- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 January 2018 16:24
- Hits: 13713
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1815 แนวต้าน 1840
SET Index: 1839.41 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านที่ 1850 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาปิดที่บริเวณ 1840 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1840 จุดขึ้นไป น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร เนื่อองจากเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1830 และ 1820 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1800 จุด
แนวต้าน : 1840 และ 1844
แนวรับ : 1835 และ 1830
PTT = 484/494, PTTGC = 97.00/98.00, PTTEP = 117/120, KBANK = 228/230, IRPC = 7.50/7.60
Thaire Life Assurance (THREL TB; THB 11.60) – ซื้อ
แนวต้าน : 12.50 และ 13.00
แนวรับ : 11.60 และ 11.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ THREL โดยมีแนวรับที่ 11.60 และ 11.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.50 และ 13.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 11.00 ลงไป
Yuasa Battery (Thailand) (YUASA TB; THB 20.70) – ซื้อ
แนวต้าน : 22.00 และ 22.50 / แนวต้านสำคัญ 23.00
แนวรับ : 20.70 และ 20.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ YUASA โดยมีแนวรับที่ 20.70 และ 20.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 22.00 และ 22.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.00 ลงไป
SET Index: แนวรับ 1815 แนวต้าน 1840
SET Index: 1839.41 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านที่ 1850 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาปิดที่บริเวณ 1840 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1840 จุดขึ้นไป น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร เนื่อองจากเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1830 และ 1820 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1800 จุด
แนวต้าน : 1840 และ 1844
แนวรับ : 1835 และ 1830
PTT = 484/494, PTTGC = 97.00/98.00, PTTEP = 117/120, KBANK = 228/230, IRPC = 7.50/7.60
Thaire Life Assurance (THREL TB; THB 11.60) – ซื้อ
แนวต้าน : 12.50 และ 13.00
แนวรับ : 11.60 และ 11.40
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐาน ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ THREL โดยมีแนวรับที่ 11.60 และ 11.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.50 และ 13.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 11.00 ลงไป
Yuasa Battery (Thailand) (YUASA TB; THB 20.70) – ซื้อ
แนวต้าน : 22.00 และ 22.50 / แนวต้านสำคัญ 23.00
แนวรับ : 20.70 และ 20.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ YUASA โดยมีแนวรับที่ 20.70 และ 20.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 22.00 และ 22.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.00 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…P/E ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาเทรดเท่าๆกับภูมิภาคขณะที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดหลังเลือกตั้งสหรัฐ
ดัชนี SET ในเดือน ม.ค. ขึ้นมาอย่างรวดเร็วตามดัชนีในภูมิภาค จากแรงหนุนมุมมองในเชิงบวกต่อนโยบายการลดภาษีของสหรัฐ การฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนี SET ทำให้ต้องมาดู การประเมินความถูก-ความแพงของตลาด หากมาดูว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าเท่าไรเมื่อเทียบกับภูมิภาคอาเซียน ในรูปด้านซ้าย เราจะพบว่าปัจจุบันค่าP/E 12 เดือนล่วงหน้าของไทยขึ้นไปเทรดใกล้ภูมิภาคอีกครั้ง โดยเทรดกันที่ 15.87 เท่าเทียบภูมิภาคที่ 15.94 เท่า ซึ่งถือว่าสูงสุดตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ของภูมิภาคก็ขึ้นไปเทรดสูงสุดเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2008 ที่ 16 เท่า
หากดูเฉพาะค่า P/E จะพบว่าการที่ภูมิภาคขึ้นเทรดในระดับ 16 เท่าสูงเท่ากับช่วงเกิดวิกฤตในสหรัฐ ในทางพื้นฐานก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปเทรดที่ค่า P/E สูงกว่านี้เพราะในปีนนี้ต่างคาดกันว่าอัตราการทำกำไรของภูมิภาค น่าจะสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามการขึ้นอย่างรวดเร็วของดัชนี ยังเป็นที่กังขา ว่ามาจากความรู้สึก มากกว่าทางพื้นฐาน จึงนำไปสู่มุมมองที่ว่าตลาดน่าจะเข้าใกล้ช่วงพักฐาน เหมือนๆ กับตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะหลังจากนี้ยังมีประเด็นที่อาจส่งผลต่อในเชิงลบกับตลาดอีกมาก
ความเสี่ยงของตลาดหุ้นไทยหลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E ใกล้ๆ ภูมิภาค คือ ผลตอบแทนของดัชนี MSCI Thailand รูปดอลลาร์ (Capital gain)นับตั้งแต่หลังเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย. 2016 ปรับตัวขึ้นสูงสุดในภูมิภาค ที่ประมาณ 40% ดูจากรูปด้านขวา จะพบว่ามีเพียงไทยและสิงคโปร์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ส่วนอินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์และมาเลเชีย ให้ผลตอบแทนไม่ถึง 20% ภาพตรงนี้กำลังบอกว่าเวลาตลาดหุ้นไทย Outperformกว่าภูมิภาคมากๆ หลังจากนั้นมักจะ Underperform (ข้อมูลในอดีต) แต่จะกินเวลาเท่าไร ยังบอกได้ยาก
เราจึงมองว่าระดับดัชนีที่ 1830-1840 จุดจะเป็นกรอบของการต่อสู้ของแรงซื้อและขาย หากไม่ผ่านก็จะปรับลงไปเทรดกันต่ำกว่า 1800 จุด แต่หากทะลุขึ้นได้อีก มากสุดจะอยู่ที่ 1845-1850 จุด ซึ่งเรามองว่าไม่ห่างจากระดับดัชนีในปัจจุบัน นอกจากนั้นหากขึ้นต่อ หุ้นที่จะดันดัชนีจะเป็นตัวเดิมๆในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นขึ้นไปยืนเหนือราคาเป้าเฉลี่ยกลางและบางตัวขึ้นไปที่เป้าสูงสุดของนักวิเคราะห์ จึงทำให้มีแรงขึ้นได้น้อย
ดัชนี SET พยายามที่จะขึ้นไปยืนเหนือ 1830 จุด และมาปิดที่ 1838 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายปานกลาง และขึ้นด้วยหุ้นขนาดกลางและเล็กกำลังสะท้อนให้เห็นว่าหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักเริ่มแผ่ว แต่ด้วยตลาดยังมีโมเมนตัมจึงขึ้นมาในระดับนี้หลังยังไม่เห็นปัจจัยเชิงลบ เรายังมองว่าในช่วงสัปดาห์หน้า ดัชนี SET น่าจะย่อตัวลงมาเพื่อรอลุ้นเหตุการณ์ในสัปดาห์หน้า อย่างผลการดำเนินงาน หุ้นพลังงานใหญ่ (PTTEP) สื่อสาร (DTAC)และปูน (SCC) ส่วนวันนี้มองแนวโน้มดัชนียังซึมขึ้นแต่จะแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ โดยมีแนวต้านที่ 1842-1845 จุดและแนวรับที่ 1832-1828 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร MALEE STEC BTS GLOBAL
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,839.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย34,074.96 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังดัชนีเปิดดีดขึ้นใกล้ระดับ 1848 จุด ตลาดมีแรงซื้อและขายในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มพลังงาน แบงก์ และสื่อสาร ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลบ ขณะที่เงินดอลลาร์ยังอ่อนค่า ส่งผลให้สกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้น ติดตามการประชุม ECB (วันนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย มีโอกาสลดช่วงบวก ภาพรวมทิศทางตลาดในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นตามบรรยากาศการลงทุนที่สดใส จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET index อาจจะอ่อนตัวลงในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากยังคงมีแรงขายทำกำไรอย่างหน่าแน่นออกมา โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ เรามองว่าแนวต้าน 1840 จุด ยังไม่อาจจะผ่านไปได้ง่ายๆ ส่วนการย่อตัวลงมองที่ระดับ 1830 จุด หากหลุดต่ำกว่าจะกดดันให้ SET มีแรงขายออกมาเพิ่มและมีโอกาสจะย่อตัวลงไปที่ระดับ1810-1815 จุดในภายหลัง ระยะสั้นสลับกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวในปี18 แนะนำ TWPC THE EPG
Technical Pick (PM) ...
Thaire Life Assurance (THREL TB; THB 11.60) – ซื้อ
Yuasa Battery (Thailand) (YUASA TB; THB 20.70) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4859
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO4859