- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 31 January 2018 16:18
- Hits: 1251
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1815 แนวต้าน 1828-1830
SET Index: 1827.08 ปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1820 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1827 จุด ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านของการฟื้นตัวในระยะสั้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลังจากถูกขายทำกำไรที่แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1840-1850 จุด และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1815 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1790 จุด
แนวต้าน : 1828 และ 1830
แนวรับ : 1820 และ 1815
PTTEP = 115/117, PTT = 488/494, AOT = 70.00/71.00, BANPU = 228/234, BANPU = 22.00/22.50
Triple I Logistics (III TB; THB 8.55) – ซื้อ
แนวต้าน : 9.00 และ 9.20 / แนวต้านสำคัญ 9.50
แนวรับ : 8.50 และ 8.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ III โดยมีแนวรับที่ 8.50 และ 8.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 และ 9.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 8.00 ลงไป
Applied DB (ADB TB; THB 1.73) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.90 และ 1.95 / แนวต้านสำคัญ 2.20
แนวรับ : 1.73 และ 1.72
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ ADB โดยมีแนวรับที่ 1.73 และ 1.72 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.90 และ 1.95 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.64 ลงไป
SET Index: 1827.08 ปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1820 จุดก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1827 จุด ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านของการฟื้นตัวในระยะสั้น เนื่องจากแนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลังจากถูกขายทำกำไรที่แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1840-1850 จุด และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1815 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1790 จุด
แนวต้าน : 1828 และ 1830
แนวรับ : 1820 และ 1815
PTTEP = 115/117, PTT = 488/494, AOT = 70.00/71.00, BANPU = 228/234, BANPU = 22.00/22.50
Triple I Logistics (III TB; THB 8.55) – ซื้อ
แนวต้าน : 9.00 และ 9.20 / แนวต้านสำคัญ 9.50
แนวรับ : 8.50 และ 8.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ III โดยมีแนวรับที่ 8.50 และ 8.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.00 และ 9.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 8.00 ลงไป
Applied DB (ADB TB; THB 1.73) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.90 และ 1.95 / แนวต้านสำคัญ 2.20
แนวรับ : 1.73 และ 1.72
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ ADB โดยมีแนวรับที่ 1.73 และ 1.72 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.90 และ 1.95 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.64 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ราคาน้ำมันทิศทางดีแต่ช่วงสั้นอาจพักตัว
ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวก หลังปริมาณการใช้จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก พวก Money manager ยัง Longposition สูงเป็นประวัติการณ์ ปริมาณการผลิตในเวเนซูเอล่าลดลง การลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC และค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ขึ้นมายืนบริเวณ 70 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ นักวิเคราะห์น้ำมันมองมีความเสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไร หลังเริ่มมีสัญญาณในเชิงลบกับน้ำมัน อย่างการเพิ่มขึ้นของหัวเจาะและปริมาณการผลิตในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
หากเรากลับมาดูมุมมองโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการวิเคราะห์และคาดการณ์ราคาน้ำมัน ล่าสุดในวันที่ 23 ม.ค. จะพบว่าโบรกเกอร์ใหญ่ๆ ยังคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์สูงสุดปีนี้อยู่ที่บริเวณกรอบ 60- 65 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนใหญ่ยังมองไปไม่ได้ไกลมาจากเหตุผลของความกังวลปริมาณการผลิตของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเหนือ 10 ล้านบารเรล์ต่อวัน ส่วนปัจจัยที่มองว่าจะหนุนราคาน้ำมันอยู่ในขณะนี้คือ ปริมาณการผลิตของเวเนซูเอล่าลดลงเป็นประวัติการณ์ ที่อาจจะหนุนให้ราคาน้ำมันขึ้นสูงสุดใน Q1/18 ส่วนรูปด้านซ้าย แสดงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ราคาค่าเฉลี่ยและค่า+/-1 SD นับตั้งแต่ปี 1997 ถึงปัจจุบัน หากวัดจากปี 1997-2018 ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 64 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้เคียงกับราคาเป้าเฉลี่ยของนักวิเคราะห์น้ำมัน
ผลการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลโดยตรงกับดัชนี SET เนื่องจากเวลาราคาน้ำมันขึ้น ก็จะมีแรงซื้อหุ้นพลังงานหลักๆ เข้ามาจนไปหนุนดัชนี SET ขึ้นแรงๆ โดยรอบที่ผ่านมาประมาณวันที่ 15 ส.ค. ดัชนี SET ถูกไล่ขึ้นไปจากดัชนีต่ำกว่า 1600 จุด เทียบราคาน้ำมันขึ้นจากประมาณ50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรูปด้านขวา เราจะพบว่าการขึ้นของดัชนี SET ไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ดังนั้นหากราคาน้ำมันสามารถขึ้นทะลุ70 ดอลลาร์/บาร์เรล มีสิทธิที่จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นต่อ ทางตรงข้ามหากไม่ไปไหนหรือย่อตัวลง แนวโน้มที่ดัชนี SET จะขึ้นก็มีแนวโน้มลดลงเพราะหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่จะหนุนได้ อย่าง ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ ราคาขึ้นมาสูงและไม่มีปัจจัยหนุน
ดัชนี SET ที่ยังยืนเล่นในกรอบ 1830+/- จุด เรามองในปลายอาทิตย์นี้หรือต้นอาทิตย์หน้าน่าจะเห็นสัญญาณชัดเจนว่า จะรีบาวน์หรือปรับตัวลงมาเล่นในกรอบต่ำกว่า 1800 จุด ซึ่งสัญญาณจะมาจาก 1. ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นอย่างไร หลังผ่านการแถลงนโยบายของนาย DonaldTrump การประชุม FOMC การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและการประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งเหตุการณ์ที่กล่าวมาจะอยู่ในอาทิตย์นี้ทั้งหมดและ 2. งบหุ้นกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของเราเองที่จะประกาศในปลายอาทิตย์นี้และอาทิตย์หน้า
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเกิดแรงขายออกมา หลังอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร 10 ปีพุ่งขึ้นต่อ โดยวันนี้ตลาดกำลังรอการแถลงนโยบายประจำปีของนาย Donald Trump และการประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่า FED จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ส่วนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเกิดในคืนวันศุกร์ ว่าจะออกมาอย่างไร วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะปรับตัวลงแรงตามภูมิภาค สลับมีแรงซื้อคืนช่วงสั้นๆโดยมองดัชนีจะลงไปเล่นในแดนลบตลอด วันนี้มองแนวต้านที่ 1828-1830 จุดและแนวรับที่ 1818-1812 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DTAC
ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวก หลังปริมาณการใช้จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก พวก Money manager ยัง Longposition สูงเป็นประวัติการณ์ ปริมาณการผลิตในเวเนซูเอล่าลดลง การลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC และค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ขึ้นมายืนบริเวณ 70 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ นักวิเคราะห์น้ำมันมองมีความเสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไร หลังเริ่มมีสัญญาณในเชิงลบกับน้ำมัน อย่างการเพิ่มขึ้นของหัวเจาะและปริมาณการผลิตในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
หากเรากลับมาดูมุมมองโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการวิเคราะห์และคาดการณ์ราคาน้ำมัน ล่าสุดในวันที่ 23 ม.ค. จะพบว่าโบรกเกอร์ใหญ่ๆ ยังคาดการณ์ราคาน้ำมันเบรนท์สูงสุดปีนี้อยู่ที่บริเวณกรอบ 60- 65 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนใหญ่ยังมองไปไม่ได้ไกลมาจากเหตุผลของความกังวลปริมาณการผลิตของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเหนือ 10 ล้านบารเรล์ต่อวัน ส่วนปัจจัยที่มองว่าจะหนุนราคาน้ำมันอยู่ในขณะนี้คือ ปริมาณการผลิตของเวเนซูเอล่าลดลงเป็นประวัติการณ์ ที่อาจจะหนุนให้ราคาน้ำมันขึ้นสูงสุดใน Q1/18 ส่วนรูปด้านซ้าย แสดงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ราคาค่าเฉลี่ยและค่า+/-1 SD นับตั้งแต่ปี 1997 ถึงปัจจุบัน หากวัดจากปี 1997-2018 ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 64 ดอลลาร์/บาร์เรล ใกล้เคียงกับราคาเป้าเฉลี่ยของนักวิเคราะห์น้ำมัน
ผลการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันจะส่งผลโดยตรงกับดัชนี SET เนื่องจากเวลาราคาน้ำมันขึ้น ก็จะมีแรงซื้อหุ้นพลังงานหลักๆ เข้ามาจนไปหนุนดัชนี SET ขึ้นแรงๆ โดยรอบที่ผ่านมาประมาณวันที่ 15 ส.ค. ดัชนี SET ถูกไล่ขึ้นไปจากดัชนีต่ำกว่า 1600 จุด เทียบราคาน้ำมันขึ้นจากประมาณ50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรูปด้านขวา เราจะพบว่าการขึ้นของดัชนี SET ไปในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ดังนั้นหากราคาน้ำมันสามารถขึ้นทะลุ70 ดอลลาร์/บาร์เรล มีสิทธิที่จะหนุนให้ดัชนี SET ขึ้นต่อ ทางตรงข้ามหากไม่ไปไหนหรือย่อตัวลง แนวโน้มที่ดัชนี SET จะขึ้นก็มีแนวโน้มลดลงเพราะหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่จะหนุนได้ อย่าง ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ ราคาขึ้นมาสูงและไม่มีปัจจัยหนุน
ดัชนี SET ที่ยังยืนเล่นในกรอบ 1830+/- จุด เรามองในปลายอาทิตย์นี้หรือต้นอาทิตย์หน้าน่าจะเห็นสัญญาณชัดเจนว่า จะรีบาวน์หรือปรับตัวลงมาเล่นในกรอบต่ำกว่า 1800 จุด ซึ่งสัญญาณจะมาจาก 1. ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็นอย่างไร หลังผ่านการแถลงนโยบายของนาย DonaldTrump การประชุม FOMC การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและการประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งเหตุการณ์ที่กล่าวมาจะอยู่ในอาทิตย์นี้ทั้งหมดและ 2. งบหุ้นกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของเราเองที่จะประกาศในปลายอาทิตย์นี้และอาทิตย์หน้า
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเกิดแรงขายออกมา หลังอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร 10 ปีพุ่งขึ้นต่อ โดยวันนี้ตลาดกำลังรอการแถลงนโยบายประจำปีของนาย Donald Trump และการประชุม FOMC ซึ่งคาดกันว่า FED จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ส่วนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเกิดในคืนวันศุกร์ ว่าจะออกมาอย่างไร วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะปรับตัวลงแรงตามภูมิภาค สลับมีแรงซื้อคืนช่วงสั้นๆโดยมองดัชนีจะลงไปเล่นในแดนลบตลอด วันนี้มองแนวต้านที่ 1828-1830 จุดและแนวรับที่ 1818-1812 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DTAC
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,827.08 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย30,479.67 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกเล็กน้อย โดยดัชนีเปิดดิ่งลงแต่มีรีบาวน์บริเวณแนวรับ 1820 จุด ตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ บ้านเรามีแรงหนุนจากกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก ขณะที่ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง ติดตามผลการประชุมเฟด (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย เริ่มเห็นแรงซื้อคืนกลับมา ในช่วงเช้าตลาดปรับตัวลงก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมา โดยเราคาดว่าตลาดยังไม่ได้มีปัจจัยลบที่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ SETปรับตัวลงแรงๆ ได้ แนวโน้มผลการประชุมเฟดไม่น่าจะมีประเด็นอะไรที่จะ surpriseตลาด ทางเทคนิค ลุ้น SET ปิดเกิน 1828 จุด ซึ่งจะช่วยสร้างสัญญาณกลับตัวของ SETที่แข็งแรงและมีลุ้นกลับไปทดสอบแนวต้าน 1840 จุด ต่อไป แต่หากปิดไม่เกิน 1828 จุดก็น่าจะเห็นแรงขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง และมีโอกาสปรับตัวลงมาที่แนวรับเดิม 1820จุด กลยุทธ์หลักยังเน้น เด้งแรงขาย ลงแรงซื้อกลับ สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก มอง SGP THE TWPC SMPC
Technical Pick (PM) ...
Triple I Logistics (III TB; THB 8.55) – ซื้อ
Applied DB (ADB TB; THB 1.73) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO5078
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,827.08 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย30,479.67 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกเล็กน้อย โดยดัชนีเปิดดิ่งลงแต่มีรีบาวน์บริเวณแนวรับ 1820 จุด ตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เป็นลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ บ้านเรามีแรงหนุนจากกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก ขณะที่ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง ติดตามผลการประชุมเฟด (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย เริ่มเห็นแรงซื้อคืนกลับมา ในช่วงเช้าตลาดปรับตัวลงก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมา โดยเราคาดว่าตลาดยังไม่ได้มีปัจจัยลบที่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ SETปรับตัวลงแรงๆ ได้ แนวโน้มผลการประชุมเฟดไม่น่าจะมีประเด็นอะไรที่จะ surpriseตลาด ทางเทคนิค ลุ้น SET ปิดเกิน 1828 จุด ซึ่งจะช่วยสร้างสัญญาณกลับตัวของ SETที่แข็งแรงและมีลุ้นกลับไปทดสอบแนวต้าน 1840 จุด ต่อไป แต่หากปิดไม่เกิน 1828 จุดก็น่าจะเห็นแรงขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง และมีโอกาสปรับตัวลงมาที่แนวรับเดิม 1820จุด กลยุทธ์หลักยังเน้น เด้งแรงขาย ลงแรงซื้อกลับ สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก มอง SGP THE TWPC SMPC
Technical Pick (PM) ...
Triple I Logistics (III TB; THB 8.55) – ซื้อ
Applied DB (ADB TB; THB 1.73) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO5078