- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 January 2018 16:31
- Hits: 13785
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง 10% สู่ 65% วันนี้เน้น Baht Strenthening Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1845/1852จุด รับ 1831/1824จุด Steven Mnuchin เห็นชอบที่ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า เนื่องจากจะหนุนภาคการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าสู่ 89.206 จุด กระตุ้นค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีกว่าที่ระดับ 31.547 บาท/เหรียญ เป็นจิตวิทยาบวกต่อ Fund Flows โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5 ใน 6 วันทำการ และ Long Future 3 วันติดต่อกัน เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตาม SET ขึ้นมาใกล้เคียงดัชนีเป้าหมายกรณีฐานที่ 1848จุด(Best Case 1904-1960จุด) จึงแนะนำลดพอร์ตหุ้นลง 10% เหลือ 65% ที่เพิ่มมาช่วงดัชนีต่ำกว่า 1700จุด ส่วน Theme การลงทุนวันนี้ เน้น Theme “Baht Strenthening Play” : TOA, TVO, PTTEP
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1845/1852จุด รับ 1831/1824จุด นาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวในงาน World Economic Forum ว่ามีความเห็นว่า ชอบการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ เนื่องจากจะเป็นตัวกระตุ้นภาคการค้าของสหรัฐฯให้เติบโตดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปีที่ 89.206 จุด หนุนค่าเงินเอเชียแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ โดยค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีกว่า ที่ระดับ 31.547 บาทต่อเหรียญ เป็นการแข็งค่า 3.1%YTD เทียบกับ 4Q17 ที่แข็งค่ามาแล้ว 1.8% โดยทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มนำเข้าสินค่าทุน กลุ่มแอร์ไลน์ กลุ่มที่มีต้นทุนนำเข้าสุทธิในรูปดอลลาร์ และกลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศสูง และยังเป็นแรงหนุน Fund Flows ไหลเข้า ล่าสุดต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5 ใน 6 วันทำการราว 145.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งยัง Long Future 3 วันติดต่อกัน รวม 16,717 สัญญา คาดหนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ นอกจากนี้ ทิศทางน้ำมันดิบยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ยืนเหนือ 70 เหรียญ/บาร์เรล รับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 คาดหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ส่วนในประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนธค. ที่ระดับ 89.1 สูงสุดในรอบ 35 เดือน บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย หนุนตลาดหุ้นไทยเด่น
Asset allocation : ถือหุ้น 65% และเงินสด 17.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาใกล้เคียงดัชนีเป้าหมายปี 2018 กรณีฐานที่ 1848จุดแล้ว แม้จะวาง Best case ไว้ที่ 1904-1960จุด แต่เนื่องจากมองว่าเป็นช่วงที่ตลาดเริ่ม Consolidate งบ 4Q17 จึงแนะนำลดน้ำหนักพอร์ตลงทุนลง 10% เหลือ 65% หลังเพิ่มมาช่วงดัชนีต่ำกว่า 1700จุด ส่วนวันนี้เน้น หุ้นใน Theme เงินบาทแข็งค่า
Baht Strenthening Play: 1) PTTEP มี Functional Currency เการปรับตัวแข็งค่าเงินบาท 5 % ส่งผลให้บริษัทมี realized และ unrealized FX gain ทั้งหมด จำนวน 5.78 พันล้านบาท คิดเป็น 17.5% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 18F 2) TVO ทุกๆเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ประมาณการจะเพิ่มจากเดิม 2.5% 3) กลุ่มนำเข้าสินค้าทุน TOA, CK, STEC และ 4) กลุ่ม Net Import SNC
Domestic Play : กลุ่ม BANK จะกลับมานำตลาดรับวงจรการลงทุนปี 2018 เน้น KBANK, BBL และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่เล่นล่วงหน้าไปมาก มากลุ่มนี้ รับโครงสร้างพื้นฐานเดินหน้า CK, STEC, TASCO เด่น
Global Play : เน้นปิโตรเลียมขั้นต้น น้ำมันดิบ BRENT ขึ้นเหนือ 70เหรียญฯ หนุน PTTEP, PTT, PTTGC และปิโตรเคมี ที่คาดกำไรดี IVL, IRPC
Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM
2018 Top picks : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
TOA (TP 40*): Support: 32.0/31.0 Resistant: 33.25/34.5
Theme: Investment Related + FX Play
Earnings Outlook: เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสีในไทยด้วย Market share กว่า 48% และมีการเปิดตลาดต่างประเทศมานาน (CLMV + Indonesia + Malay) จะเติบโตไปตาม การเพิ่มจำนวนร้านค้าและเพิ่มสินค้า High margin โดยคาดกำไร 2018F จะกลับมาโตแรง 34% จากการปรับราคาครั้งแรกรอบ 3 ปี ราว 4% และจากการเพิ่มกำลังการผลิต 16% ใน 2H18F (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว) โดยระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 464 ลบ. (+32% q-q, -12% y-y) ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของรายได้ y-y ครั้งแรกในรอบปี
Valuation: เป็นอุตสาหกรรมที่ดี Margin สูง, ลงทุนต่ำ, ROE สูง 24% จึงมี Premium กว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยมี 18F PER 28.7x แต่ยังต่ำกว่าผู้ประกอบการในต่างประเทศเล็กน้อย ที่ซื้อขายเฉลี่ยสูง 31.5x
Catalyst: ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า (เป็น Net import $ 3% ของต้นทุนผลิต) + ประกาศปรับราคาสินค้าตั้งแต่ม.ค. - ก.พ. + ตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่าตัวรายได้ ช่วยผลักดัน Growth ต่อผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวสูง
TVO (Max Consensus TP18F 37): Support: 33.0/32.0 Resistant: 34.25/35.5
Theme: Earnings Play + FX Play
Earnings Outlook: แนวโน้มผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q18F ต่อเนื่องไปตลอดปี 18F คาดกำไรฟื้นตัวเด่น +43%y-y จากการเติบโตทั้งปริมาณขายและมาร์จิ้น ตามภาพรวมราคาถั่วเหลืองฟื้นตัวจากบราซิล-อาเจนติน่ามีแนวโน้มผลิตน้อยลง ขณะที่ Demand จากจีนยังเติบโต
Valuation: ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มกำไรอ่อนตัวในปี 2017F ไปแล้วขณะที่ภาพรวมปี 18F เป็นปีแห่งการฟื้นตัว เป็นจังหวะในการเข้าลงทุนรอบใหม่ โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER18F 16.8x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 20.9x
Catalyst: แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เป็น Upside บวกต่อประมาณการโดยเราคาดว่าหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ผลการดำเนินงานของ TVO ใน 2H17F จะดีขึ้นจากประมาณการเดิม 2.5%
PTTEP (Max consensus TP18F 140): Support: 116/114 Resistant: 120/122
Theme: Oil Play + FX Play
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17F ที่ 12,591 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรทั้ง y-y และ q-q (4Q16 และ 3Q17 มีค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์) EBIT +132%y-y และ +20%q-q จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากการต่ออายุการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และกำไรจากการอัตราแลกเปลี่ยน หลังเงินบาทแข็งค่า ราว 0.74 บาทต่อดอลลาร์ และคาดกำไรสุทธิปี18F เติบโตต่อเนื่อง 154%
Valuation: ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ซื้อสะสมรอบใหม่ได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดการตั้ง impairment รอบสุดท้ายแล้ว กอปรกับ ราคาน้ำมันอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ระดับ 1.16x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.42x
Catalyst: วานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ทำ New High สูงสุดในรอบ 37 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ USD70.53 + ค่าเงินบาทแข็งตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยบวกต่อการจ่ายภาษี+ค่าเสื่อม ซึ่งอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์ กอปรกับยังมี Unrealized FX gain ซึ่งค่าเงินที่แข็งค่า 5% จะส่งให้มีกำไรเพิ่มอีกราว 5.78 พันล้านบาท
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
“ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง 10% สู่ 65% วันนี้เน้น Baht Strenthening Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1845/1852จุด รับ 1831/1824จุด Steven Mnuchin เห็นชอบที่ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า เนื่องจากจะหนุนภาคการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าสู่ 89.206 จุด กระตุ้นค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีกว่าที่ระดับ 31.547 บาท/เหรียญ เป็นจิตวิทยาบวกต่อ Fund Flows โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5 ใน 6 วันทำการ และ Long Future 3 วันติดต่อกัน เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาด แต่อย่างไรก็ตาม SET ขึ้นมาใกล้เคียงดัชนีเป้าหมายกรณีฐานที่ 1848จุด(Best Case 1904-1960จุด) จึงแนะนำลดพอร์ตหุ้นลง 10% เหลือ 65% ที่เพิ่มมาช่วงดัชนีต่ำกว่า 1700จุด ส่วน Theme การลงทุนวันนี้ เน้น Theme “Baht Strenthening Play” : TOA, TVO, PTTEP
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1845/1852จุด รับ 1831/1824จุด นาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวในงาน World Economic Forum ว่ามีความเห็นว่า ชอบการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ เนื่องจากจะเป็นตัวกระตุ้นภาคการค้าของสหรัฐฯให้เติบโตดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปีที่ 89.206 จุด หนุนค่าเงินเอเชียแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ โดยค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าสุดในรอบ 4 ปีกว่า ที่ระดับ 31.547 บาทต่อเหรียญ เป็นการแข็งค่า 3.1%YTD เทียบกับ 4Q17 ที่แข็งค่ามาแล้ว 1.8% โดยทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มนำเข้าสินค่าทุน กลุ่มแอร์ไลน์ กลุ่มที่มีต้นทุนนำเข้าสุทธิในรูปดอลลาร์ และกลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศสูง และยังเป็นแรงหนุน Fund Flows ไหลเข้า ล่าสุดต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5 ใน 6 วันทำการราว 145.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งยัง Long Future 3 วันติดต่อกัน รวม 16,717 สัญญา คาดหนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ นอกจากนี้ ทิศทางน้ำมันดิบยังคงเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ยืนเหนือ 70 เหรียญ/บาร์เรล รับสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 คาดหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ส่วนในประเทศ ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนธค. ที่ระดับ 89.1 สูงสุดในรอบ 35 เดือน บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย หนุนตลาดหุ้นไทยเด่น
Asset allocation : ถือหุ้น 65% และเงินสด 17.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy : ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาใกล้เคียงดัชนีเป้าหมายปี 2018 กรณีฐานที่ 1848จุดแล้ว แม้จะวาง Best case ไว้ที่ 1904-1960จุด แต่เนื่องจากมองว่าเป็นช่วงที่ตลาดเริ่ม Consolidate งบ 4Q17 จึงแนะนำลดน้ำหนักพอร์ตลงทุนลง 10% เหลือ 65% หลังเพิ่มมาช่วงดัชนีต่ำกว่า 1700จุด ส่วนวันนี้เน้น หุ้นใน Theme เงินบาทแข็งค่า
Baht Strenthening Play: 1) PTTEP มี Functional Currency เการปรับตัวแข็งค่าเงินบาท 5 % ส่งผลให้บริษัทมี realized และ unrealized FX gain ทั้งหมด จำนวน 5.78 พันล้านบาท คิดเป็น 17.5% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 18F 2) TVO ทุกๆเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ประมาณการจะเพิ่มจากเดิม 2.5% 3) กลุ่มนำเข้าสินค้าทุน TOA, CK, STEC และ 4) กลุ่ม Net Import SNC
Domestic Play : กลุ่ม BANK จะกลับมานำตลาดรับวงจรการลงทุนปี 2018 เน้น KBANK, BBL และกลุ่มรับเหมาฯ คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่เล่นล่วงหน้าไปมาก มากลุ่มนี้ รับโครงสร้างพื้นฐานเดินหน้า CK, STEC, TASCO เด่น
Global Play : เน้นปิโตรเลียมขั้นต้น น้ำมันดิบ BRENT ขึ้นเหนือ 70เหรียญฯ หนุน PTTEP, PTT, PTTGC และปิโตรเคมี ที่คาดกำไรดี IVL, IRPC
Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0% และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM
2018 Top picks : CK STEC HMPRO TOA KBANK AOT MONO FN PTTEP IRPC
Investment Theme:
1H18F : Domestic - Infrastructure Related Play : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related : STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer : AOT, MONO, FN
3) Global Play : PTTEP, IRPC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
TOA (TP 40*): Support: 32.0/31.0 Resistant: 33.25/34.5
Theme: Investment Related + FX Play
Earnings Outlook: เป็นผู้นำอุตสาหกรรมสีในไทยด้วย Market share กว่า 48% และมีการเปิดตลาดต่างประเทศมานาน (CLMV + Indonesia + Malay) จะเติบโตไปตาม การเพิ่มจำนวนร้านค้าและเพิ่มสินค้า High margin โดยคาดกำไร 2018F จะกลับมาโตแรง 34% จากการปรับราคาครั้งแรกรอบ 3 ปี ราว 4% และจากการเพิ่มกำลังการผลิต 16% ใน 2H18F (อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว) โดยระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 464 ลบ. (+32% q-q, -12% y-y) ซึ่งเห็นการฟื้นตัวของรายได้ y-y ครั้งแรกในรอบปี
Valuation: เป็นอุตสาหกรรมที่ดี Margin สูง, ลงทุนต่ำ, ROE สูง 24% จึงมี Premium กว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยมี 18F PER 28.7x แต่ยังต่ำกว่าผู้ประกอบการในต่างประเทศเล็กน้อย ที่ซื้อขายเฉลี่ยสูง 31.5x
Catalyst: ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า (เป็น Net import $ 3% ของต้นทุนผลิต) + ประกาศปรับราคาสินค้าตั้งแต่ม.ค. - ก.พ. + ตลาดต่างประเทศมีขนาดใหญ่กว่าไทยถึง 3 เท่าตัวรายได้ ช่วยผลักดัน Growth ต่อผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวสูง
TVO (Max Consensus TP18F 37): Support: 33.0/32.0 Resistant: 34.25/35.5
Theme: Earnings Play + FX Play
Earnings Outlook: แนวโน้มผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 1Q18F ต่อเนื่องไปตลอดปี 18F คาดกำไรฟื้นตัวเด่น +43%y-y จากการเติบโตทั้งปริมาณขายและมาร์จิ้น ตามภาพรวมราคาถั่วเหลืองฟื้นตัวจากบราซิล-อาเจนติน่ามีแนวโน้มผลิตน้อยลง ขณะที่ Demand จากจีนยังเติบโต
Valuation: ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มกำไรอ่อนตัวในปี 2017F ไปแล้วขณะที่ภาพรวมปี 18F เป็นปีแห่งการฟื้นตัว เป็นจังหวะในการเข้าลงทุนรอบใหม่ โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER18F 16.8x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 20.9x
Catalyst: แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น เป็น Upside บวกต่อประมาณการโดยเราคาดว่าหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 5% ผลการดำเนินงานของ TVO ใน 2H17F จะดีขึ้นจากประมาณการเดิม 2.5%
PTTEP (Max consensus TP18F 140): Support: 116/114 Resistant: 120/122
Theme: Oil Play + FX Play
Earnings Outlook: เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17F ที่ 12,591 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรทั้ง y-y และ q-q (4Q16 และ 3Q17 มีค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์) EBIT +132%y-y และ +20%q-q จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากการต่ออายุการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และกำไรจากการอัตราแลกเปลี่ยน หลังเงินบาทแข็งค่า ราว 0.74 บาทต่อดอลลาร์ และคาดกำไรสุทธิปี18F เติบโตต่อเนื่อง 154%
Valuation: ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่ซื้อสะสมรอบใหม่ได้อีกครั้ง หลังสิ้นสุดการตั้ง impairment รอบสุดท้ายแล้ว กอปรกับ ราคาน้ำมันอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ระดับ 1.16x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 1.42x
Catalyst: วานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ทำ New High สูงสุดในรอบ 37 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ USD70.53 + ค่าเงินบาทแข็งตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยบวกต่อการจ่ายภาษี+ค่าเสื่อม ซึ่งอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์ กอปรกับยังมี Unrealized FX gain ซึ่งค่าเงินที่แข็งค่า 5% จะส่งให้มีกำไรเพิ่มอีกราว 5.78 พันล้านบาท
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO4864
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO4864