- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 January 2018 18:22
- Hits: 6512
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1819.29 -19.67(-1.07) // Vol. 74,271
มีโอกาสเปิดต่ำปิดสูง ลุ้นยืน 1800 จุด กรอบการเคลื่อนไหว 1810-1830
ดัชนีวานนี้มีความผันผวนมากในกรอบที่กว้างถึง 28 จุด โดยเปิดตัวกระโดดขึ้นยืน 1843 จุด พร้อมกับขยับทำ All Time High ที่ 1848 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายหนักช่วงชม.สุดท้ายก่อนปิดตลาดกดดัชนีไหลลงทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1819 จุด จากภาพของการเปิดสูงปิดต่ำส่งผลให้กราฟแท่งเทียนที่แสดงในรูปแบบ Bearish Engulfing บวกกับสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้มีโอกาสพักตัว ลุ้นยืน 1800 จุด หากไม่อยู่มีโอกาสลงไป 1794 จุด แต่ด้วยลักษณะการลงแรง ๆ ที่กำลังเข้าใกล้แนวรับ มีโอกาสดีดกลับเช่น ดังนั้นรอซื้อที่แนวรับ
1819.29 -19.67(-1.07) // Vol. 74,271
มีโอกาสเปิดต่ำปิดสูง ลุ้นยืน 1800 จุด กรอบการเคลื่อนไหว 1810-1830
ดัชนีวานนี้มีความผันผวนมากในกรอบที่กว้างถึง 28 จุด โดยเปิดตัวกระโดดขึ้นยืน 1843 จุด พร้อมกับขยับทำ All Time High ที่ 1848 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายหนักช่วงชม.สุดท้ายก่อนปิดตลาดกดดัชนีไหลลงทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1819 จุด จากภาพของการเปิดสูงปิดต่ำส่งผลให้กราฟแท่งเทียนที่แสดงในรูปแบบ Bearish Engulfing บวกกับสัญญาณ Bearish Divergence ทำให้มีโอกาสพักตัว ลุ้นยืน 1800 จุด หากไม่อยู่มีโอกาสลงไป 1794 จุด แต่ด้วยลักษณะการลงแรง ๆ ที่กำลังเข้าใกล้แนวรับ มีโอกาสดีดกลับเช่น ดังนั้นรอซื้อที่แนวรับ
แนวรับ
1800-1810
แนวต้าน
1830-1838
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
"คาดมี rebound แต่ยังต้องเน้นเล่นสั้น"
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ภาพตลาดในวันนี้ เรามองว่ามีโอกาสที่จะเกิด technical rebound ได้ โดยมองว่าตลาดหุ้นวานนี้เกิด panic sell ช่วงท้ายตลาดทั้งๆทั่ปัจจัยต่างๆที่ออกมาไม่ได้เป็นลบมาก.... ภาพต่างประเทศ ECB คงดอกเบี้ยตามคาดพร้อมขยาย QE หากมีความจำเป็น, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี, และปธน.ทรัมป์สัมภาษณ์สนับสนุนดอลลาร์แข็งค่า .... ปัจจัยในประเทศ คาดสามารถกำหนดวันเลือกตั้งภายใน มิ.ย. 2018 นี้, ภาครัฐจะเสนอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือ SMEs ในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน : แม้ในภาพระหว่างวันเรามองตลาดจะสามารถรีบาวด์ แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นถือว่าปรับตัวขึ้นมามาก จึงยังคงให้คำแนะนำลดพอร์ทในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามาก หรือมี upside เหลือน้อย การเก็งกำไรระหว่างวันให้เลือกหุ้นในลักษณะ selective buy .... การเก็งกำไรในหุ้นระหว่างวัน แนะนำเป็นหุ้นที่มีปัจัยบวกเฉพาะตัว, หุ้นที่มีความปลอดภัย, หุ้นที่มีการคาดการณ์ผลประกอบการ 4Q17 ออกมาดี, หรือหุ้นที่ราคาปรับลงมามากวานนี้ โดยหุ้นที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ PTT*, PTTEP*, TRUE*, MTLS
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ : MBK*, LANNA* , TKN, SPRC*
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : MBK, JKN, ASAP
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) PTT, PTTEP: มองกลุ่ม PTT ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ยังสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน นอกจากนี้มีโอกาสที่ PTTEP จะส่งงบในวันนี้ ตลาดคาด 7,700 ล้านบาทจากปีที่แล้วที่ขาดทุน -1,543 ล้านบาท และ +23% QoQ
(+) TRUE : มองว่าราคา TRUE ที่ปรับตัวลงวานนี้เป็นเพียงแรงขายจาก panic sell โดยเรายังคงให้ความสนใจในกลุ่ม telecom เนื่องจากมองว่านักลงทุนจะหันมาสนใจกลุ่มที่อิง domestic play มากขึ้นหลังปัจจัยเรื่องต่างประเทศยังไม่ชัดเจน อีกทั้งเรามองว่ากลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบหากมีการเลื่อนการเลือกตั้งน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเรื่องการแบ่งคลื่น 1800 MHz ที่จะเข้าประมูล 45 MHz จากเดิม 3 ใบอนุญาต ออกไปเป็น 9 ใบอนุญาต
(+) MTLS : เราว่า MTLS มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากคาดการณ์กำไรสุทธิช่วง 4Q17 ที่คาดว่าจะออกมาดี ซึ่งเราคาดที่ที่ 684 ล้านบาท (+42%YoY และ +5%QoQ) อีกทั้งคาดกำไรสุทธิปี 2018 เติบโตถึง +48% YoY ที่ 3,624 ล้านบาท .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 48.00 บาท
(+) MBK : ส่วนหนึ่งของธุรกิจ MBK คือธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ (สัดส่วนรายได้ 19%) ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีในช่วงนี้ ในเบื้องต้นเราคาดการณ์ผลประกอบการปีนี้ทรงตัวจากปี 2017 ที่ราว 2,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 50% ในปี 2019 ที่ราว 3,000 ล้านบาท จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโครงการ Icon SIam
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้นมีประเด็น
(0) WHAUP: (ถือ, ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท)
เรากลับมาวิเคราะห์หุ้น WHAUP ด้วยคำแนะนำ "ถือ" และให้ราคาเหมาะสมที่ 8.50 บาท แม้เป็นหุ้น Laggard เทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ด้วยการเติบโตของกำไรสุทธิที่น้อยกว่ากลุ่มและระดับ Dividend yield เพียง 3% ทำให้หุ้น WHAUP มีความน่าสนใจน้อย และยากที่จะถูก Related ขึ้นมา เราประเมินกำไรสุทธิเติบโตเพียง 7% (CAGR 2017-19) จาก 2 ธุรกิจกิจหลัก คือ ธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ทยอยเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 12% ในช่วง 2018-19 และธุรกิจบริหารจัดการน้ำซึ่งได้รับสิทธิให้บริการแต่เพียงผู้เดียวในเขตนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม WHA ที่คาดว่าปริมาณการบริหารจัดการน้ำของบริษัทได้ราว 8% ต่อปี (CAGR 2017-19) ทั้งนี้ราคาเหมาะสมของเราที่ 8.50 บาท เทียบเท่า 2018PER ที่ 15x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 26x สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรสุทธิที่จำกัด
(0) BDMS: (ถือ, ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท)
วานนี้ศาลแพ่งได้อ่านคำพากษาคดีระหว่างนางพิสิฏฐา เหล่ากุลวานิช ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน โจทก์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด มหาชน จำเลย โดยศาลแพ่งพิพากษา BDMS คืนสิทธิ์โครงการเอกสิทธิ์ของคุณภาพชีวิตและเปิดสโมสรไลฟ์ พริวิเลจ พร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสโมสร เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยที่ต้องมีการกำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาล แต่เป็นสัญญาให้บริการอีกรูปแบบหนึ่ง (ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ)
ความเห็น: เรามองประเด็นข่าวดังกล่าวเป็นกลาง เนื่องจากก่อนหน้านี้ BDMS เคยแพ้คดีลักษณะคล้ายกันแล้ว และมองว่าคดีที่เหลือจะได้รับการพิพากษาในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งมูลค่าความเสียหายเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมไม่มากนัก ปัจจุบันเราแนะนำ "ถือ" BDMS ที่ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท
(+/-) สนช.มีมติบังคับใช้ พรป.เลือกตั้ง 90 วัน - สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วาระ 2-3 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน ซึ่งจะส่งผลให้โรดแมพการเลือกตั้งถูกขยับไปเป็นช่วงต้นปี 62 จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.61 (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
ความเห็น - การเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวหรือกรอบวันเลือกตั้งที่ถูกขยับออกไป ออกไป 90 วัน เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครระบุว่าจะเลือกเมื่อใดกันแน่ เนื่องด้วย การนับ 150 วัน นั้น จะนับ 150 วัน บวกจาก วันที่ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ไม่ต้องรอให้ พรป.เลือกตั้ง สส. ครบ 90 วัน ก็ได้ ทำให้วันเลือกตั้งจริง อาจเกิดก่อนเดือน ก.พ.62 ก็เป็นได้
แม้จะมีความคลุมเครือ แต่เราเห็นว่า การตอบสนองของนักลงทุนอาจเป็นในทางลบมากเกินไป และใช้เป็นโอกาสในทางขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามาก วันนี้ เราประเมินว่า อาจมีแรงซื้อกลับในหุ้นบางตัวที่ถูกเทขายออกไปมาก อาทิ PTT , BBL , WHA , AMATA , TRUE
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25 ม.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,819.29 จุด ลดลง 19.67 จุด หรือ -1.07%) มูลค่าการซื้อขาย 74,271.00 ล้านบาท แรงเทขายหุ้นที่ออกมาช่วงท้ายตลาด ถือว่าเป็นภาวะ "Panic Sell" สังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าในช่วงก่อนหน้า เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มใช้ความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยมีปัจจัยเชิงลบทั้งในและต่างประเทศเข้ามากระ
ปัจจัยต่างประเทศ
(+) ECB คงดอกเบี้ยตามคาดพร้อมขยาย QE หากมีความจำเป็น - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ตามที่ตลาดคาด โดย ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือน ก.ย. ในขณะที่ bond yield เยอรมันและค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมองว่านักลงทุนมีมุมมองว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงมีแผนยุติการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
(+) จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
(0) ปธน.ทรัมป์สัมภาษณ์สนับสนุนดอลลาร์แข็งค่า - ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางถึงเมืองดาวอสเพื่อเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่มว่าเขาสนับสนุนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก
ปัจจัยในประเทศ
(+/-) สนช.มีมติบังคับใช้ พรป.เลือกตั้ง 90 วัน - สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วาระ 2-3 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน ซึ่งจะส่งผลให้โรดแมพการเลือกตั้งถูกขยับไปเป็นช่วงต้นปี 62 จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.61
(+) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือ SMEs - กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า (30 ม.ค.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO4918
"คาดมี rebound แต่ยังต้องเน้นเล่นสั้น"
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ภาพตลาดในวันนี้ เรามองว่ามีโอกาสที่จะเกิด technical rebound ได้ โดยมองว่าตลาดหุ้นวานนี้เกิด panic sell ช่วงท้ายตลาดทั้งๆทั่ปัจจัยต่างๆที่ออกมาไม่ได้เป็นลบมาก.... ภาพต่างประเทศ ECB คงดอกเบี้ยตามคาดพร้อมขยาย QE หากมีความจำเป็น, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี, และปธน.ทรัมป์สัมภาษณ์สนับสนุนดอลลาร์แข็งค่า .... ปัจจัยในประเทศ คาดสามารถกำหนดวันเลือกตั้งภายใน มิ.ย. 2018 นี้, ภาครัฐจะเสนอ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือ SMEs ในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน : แม้ในภาพระหว่างวันเรามองตลาดจะสามารถรีบาวด์ แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นถือว่าปรับตัวขึ้นมามาก จึงยังคงให้คำแนะนำลดพอร์ทในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมามาก หรือมี upside เหลือน้อย การเก็งกำไรระหว่างวันให้เลือกหุ้นในลักษณะ selective buy .... การเก็งกำไรในหุ้นระหว่างวัน แนะนำเป็นหุ้นที่มีปัจัยบวกเฉพาะตัว, หุ้นที่มีความปลอดภัย, หุ้นที่มีการคาดการณ์ผลประกอบการ 4Q17 ออกมาดี, หรือหุ้นที่ราคาปรับลงมามากวานนี้ โดยหุ้นที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ PTT*, PTTEP*, TRUE*, MTLS
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ : MBK*, LANNA* , TKN, SPRC*
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : MBK, JKN, ASAP
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) PTT, PTTEP: มองกลุ่ม PTT ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ยังสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน นอกจากนี้มีโอกาสที่ PTTEP จะส่งงบในวันนี้ ตลาดคาด 7,700 ล้านบาทจากปีที่แล้วที่ขาดทุน -1,543 ล้านบาท และ +23% QoQ
(+) TRUE : มองว่าราคา TRUE ที่ปรับตัวลงวานนี้เป็นเพียงแรงขายจาก panic sell โดยเรายังคงให้ความสนใจในกลุ่ม telecom เนื่องจากมองว่านักลงทุนจะหันมาสนใจกลุ่มที่อิง domestic play มากขึ้นหลังปัจจัยเรื่องต่างประเทศยังไม่ชัดเจน อีกทั้งเรามองว่ากลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบหากมีการเลื่อนการเลือกตั้งน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเรื่องการแบ่งคลื่น 1800 MHz ที่จะเข้าประมูล 45 MHz จากเดิม 3 ใบอนุญาต ออกไปเป็น 9 ใบอนุญาต
(+) MTLS : เราว่า MTLS มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากคาดการณ์กำไรสุทธิช่วง 4Q17 ที่คาดว่าจะออกมาดี ซึ่งเราคาดที่ที่ 684 ล้านบาท (+42%YoY และ +5%QoQ) อีกทั้งคาดกำไรสุทธิปี 2018 เติบโตถึง +48% YoY ที่ 3,624 ล้านบาท .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 48.00 บาท
(+) MBK : ส่วนหนึ่งของธุรกิจ MBK คือธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ (สัดส่วนรายได้ 19%) ซึ่งมองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีในช่วงนี้ ในเบื้องต้นเราคาดการณ์ผลประกอบการปีนี้ทรงตัวจากปี 2017 ที่ราว 2,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ถึง 50% ในปี 2019 ที่ราว 3,000 ล้านบาท จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโครงการ Icon SIam
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้นมีประเด็น
(0) WHAUP: (ถือ, ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท)
เรากลับมาวิเคราะห์หุ้น WHAUP ด้วยคำแนะนำ "ถือ" และให้ราคาเหมาะสมที่ 8.50 บาท แม้เป็นหุ้น Laggard เทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่ด้วยการเติบโตของกำไรสุทธิที่น้อยกว่ากลุ่มและระดับ Dividend yield เพียง 3% ทำให้หุ้น WHAUP มีความน่าสนใจน้อย และยากที่จะถูก Related ขึ้นมา เราประเมินกำไรสุทธิเติบโตเพียง 7% (CAGR 2017-19) จาก 2 ธุรกิจกิจหลัก คือ ธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ทยอยเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 12% ในช่วง 2018-19 และธุรกิจบริหารจัดการน้ำซึ่งได้รับสิทธิให้บริการแต่เพียงผู้เดียวในเขตนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม WHA ที่คาดว่าปริมาณการบริหารจัดการน้ำของบริษัทได้ราว 8% ต่อปี (CAGR 2017-19) ทั้งนี้ราคาเหมาะสมของเราที่ 8.50 บาท เทียบเท่า 2018PER ที่ 15x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 26x สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของกำไรสุทธิที่จำกัด
(0) BDMS: (ถือ, ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท)
วานนี้ศาลแพ่งได้อ่านคำพากษาคดีระหว่างนางพิสิฏฐา เหล่ากุลวานิช ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน โจทก์ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด มหาชน จำเลย โดยศาลแพ่งพิพากษา BDMS คืนสิทธิ์โครงการเอกสิทธิ์ของคุณภาพชีวิตและเปิดสโมสรไลฟ์ พริวิเลจ พร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของสโมสร เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันภัยที่ต้องมีการกำหนดวงเงินค่ารักษาพยาบาล แต่เป็นสัญญาให้บริการอีกรูปแบบหนึ่ง (ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ)
ความเห็น: เรามองประเด็นข่าวดังกล่าวเป็นกลาง เนื่องจากก่อนหน้านี้ BDMS เคยแพ้คดีลักษณะคล้ายกันแล้ว และมองว่าคดีที่เหลือจะได้รับการพิพากษาในลักษณะเดียวกัน อีกทั้งมูลค่าความเสียหายเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมไม่มากนัก ปัจจุบันเราแนะนำ "ถือ" BDMS ที่ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท
(+/-) สนช.มีมติบังคับใช้ พรป.เลือกตั้ง 90 วัน - สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วาระ 2-3 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน ซึ่งจะส่งผลให้โรดแมพการเลือกตั้งถูกขยับไปเป็นช่วงต้นปี 62 จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.61 (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
ความเห็น - การเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวหรือกรอบวันเลือกตั้งที่ถูกขยับออกไป ออกไป 90 วัน เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครระบุว่าจะเลือกเมื่อใดกันแน่ เนื่องด้วย การนับ 150 วัน นั้น จะนับ 150 วัน บวกจาก วันที่ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งการออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ไม่ต้องรอให้ พรป.เลือกตั้ง สส. ครบ 90 วัน ก็ได้ ทำให้วันเลือกตั้งจริง อาจเกิดก่อนเดือน ก.พ.62 ก็เป็นได้
แม้จะมีความคลุมเครือ แต่เราเห็นว่า การตอบสนองของนักลงทุนอาจเป็นในทางลบมากเกินไป และใช้เป็นโอกาสในทางขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามาก วันนี้ เราประเมินว่า อาจมีแรงซื้อกลับในหุ้นบางตัวที่ถูกเทขายออกไปมาก อาทิ PTT , BBL , WHA , AMATA , TRUE
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (25 ม.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,819.29 จุด ลดลง 19.67 จุด หรือ -1.07%) มูลค่าการซื้อขาย 74,271.00 ล้านบาท แรงเทขายหุ้นที่ออกมาช่วงท้ายตลาด ถือว่าเป็นภาวะ "Panic Sell" สังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าในช่วงก่อนหน้า เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มใช้ความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยมีปัจจัยเชิงลบทั้งในและต่างประเทศเข้ามากระ
ปัจจัยต่างประเทศ
(+) ECB คงดอกเบี้ยตามคาดพร้อมขยาย QE หากมีความจำเป็น - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ตามที่ตลาดคาด โดย ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือน ก.ย. ในขณะที่ bond yield เยอรมันและค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมองว่านักลงทุนมีมุมมองว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงมีแผนยุติการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
(+) จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
(0) ปธน.ทรัมป์สัมภาษณ์สนับสนุนดอลลาร์แข็งค่า - ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางถึงเมืองดาวอสเพื่อเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่มว่าเขาสนับสนุนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก
ปัจจัยในประเทศ
(+/-) สนช.มีมติบังคับใช้ พรป.เลือกตั้ง 90 วัน - สนช. ลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วาระ 2-3 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน ซึ่งจะส่งผลให้โรดแมพการเลือกตั้งถูกขยับไปเป็นช่วงต้นปี 62 จากเดิมคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.61
(+) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือ SMEs - กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า (30 ม.ค.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO4918