- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 February 2018 16:17
- Hits: 667
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานนี้ SET แกว่งตัวลงในช่วงบ่าย ตามตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลง โดยหุ้นที่กดดันดัชนีหลัก เช่น SCB, PTTGC, EA, CPN, BANPU ขณะที่กลุ่มที่พยายามพยุงดัชนี นำโดยพลังงานและธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น PTTEP, PTT, BBL, KBANK อย่างไรก็ดีไม่สามารถต้านทานแรงขายได้ ส่งผลให้ ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,827.35 จุด (-6.25 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 6.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,763 ล้านบาท แต่เปิดสถานะ Long SET50 index future 16,385 สัญญา ต่อเนื่อง
Investment theme
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ขยับขึ้นต่อเนื่อง : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงกว่า -2.5% ถือว่าเป็นการปรับตัวลงแรงสุดในรอบกว่าปีครึ่ง จากความกังวลของทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.854% ขานรับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นตัวด้านภาคแรงงานสหรัฐฯที่ขยายตัวเด่น สะท้อนจากการรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐฯ เดือน มค. ที่ขยายตัวกว่า 2 แสนตำแหน่ง มากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.84 แสนตำแหน่ง และมากกว่าคาดที่ 1.6 แสนตำแหน่ง ผสานกับถ้อยแถลงเพิ่มเติมของ นาย Robert Kaplan ประธาน FED สาขาดัลลัส ที่ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เงินเฟ้อมีโอกาสเร่งตัวขึ้น คาดจะหนุนให้ FED มีโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ขึ้นมากกว่า 3 ครั้ง (consensus ประเมิน 3 ครั้ง) ซึ่งถือเป็นตัวที่เข้ามากดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด EM มีโอกาสไหลไปพักในจุดที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าได้
Investment theme: จังหวะ Panic (ตลาดลบมากกว่า -2%) เป็นจังหวะที่ดีในการสะสมกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจฟื้นตัว นำโดย ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน, ท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 4Q60 เด่น
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – การจ้างงานนอกภาคเกษตร US เดือน มค. ที่ 2 แสนตำแหน่ง ดีกว่าคาดที่ 1.6 แสนตำแหน่ง / จำนวนแท่นจุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ ปรับตัวขึ้น +6 แท่น สู่ 765 แท่น / Dollar Index แข็งขึ้นเล็กน้อยสู่ 89.197 จุด / อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ10 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับ 2.854% / VIX index เร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 17.31 จุด
Market summary
เมื่อวานนี้ SET แกว่งตัวลงในช่วงบ่าย ตามตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลง โดยหุ้นที่กดดันดัชนีหลัก เช่น SCB, PTTGC, EA, CPN, BANPU ขณะที่กลุ่มที่พยายามพยุงดัชนี นำโดยพลังงานและธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น PTTEP, PTT, BBL, KBANK อย่างไรก็ดีไม่สามารถต้านทานแรงขายได้ ส่งผลให้ ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,827.35 จุด (-6.25 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 6.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,763 ล้านบาท แต่เปิดสถานะ Long SET50 index future 16,385 สัญญา ต่อเนื่อง
Investment theme
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ขยับขึ้นต่อเนื่อง : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงกว่า -2.5% ถือว่าเป็นการปรับตัวลงแรงสุดในรอบกว่าปีครึ่ง จากความกังวลของทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.854% ขานรับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นตัวด้านภาคแรงงานสหรัฐฯที่ขยายตัวเด่น สะท้อนจากการรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐฯ เดือน มค. ที่ขยายตัวกว่า 2 แสนตำแหน่ง มากกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.84 แสนตำแหน่ง และมากกว่าคาดที่ 1.6 แสนตำแหน่ง ผสานกับถ้อยแถลงเพิ่มเติมของ นาย Robert Kaplan ประธาน FED สาขาดัลลัส ที่ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เงินเฟ้อมีโอกาสเร่งตัวขึ้น คาดจะหนุนให้ FED มีโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ขึ้นมากกว่า 3 ครั้ง (consensus ประเมิน 3 ครั้ง) ซึ่งถือเป็นตัวที่เข้ามากดดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด EM มีโอกาสไหลไปพักในจุดที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าได้
Investment theme: จังหวะ Panic (ตลาดลบมากกว่า -2%) เป็นจังหวะที่ดีในการสะสมกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจฟื้นตัว นำโดย ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน, ท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 4Q60 เด่น
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – การจ้างงานนอกภาคเกษตร US เดือน มค. ที่ 2 แสนตำแหน่ง ดีกว่าคาดที่ 1.6 แสนตำแหน่ง / จำนวนแท่นจุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ ปรับตัวขึ้น +6 แท่น สู่ 765 แท่น / Dollar Index แข็งขึ้นเล็กน้อยสู่ 89.197 จุด / อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ10 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับ 2.854% / VIX index เร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 17.31 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ในสถานการณ์ที่ตลาดเริ่มกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล US ที่ปรับตัวสูง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดี แต่ระดับ Valuation ระยะสั้นในตลาดหุ้นอาจอยู่ในจุดที่ตึงตัว จึงคาด SET อาจเกิดการปรับฐานสั้นได้ โดยวันนี้ระหว่างวันอาจเหวี่ยงลงแรงราว -1.3% ถึง -2.5% (แรงกดดันเสริมจาก Block Trade และ Margin)
สำหรับผู้ที่มีพอร์ตการลงทุนในหุ้น 100% อาจจำเป็นต้องลดหุ้น เพื่อถือครองเงินสดบางส่วน เพื่อรอการซื้อกลับในจังหวะที่เกิด Pasic Sell
ในกรณีที่ SET เปิดลงแรงกว่า -2% อาจไม่ใช้จังหวะที่เหมาะสมในการขายหุ้นแล้ว ในขณะที่กลุ่มเก็งกำไรที่มีเงินสดในพอร์ต อาจใช้จังหวะที่ตลาด panic (ลบเกิน 2%) เป็นจังหวะในการเล่นเก็งกำไรได้ ระมัดระวังกลุ่มที่โดนแรงกดดันจากดอกเบี้ยปรับขึ้น หรือกลุ่มที่มี D/E สูง เช่น กลุ่มอสังหาฯ, Consumer Finance, รับเหมาก่อสร้าง และโรงไฟฟ้าที่ไม่มี Growth อาจโดนแรงขายได้
จังหวะ Panic เป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจฟื้นตัว นำโดย ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน, ท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 4Q60 เด่น
Technical View
ในสถานการณ์ที่ตลาดเริ่มกังวลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล US ที่ปรับตัวสูง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดี แต่ระดับ Valuation ระยะสั้นในตลาดหุ้นอาจอยู่ในจุดที่ตึงตัว จึงคาด SET อาจเกิดการปรับฐานสั้นได้ โดยวันนี้ระหว่างวันอาจเหวี่ยงลงแรงราว -1.3% ถึง -2.5% (แรงกดดันเสริมจาก Block Trade และ Margin)
สำหรับผู้ที่มีพอร์ตการลงทุนในหุ้น 100% อาจจำเป็นต้องลดหุ้น เพื่อถือครองเงินสดบางส่วน เพื่อรอการซื้อกลับในจังหวะที่เกิด Pasic Sell
ในกรณีที่ SET เปิดลงแรงกว่า -2% อาจไม่ใช้จังหวะที่เหมาะสมในการขายหุ้นแล้ว ในขณะที่กลุ่มเก็งกำไรที่มีเงินสดในพอร์ต อาจใช้จังหวะที่ตลาด panic (ลบเกิน 2%) เป็นจังหวะในการเล่นเก็งกำไรได้ ระมัดระวังกลุ่มที่โดนแรงกดดันจากดอกเบี้ยปรับขึ้น หรือกลุ่มที่มี D/E สูง เช่น กลุ่มอสังหาฯ, Consumer Finance, รับเหมาก่อสร้าง และโรงไฟฟ้าที่ไม่มี Growth อาจโดนแรงขายได้
จังหวะ Panic เป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และเศรษฐกิจฟื้นตัว นำโดย ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน, ท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 4Q60 เด่น
Technical View
ระยะกลางไม่ควรหลุด 1815 : ดัชนีแกว่ง Sideway Down ในช่วงเช้า จากนั้นในช่วงบ่ายปรับตัวลงแรง แม้ระยะยาวดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ Uptrend Channel แต่ระยะกลางมองว่าดัชนียังแกว่ง Sideway ในกรอบ 1815-1840 ซึ่ง 1815 ถือเป็นแนวรับกรอบ Uptrend ระยะยาวด้วย จึงมองว่าดัชนีไม่ควรหลุดแนวรับดังกล่าว เนื่องจากหากหลุดจะเสียโมเมนตัมการแกว่งขึ้นในกรอบ Uptrend หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1800 กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น หาก Rebound ถึงแนวต้าน แนะนำขาย, ลงทุนระยะกลาง หากหลุด 1815 ทยอยลดพอร์ตการลงทุน 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1815-1838
แนวรับ : 1820 1815 แนวต้าน : 1832, 1838
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 กพ. จับตาเส้นตายการขยายเพดานหนี้ US
ปัจจัยในประเทศ : 5 กพ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย (มค.)
แนวรับ : 1820 1815 แนวต้าน : 1832, 1838
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 8 กพ. จับตาเส้นตายการขยายเพดานหนี้ US
ปัจจัยในประเทศ : 5 กพ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย (มค.)
หุ้นเทคนิค:
PTTGC (B 93.00, Tp 97.00//100.00, Cut 92.00)
IRPC (B 7.30, Tp 7.70, Cut 7.20)
PTTGC (B 93.00, Tp 97.00//100.00, Cut 92.00)
IRPC (B 7.30, Tp 7.70, Cut 7.20)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5218
Research Department Tel. 02-658-5000
OO5218