคลื่อนไหวของดาวโจนส์ล่วงหน้า โดยเรามองว่าหากลงไปลึกอาจมีการรีบาวน์ในช่วงสั้น แล้วอาจลงได้ใหม่ ขึ้นอยู่กับทิศทางอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรในสหรัฐ การเข้าซื้อ ยังให้ดูทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐอีก 2-3 วัน วันนี้มองแนวรับที่ 1810-1805 จุด แนวต้านที่ 1815-1820 จุด วันนี้ไม่มีหุ้นแนะนำเก็งกำไร เพราะมองตลาดยังไม่นิ่งคือยังผันผวนอีกในช่วง 1-2 วัน
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,810.46 จุด ลดลง 16.89 จุด (-0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 51,034.62 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ดิ่งลงแรงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขยายตัวสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ 2.9% บ้านเรามีแรงขายนำในกลุ่มพลังงานธนาคาร อสังหาฯ ขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ หลังเงินบาทอ่อนค่า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ช่วงเช้าตลาดปรับตัวลดลงแรงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังตลาดคลายความกังวลต่อแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยตลาด Dow Jones future เริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา ทำให้คาดว่าในช่วงบ่ายแรงขายน่าจะชะลอตัวลง ทางเทคนิค หาก SET Index ปิดเกินระดับ1810 จุด น่าจะทำให้มีแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรและรีบาวน์กลับในวันพรุ่งนี้ โดยมีเป้ารีบาวน์ที่ SET Index บริเวณ1822 จุด ส่วนแนวรับหลักจะอยู่ที่ระดับ 1800 จุด ภาพระยะกลางเราคาดว่าภาวะตลาดยังอยู่ในรูปแบบเดิม คือแกว่ง sideway ในระหว่างวัน โดยมักจะมีแรงซื้อสลับแรงขายในระหว่างวันไปมา ทำให้ภาพตลาดโดยรวมจะยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ตลาดยังขาดทั้งปัจจัยและเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน กลยุทธ์หลักยังเน้น เด้งแรงขาย ลงแรงซื้อกลับ แนะนำ JAS IRPC BANPU
Technical Pick (PM) ...
Workpoint Entertainment (WORK TB; THB 82.25) - ซื้อ
Namyong Terminal (NYT TB; THB 6.65) - ซื้อ
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,810.46 จุด ลดลง 16.89 จุด (-0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 51,034.62 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ดิ่งลงแรงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขยายตัวสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ 2.9% บ้านเรามีแรงขายนำในกลุ่มพลังงานธนาคาร อสังหาฯ ขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ หลังเงินบาทอ่อนค่า
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ช่วงเช้าตลาดปรับตัวลดลงแรงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา หลังตลาดคลายความกังวลต่อแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยตลาด Dow Jones future เริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา ทำให้คาดว่าในช่วงบ่ายแรงขายน่าจะชะลอตัวลง ทางเทคนิค หาก SET Index ปิดเกินระดับ1810 จุด น่าจะทำให้มีแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรและรีบาวน์กลับในวันพรุ่งนี้ โดยมีเป้ารีบาวน์ที่ SET Index บริเวณ1822 จุด ส่วนแนวรับหลักจะอยู่ที่ระดับ 1800 จุด ภาพระยะกลางเราคาดว่าภาวะตลาดยังอยู่ในรูปแบบเดิม คือแกว่ง sideway ในระหว่างวัน โดยมักจะมีแรงซื้อสลับแรงขายในระหว่างวันไปมา ทำให้ภาพตลาดโดยรวมจะยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ตลาดยังขาดทั้งปัจจัยและเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน กลยุทธ์หลักยังเน้น เด้งแรงขาย ลงแรงซื้อกลับ แนะนำ JAS IRPC BANPU
Technical Pick (PM) ...
Workpoint Entertainment (WORK TB; THB 82.25) - ซื้อ
Namyong Terminal (NYT TB; THB 6.65) - ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO5222
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 - [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO5222