- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 September 2014 16:25
- Hits: 1736
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Sideways Up ไปที่ 1,580-1,600 จุด: SET ปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้านย่อย 1,570 จุด อีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ปิดตลาดที่ 1,565.35 จุด +0.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,505 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideways Up ไปที่เป้าหมาย 1,580-1,600 จุด จากพัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง ความคืบหน้าโครงการลงทุนภาครัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังประชุม ครม. ขณะที่ถ้าพิจารณาทางเทคนิคแม้จะมีความเสี่ยงจากสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้น แต่คาดว่าระยะการพักฐานจะจำกัดที่บริเวณ MAV20 วัน หรือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนบริเวณ 1,550 จุดเท่านั้น...สำหรับตลาดหุ้น Dow Jones ปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา
“ซื้อ” ธนาคาร รับเหมาฯ...และ “ทยอยสะสม” TUF: เราแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มธนาคาร และรับเหมาฯ อย่าง KBANK BBL KTB CK และ STEC เนื่องจากได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และความชัดเจนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังแนะนำ “ทยอยสะสม” TUF คาดการณ์กำไรเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 3Q14-4Q14 จากต้นทุนวัตถุดิบราคาต่ำ คาดกำไรเติบโตแกร่ง 75-27% ในปี 2014-15
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI และ STEC เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio
AOT…”ซื้อ” เป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 260-280 บาท: การ “พักฐาน” ของ AOT (เลือก AOT เป็นหุ้นในรายงาน Trigger Five วันที่ 1 ก.ย.) ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหลังทดสอบแนวต้านย่อยบริเวณ 240-244 บาท เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยประเมินเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 260-280 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และจากนโยบายยกเว้นค่าธรรมเนียม VISA นักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า 2) สถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ และโอกาสในการยกเลิกกฎอัยการศึก จะเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรท่องเที่ยวในช่วง 4Q14 3) การเปิดสนามบินดอนเมืองระยะที่ 2 เพิ่มความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เน้นการเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาแม้นักท่องเที่ยวผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ -24% y-y ในเดือน มิ.ย. แต่นักท่องเที่ยวผ่านดอนเมืองยัง +18% y-y และ 4) การลดงบประมาณลงทุนสุวรรณภูมิ Phase 2 เป็นปัจจัยบวกต่อ Valuation
Technical
ตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นต่อ : แนวโน้มย่อยปรับลดความชันลงเล็กน้อยเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้น ดัชนี SET ยังคงยืนอยู่เหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 7-14-21 วัน มีโอกาสทำยอดสูงสุดใหม่ ขึ้นสู่เป้าหมาย 1590-1600 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1563-1570 จุด มีจุดตัดขาดทุนระยะสั้นที่ 1555-1560 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : WHA จังหวะทะลุผ่าน 36.50 บาท เป็นสัญญาณซื้อ มีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะขึ้นทดสอบยอดเดิม 39.00-40.00 บาท SGP อยู่ในช่วงซื้อสะสม เนื่องจากราคาฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับ 14.40 บาท มีโอกาสทะลุผ่าน 15.20 บาท เป้าหมายแนวต้านอยู่ที่ 16.00 บาท CENTEL ทะลุผ่านยอดเดิม 40.75 บาท เป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 43.00 และมีเป้าหมายสำคัญที่ระดับ 45.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ ”ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,050-1,060 จุด อย่างไรก็ตามเนื่องจาก S50U14 ไม่สามารถยืนได้เหนือ 1,044 จุด วานนี้ ทำให้คาดว่าการปรับสูงขึ้นยังมีความผันผวนสูง ควรกำหนด Trailing Stop ที่ 1,040 จุด เพื่อจำกัดความเสี่ยงในกรณี SET50 อ่อนแอกว่าคาด
Gold Futures: แนะนำ ”ถือ” สถานะ Short สัญญา GFV14 โดยคงเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,250 บาท หรือถัดไปที่ 18,600 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,750 บาท
Oil Futures: แนะนำ ”Trading” ในกรอบ 3280-3330 บาท สำหรับสัญญา BRU14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยแม้ว่าจะเกิดสัญญาณ “ฟื้นตัว” ระยะสั้น ของราคาน้ำมันดิบ Brent อย่างไรก็ตามการปรับสูงขึ้นยังมี Upside จำกัดที่บริเวณแนวต้าน 3330
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล