- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 January 2018 16:37
- Hits: 6597
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“SET ยืนเหนือ 1820 ได้…ถือ/เลือกซื้อต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ปัจจัยภายใน & ต่างประเทศ : การปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกของ IMF ปี 61-62 เป็น 3.9% (เดิม 3.7%) โดยประเทศที่มีการปรับเพิ่มมาก คือ สหรัฐ (ได้ผลดีจากการปฎิรูปภาษีทรัมป์), ยูโรโซน และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สะท้อนการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าอุปสงค์สินค้า บริการ รวมถึงน้ำมันจะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้เรามองว่าราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการไว้ในปัจจุบัน (บวก 5-6 ดอลลาร์จากปีก่อน) ซึ่งเป็นเรื่องดีกับกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี แต่ก็กดดันต้นทุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มขนส่ง เช่นเดินเรือประจำเส้นทาง (RCL), สายการบิน (AAV, NOK, THAI) กลุ่มซีเมนต์ ซึ่งมีต้นทุนพลังงาน 60% ของทั้งหมด โดยครึ่งหนึ่งเป็นถ่านหินและอีกครึ่งหนึ่งเป็นไฟฟ้า (SCC, SCCC) และทำให้ค่าครองชีพผู้บริโภคสูงขึ้น
สำหรับในประเทศ อยู่ในช่วงเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q60 และประกาศจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งเมื่อวานนี้ราคาหุ้นกลุ่มนิคมฯ ร่วงแรง เพราะ1) มีข่าวกว่ากลุ่มซีพีจะทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC, 2) มีโอกาสที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง และ 3) คาดกำไร AMATA งวด 4Q60 จะอ่อนลง YoY และ QoQ เนื่องจากขายและโอนที่ดินน้อยลง ... แต่เรามองว่าการอ่อนลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสที่การซื้อลงทุน เพราะคาดว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มซีพียังต้องใช้เวลาในการลงทุนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จึงยังไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันในเร็วๆ นี้, ประเมินว่าการเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบการลงทุนในโครงการ EEC เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงในระยะยาว และแม้ว่ายอดขายและยอดโอนที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 จะอ่อนลง แต่ก็กระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไม่มาก และกำไรยังสามารถเติบโตได้เพราะส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทได้รับจากธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 60 เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน คงคำแนะนำซื้อ AMATA ให้ TP 30 บาท และแนะนำซื้อ WHA ให้ TP 5.02 บาท
กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS รอบนี้เลือก 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท) และ 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือเส้น SMA10 แต่ถ้าต่ำกว่าก็ควรลดพอร์ตตามแนวต้าน SET ให้ไว้ที่ 1835-1840, 1850 ถ้าหลุด 1820 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New high ได้แก่ BBL, SCCC, BAY, HMPRO, RS, TRUE ส่วนหุ้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น RCL, KKP, ADVANC, MONO, TU หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ STPI, MEGA, BCH, IVL, MBK, BLA, JMART หุ้นหลุด List คือ WHA, PYLON, AMATA
ปัจจัยต่างประเทศ
IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 61-62 เป็น 3.9%
# กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 และปี 2562 สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.7%
# ปัจจัยหนุนการปรับขึ้น คือ 1. การขยายตัวเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในโลกที่เพิ่มขึ้น, 2. ผลดีจากการปฎิรูปภาษีของทรัมป์
# แต่...เศรษฐกิจโลกมีปัจจัยเสี่ยงจาก 1. ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ภัยคุกคามจากการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ, 2.การคุมเข้มนโยบายการเงินที่เร็วกว่าคาดของสหรัฐและยุโรป
+ ยูโรโซน : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.61 ดีกว่าคาด และสูงสุดในรอบ 17 ปี
# ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. โดยเพิ่มเป็น 1.3 จุด สูงสุดในรอบ 17 ปี จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6 จุด และเพิ่มจาก 0.5 จุดในเดือนธ.ค.60...นำโดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีที่เพิ่มดีเกินคาด
# สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรปเดือนม.ค.61 เพิ่มเป็น 0.4 จุด สูงสุดในรอบ 17 ปี และดีขึ้นมากจากธ.ค. 60 ที่ -0.6 จุด
• ปัจจัยจับตาในช่วงที่เหลือของเดือนม.ค.61
# ยูโรโซน : ECB ประชุม 25 ม.ค.61 คาดจะยังเดินหน้าโครงการ QE ต่อ (ปัจจุบันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน สิ้นสุดก.ย.61) แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งต่อ
# สหรัฐ : FOMC ประชุม 30-31 ม.ค.61 คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ในการประชุมครั้งนี้ เพราะเงินเฟ้อยังไม่ได้สูงมาก และคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อ (ตลาดคาดว่าปี 61 เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นครั้งแรกเดือนมี.ค.61 แต่ประธานเฟด ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีสิทธิโหวต - Hawkish มองว่าสหรัฐอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ก็ได้ถ้าเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้)
# สหรัฐ : วันที่ 26 ม.ค.จะมีรายงานจีดีพีงวด 4Q60 เบื้องต้น ซึ่งตลาดคาดว่าจะเติบโตอ่อนลงเป็น 2.9%YoY จาก 3.2% ใน 3Q60 อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่จีดีพีงวด 4Q60 จะดีกว่าคาดถ้าการใช้จ่ายผู้บริโภคเติบโตมากกว่าที่คาดไว้
+ ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ทำ New high, ตลาดหุ้นยุโรปและอังกฤษปรับขึ้นต่อ
# ดัชนี DJIA ปิด 26,210.81 จุด -3.79 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิด 2,839.13 จุด +6.16 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิด 7,460.29 จุด +52.26 จุด หรือ +0.71% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังยุติการชัตดาวน์ และรัฐบาลสหรัฐมีงบฯใช้ถึง 8 ก.พ.61
# ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก 0.2-0.7% นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนี (DAX) ปัจจัยหนุน คือ ผลประกอบการบจ.ที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่วนดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ (FTSE 100) ปรับขึ้น 0.21% และ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 61 และปี 62 ขึ้น
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อคืนนี้
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 64.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
# การปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกของ IMF ทำให้คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวดีขึ้นด้วยขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐก็ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10
+ ภาวะตลาดทองคำ : บวก 0.4% หลังค่าเงิน US$ อ่อนลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.8 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับ 1,336.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
•/+ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม : ราคาหุ้นร่วงแรง แต่เป็นโอกาสในการซื้อลงทุน
# เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ราคาหุ้น AMATA และ WHA อ่อนตัวลงแรง 5.5% และ 3.2% ตามลำดับ คาดว่าจะมาจาก 1) มีข่าวกว่ากลุ่มซีพีจะทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นบริษัทจีน, 2) มีโอกาสที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และ 3) ยอดขายที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 ต่ำกว่าคาดเพราะลูกค้าเลื่อนไปเป็นปี 61 และอาจจะโอนรับรู้รายได้ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ผลประกอบการ 4Q60 จะอ่อนลง YoY และ QoQ
# อย่างไรก็ดี เรามองว่าการอ่อนลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสที่การซื้อลงทุน เพราะคาดว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มซีพียังต้องใช้เวลาในการลงทุนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จึงยังไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันในเร็วๆ นี้, ประเมินว่าการเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบการลงทุนในโครงการ EEC เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงในระยะยาว และแม้ว่ายอดขายและยอดโอนที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 จะอ่อนลง แต่ก็กระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไม่มาก และกำไรยังสามารถเติบโตได้เพราะส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทได้รับจากธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 60 เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน
# คงคำแนะนำซื้อ AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท (ให้ Discount 20% จากมูลค่า NAV ที่ 37 บาท) และแนะนำซื้อ WHA ราคาพื้นฐาน 5.02 บาท (ให้ Discount 10% จาก NAV ที่ 5.58 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO4821
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ปัจจัยภายใน & ต่างประเทศ : การปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกของ IMF ปี 61-62 เป็น 3.9% (เดิม 3.7%) โดยประเทศที่มีการปรับเพิ่มมาก คือ สหรัฐ (ได้ผลดีจากการปฎิรูปภาษีทรัมป์), ยูโรโซน และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สะท้อนการขยายตัวที่ดีของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าอุปสงค์สินค้า บริการ รวมถึงน้ำมันจะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้เรามองว่าราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการไว้ในปัจจุบัน (บวก 5-6 ดอลลาร์จากปีก่อน) ซึ่งเป็นเรื่องดีกับกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี แต่ก็กดดันต้นทุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มขนส่ง เช่นเดินเรือประจำเส้นทาง (RCL), สายการบิน (AAV, NOK, THAI) กลุ่มซีเมนต์ ซึ่งมีต้นทุนพลังงาน 60% ของทั้งหมด โดยครึ่งหนึ่งเป็นถ่านหินและอีกครึ่งหนึ่งเป็นไฟฟ้า (SCC, SCCC) และทำให้ค่าครองชีพผู้บริโภคสูงขึ้น
สำหรับในประเทศ อยู่ในช่วงเก็งกำไรผลประกอบการ 4Q60 และประกาศจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งเมื่อวานนี้ราคาหุ้นกลุ่มนิคมฯ ร่วงแรง เพราะ1) มีข่าวกว่ากลุ่มซีพีจะทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC, 2) มีโอกาสที่จะเลื่อนการเลือกตั้ง และ 3) คาดกำไร AMATA งวด 4Q60 จะอ่อนลง YoY และ QoQ เนื่องจากขายและโอนที่ดินน้อยลง ... แต่เรามองว่าการอ่อนลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสที่การซื้อลงทุน เพราะคาดว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มซีพียังต้องใช้เวลาในการลงทุนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จึงยังไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันในเร็วๆ นี้, ประเมินว่าการเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบการลงทุนในโครงการ EEC เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงในระยะยาว และแม้ว่ายอดขายและยอดโอนที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 จะอ่อนลง แต่ก็กระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไม่มาก และกำไรยังสามารถเติบโตได้เพราะส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทได้รับจากธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 60 เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน คงคำแนะนำซื้อ AMATA ให้ TP 30 บาท และแนะนำซื้อ WHA ให้ TP 5.02 บาท
กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS รอบนี้เลือก 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท) และ 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือเส้น SMA10 แต่ถ้าต่ำกว่าก็ควรลดพอร์ตตามแนวต้าน SET ให้ไว้ที่ 1835-1840, 1850 ถ้าหลุด 1820 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New high ได้แก่ BBL, SCCC, BAY, HMPRO, RS, TRUE ส่วนหุ้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น RCL, KKP, ADVANC, MONO, TU หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ STPI, MEGA, BCH, IVL, MBK, BLA, JMART หุ้นหลุด List คือ WHA, PYLON, AMATA
ปัจจัยต่างประเทศ
IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกปี 61-62 เป็น 3.9%
# กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2561 และปี 2562 สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.7%
# ปัจจัยหนุนการปรับขึ้น คือ 1. การขยายตัวเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในโลกที่เพิ่มขึ้น, 2. ผลดีจากการปฎิรูปภาษีของทรัมป์
# แต่...เศรษฐกิจโลกมีปัจจัยเสี่ยงจาก 1. ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ภัยคุกคามจากการทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ, 2.การคุมเข้มนโยบายการเงินที่เร็วกว่าคาดของสหรัฐและยุโรป
+ ยูโรโซน : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.61 ดีกว่าคาด และสูงสุดในรอบ 17 ปี
# ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. โดยเพิ่มเป็น 1.3 จุด สูงสุดในรอบ 17 ปี จากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6 จุด และเพิ่มจาก 0.5 จุดในเดือนธ.ค.60...นำโดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีที่เพิ่มดีเกินคาด
# สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรปเดือนม.ค.61 เพิ่มเป็น 0.4 จุด สูงสุดในรอบ 17 ปี และดีขึ้นมากจากธ.ค. 60 ที่ -0.6 จุด
• ปัจจัยจับตาในช่วงที่เหลือของเดือนม.ค.61
# ยูโรโซน : ECB ประชุม 25 ม.ค.61 คาดจะยังเดินหน้าโครงการ QE ต่อ (ปัจจุบันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน สิ้นสุดก.ย.61) แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งต่อ
# สหรัฐ : FOMC ประชุม 30-31 ม.ค.61 คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ในการประชุมครั้งนี้ เพราะเงินเฟ้อยังไม่ได้สูงมาก และคงส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อ (ตลาดคาดว่าปี 61 เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นครั้งแรกเดือนมี.ค.61 แต่ประธานเฟด ซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีสิทธิโหวต - Hawkish มองว่าสหรัฐอาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ก็ได้ถ้าเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้)
# สหรัฐ : วันที่ 26 ม.ค.จะมีรายงานจีดีพีงวด 4Q60 เบื้องต้น ซึ่งตลาดคาดว่าจะเติบโตอ่อนลงเป็น 2.9%YoY จาก 3.2% ใน 3Q60 อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่จีดีพีงวด 4Q60 จะดีกว่าคาดถ้าการใช้จ่ายผู้บริโภคเติบโตมากกว่าที่คาดไว้
+ ภาวะตลาดหุ้น : ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ทำ New high, ตลาดหุ้นยุโรปและอังกฤษปรับขึ้นต่อ
# ดัชนี DJIA ปิด 26,210.81 จุด -3.79 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิด 2,839.13 จุด +6.16 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิด 7,460.29 จุด +52.26 จุด หรือ +0.71% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังยุติการชัตดาวน์ และรัฐบาลสหรัฐมีงบฯใช้ถึง 8 ก.พ.61
# ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก 0.2-0.7% นำโดยตลาดหุ้นเยอรมนี (DAX) ปัจจัยหนุน คือ ผลประกอบการบจ.ที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่วนดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ (FTSE 100) ปรับขึ้น 0.21% และ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 61 และปี 62 ขึ้น
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อคืนนี้
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 64.47 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
# การปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกของ IMF ทำให้คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวดีขึ้นด้วยขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐก็ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10
+ ภาวะตลาดทองคำ : บวก 0.4% หลังค่าเงิน US$ อ่อนลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.8 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับ 1,336.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
•/+ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม : ราคาหุ้นร่วงแรง แต่เป็นโอกาสในการซื้อลงทุน
# เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ราคาหุ้น AMATA และ WHA อ่อนตัวลงแรง 5.5% และ 3.2% ตามลำดับ คาดว่าจะมาจาก 1) มีข่าวกว่ากลุ่มซีพีจะทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นบริษัทจีน, 2) มีโอกาสที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และ 3) ยอดขายที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 ต่ำกว่าคาดเพราะลูกค้าเลื่อนไปเป็นปี 61 และอาจจะโอนรับรู้รายได้ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ผลประกอบการ 4Q60 จะอ่อนลง YoY และ QoQ
# อย่างไรก็ดี เรามองว่าการอ่อนลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสที่การซื้อลงทุน เพราะคาดว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มซีพียังต้องใช้เวลาในการลงทุนระบบสาธารณูปโภคต่างๆ จึงยังไม่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันในเร็วๆ นี้, ประเมินว่าการเลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบการลงทุนในโครงการ EEC เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงในระยะยาว และแม้ว่ายอดขายและยอดโอนที่ดิน AMATA ในงวด 4Q60 จะอ่อนลง แต่ก็กระทบประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไม่มาก และกำไรยังสามารถเติบโตได้เพราะส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทได้รับจากธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 60 เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน
# คงคำแนะนำซื้อ AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท (ให้ Discount 20% จากมูลค่า NAV ที่ 37 บาท) และแนะนำซื้อ WHA ราคาพื้นฐาน 5.02 บาท (ให้ Discount 10% จาก NAV ที่ 5.58 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO4821