- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 January 2018 16:06
- Hits: 4331
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดปรับตัวขึ้นเด่น โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT, PTTEP ในขณะที่หุ้นขนาดกลางบางตัวเริ่มมีแรงซื้อนำโดย SPCG , HMPRO, TASCO, TKN, TTCL และ PRM อย่างไรก็ตามพบแรงขายในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, BCP, SPRC, SPRC, และ ESSO ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,838 จุด (+7.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 6.0 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่สองที่ 232 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long SET50 index future อีก 4,061 สัญญา
Investment theme
จับตา สนช. พิจารณากฎหมายส.ส. : วันนี้จับตาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) มีมติเห็นชอบแก้กฎมาตรา 2 ให้กฎหมายการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ 90 วันภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหากสนช.เห็นชอบ นั่นหมายถึงโอกาสของการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปประมาณ 90 วันเป็นช่วง 1Q62 มีค่อนข้างสูง โดยเราวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วนดังนี้ 1) ผลกระทบต่อตลาดหุ้น ในสายตา นักลงทุนต่างประเทศค่อนข้างจำกัด เพราะนับตั้งแต่วันที่นายกประยุทธ์ประกาศวันเลือกตั้ง (10 ตุลาคม) พบว่านักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิสูงกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท กล่าวคือนักลงทุนต่างประเทศไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม 2) เราคาดผลกระทบคือ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่วางแผนเข้าลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) คาดมีส่วนทำให้ชะลอการตัดสนใจเพื่อรอดูความชัดเจน และ timeline ของการเลือกตั้ง
Investment theme: คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO และคงคำแนะนำทยอยสะสมหุ้นเล็กอย่าง INGRS, ATP30 และหุ้นขนาดกลางอย่าง SPCG
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง -1.071 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -1 ล้านบาร์เรล / สอท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือนธ.ค.เติบโต 11.28% ที่ 95,834 คัน ส่งผลให้ยอดรวมทั้งปีที่ 1.13 ล้านคัน (-4.1%YoY) พร้อมตั้งเป้ายอดผลิตปี 2561 ที่ 2 ล้านคัน เติบโต 2.5% YoY
บทวิเคราห์วันนี้ : SPALI (2018 plan), CPF (คาดกำไรชะลอไปอีก 3 ไตรมาส), SCC (กำไร 4Q60 โตเล็กน้อย ปันผลครึ่งหลัง10.5), Auto (ตัวเลขเดือนธ.ค.ยังเติบโตดีจากปีก่อน), BCP (ผลประกอบการหนุนโดยกำไรสต๊อก)
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดปรับตัวขึ้นเด่น โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT, PTTEP ในขณะที่หุ้นขนาดกลางบางตัวเริ่มมีแรงซื้อนำโดย SPCG , HMPRO, TASCO, TKN, TTCL และ PRM อย่างไรก็ตามพบแรงขายในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP, BCP, SPRC, SPRC, และ ESSO ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,838 จุด (+7.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 6.0 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 7.8 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่สองที่ 232 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long SET50 index future อีก 4,061 สัญญา
Investment theme
จับตา สนช. พิจารณากฎหมายส.ส. : วันนี้จับตาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ภายหลังคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) มีมติเห็นชอบแก้กฎมาตรา 2 ให้กฎหมายการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ 90 วันภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหากสนช.เห็นชอบ นั่นหมายถึงโอกาสของการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปประมาณ 90 วันเป็นช่วง 1Q62 มีค่อนข้างสูง โดยเราวิเคราะห์ออกเป็น 2 ส่วนดังนี้ 1) ผลกระทบต่อตลาดหุ้น ในสายตา นักลงทุนต่างประเทศค่อนข้างจำกัด เพราะนับตั้งแต่วันที่นายกประยุทธ์ประกาศวันเลือกตั้ง (10 ตุลาคม) พบว่านักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิสูงกว่า 4.3 หมื่นล้านบาท กล่าวคือนักลงทุนต่างประเทศไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม 2) เราคาดผลกระทบคือ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่วางแผนเข้าลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) คาดมีส่วนทำให้ชะลอการตัดสนใจเพื่อรอดูความชัดเจน และ timeline ของการเลือกตั้ง
Investment theme: คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO และคงคำแนะนำทยอยสะสมหุ้นเล็กอย่าง INGRS, ATP30 และหุ้นขนาดกลางอย่าง SPCG
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง -1.071 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -1 ล้านบาร์เรล / สอท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือนธ.ค.เติบโต 11.28% ที่ 95,834 คัน ส่งผลให้ยอดรวมทั้งปีที่ 1.13 ล้านคัน (-4.1%YoY) พร้อมตั้งเป้ายอดผลิตปี 2561 ที่ 2 ล้านคัน เติบโต 2.5% YoY
บทวิเคราห์วันนี้ : SPALI (2018 plan), CPF (คาดกำไรชะลอไปอีก 3 ไตรมาส), SCC (กำไร 4Q60 โตเล็กน้อย ปันผลครึ่งหลัง10.5), Auto (ตัวเลขเดือนธ.ค.ยังเติบโตดีจากปีก่อน), BCP (ผลประกอบการหนุนโดยกำไรสต๊อก)
Stock pick : PTTEP
PTTEP : แนะเก็งกำไร (Sensitivity กรอบน้ำมัน 106-126.0 บาท/หุ้น)
คาดกำไรจากการดำเนินงาน 4Q60 ที่ 8,994 ล้านบาท (+122% YoY ,+21.5% QoQ) สูงสุดในรอบปี สนับสนุนจากราคาขายเฉลี่ย (ASP) และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 42.6 เหรียญต่อ BOE (+20% YoY +10% QoQ) ปริมาณขายเพิ่ม 4.0% QoQ เป็น 301 KBOED
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรํฐรายสัปดาห์ ปรับตัวลดลง -1.071 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -1 ล้านบาร์เรล และถือเป็นการลดลง 10 สัปดาห์ติดต่อกัน เป็นจิตวิทยาบวกต่อราคาน้ำมันดิบ
บริษัทมี Upside จาก สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ โดยการปรับขึ้นของทุกๆ 1 เหรียญ จะส่งผลบวกต่อผลประกอบการมากกว่า 5% หรือคิดเป็นราคาเป้าหมาย 2.00 บาท/หุ้น ในขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ประมาณ 1.0x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 1.28x คงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเหมาะสมใหม่ที่ 106.0 บาท/หุ้น พร้อมปันผลประมาณ 3.3%
Trading idea – – เน้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันดิบ ขาขึ้น PTT, PTTEP, PTTGC / ทยอยสะสม INGRS เป้าหมาย 1.50 บาท ภายหลังยอดขายรถยนต์ Perodua ดีเกินคาด / สะสม CPALL คาดกำไร 4Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่
Technical View
PTTEP : แนะเก็งกำไร (Sensitivity กรอบน้ำมัน 106-126.0 บาท/หุ้น)
คาดกำไรจากการดำเนินงาน 4Q60 ที่ 8,994 ล้านบาท (+122% YoY ,+21.5% QoQ) สูงสุดในรอบปี สนับสนุนจากราคาขายเฉลี่ย (ASP) และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 42.6 เหรียญต่อ BOE (+20% YoY +10% QoQ) ปริมาณขายเพิ่ม 4.0% QoQ เป็น 301 KBOED
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรํฐรายสัปดาห์ ปรับตัวลดลง -1.071 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ -1 ล้านบาร์เรล และถือเป็นการลดลง 10 สัปดาห์ติดต่อกัน เป็นจิตวิทยาบวกต่อราคาน้ำมันดิบ
บริษัทมี Upside จาก สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ โดยการปรับขึ้นของทุกๆ 1 เหรียญ จะส่งผลบวกต่อผลประกอบการมากกว่า 5% หรือคิดเป็นราคาเป้าหมาย 2.00 บาท/หุ้น ในขณะที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ประมาณ 1.0x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ 1.28x คงคำแนะนำซื้อด้วยราคาเหมาะสมใหม่ที่ 106.0 บาท/หุ้น พร้อมปันผลประมาณ 3.3%
Trading idea – – เน้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันดิบ ขาขึ้น PTT, PTTEP, PTTGC / ทยอยสะสม INGRS เป้าหมาย 1.50 บาท ภายหลังยอดขายรถยนต์ Perodua ดีเกินคาด / สะสม CPALL คาดกำไร 4Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่
Technical View
Upside เปิด หลัง Break Neckline ของ V-Shape: ดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อของหุ้นกลุ่มพลังงานและสื่อสาร โดยในช่วงบ่ายดัชนีได้ Break Neckline และ All Time High ที่ 1837 ได้ ทำให้ขณะนี้ดัชนีมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นแบบ V-Shape โดย Upside เปิดมากขึ้น และคาดจะแกว่งตัวขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend Channel แนวต้านระยะกลางที่ 1850 และ 1865 ตามลำดับ จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ลงทุนระยะสั้นTrading กรอบ 1830-1850 เน้นรอซื้อเมื่ออ่อนตัวที่แนวรับ, ลงทุนระยะกลาง หากไม่หลุด 1830 ถือหุ้นต่อ 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1830-1850
แนวรับ : 1835, 1830 แนวต้าน : 1845, 1850
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : -
ปัจจัยในประเทศ : จับตาสนช.พิจารณา 25 ม.ค.นี้
หุ้นเทคนิค:
TASCO (B 23.00-23.20, Tp 24.20//25.00, Cut 22.80)
AOT (B 69.00, Tp 72.00, Cut 68.50)
TASCO (B 23.00-23.20, Tp 24.20//25.00, Cut 22.80)
AOT (B 69.00, Tp 72.00, Cut 68.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO4854
Research Department Tel. 02-658-5000
OO4854