- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 January 2018 19:08
- Hits: 17127
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> ANAN, CENTEL, TRUE
Stock S R Comment
ANAN 5.60 5.90 1Q61 แกร่งกว่าเดิม จาก 2 โครงการที่เลื่อนมาโอน
CENTEL 50.50 52.75 มุ่งหน้าขยาย COSI ตามกลุม demand ที่เพิ่มขึ้น
TRUE 6.25 6.50 คาดรายงานกำไรสุทธิครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส จากการขายสินทรัพย์เข้ากอง
No more shutdown (at least in short-term)
Debt ceiling : สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ โดยข้อแลกเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นได้แก่ การที่พรรครีพับลิกันให้สัญญาว่าจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นร่างกฎหมายผู้อพยพก่อนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ มองปัจจัยดังกล่าวทำให้ Sentiment การลงทุนทั่วโลกดีขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐฯ ล่าสุด Bond yield สหรัฐฯเริ่มปรับตัวลงแล้วในเช้าวันนี้
Trade : ไทยประสบภาวะขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขนำเข้า-ส่งออกประจำเดือนธันวาคม พบว่ามูลค่านำเข้าเติบโตสูงถึง 16.6% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 10.7% อย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน มูลค่าการส่งออกกลับเติบโตเพียง 8.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 11.5% อย่างมีนัยสำคัญ
มุมมองของเรา : ดูเหมือนว่า Effect ของเงินบาทที่แข็งค่าจะเริ่มส่งผลให้เห็นบ้างแล้ว โดยการนำเข้าที่สูงขึ้นนี้ เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูงด้วย (นำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงโตถึง 30% ในเดือนธันวาคม) ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าขึ้น คาดอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจขายทำกำไรในตราสารหนี้ระยะสั้นได้ ส่วนสัญญาณหนึ่งที่ดีจากตัวเลขเมื่อวานได้แก่ การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่ยังคงเติบโตด้วยอัตราเร่งต่อเนื่องถึง 15.6% สะท้อนภาวะการบริโภคเอกชนในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง มองกลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่สามารถลงทุนเพื่อเกาะกระแสการเติบโตของอุปสงค์ในประเทศได้ โดยหากวัด Performance ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้นที่ยังคงปรับตัว Laggard กลุ่มอยู่มากที่สุดได้แก่ BJC
BoJ : ติดตามการประชุม BoJ ในวันนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายแต่อย่างใด สำหรับ BoJ ในช่วงหลังเริ่มมีกระแสว่า BoJ อาจเริ่มพิจารณาลดวงเงิน QE ที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ จนทำให้ล่าสุด Bond yield 10 ปีของญี่ปุ่นกระโดดขึ้นสูงกว่าระดับเป้ามาย 0% แล้ว อย่างไรก็ดีเราไม่คิดว่า BoJ จะรีบเปลี่ยนแปลงนโยบายเช่นนั้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังอยู่ต่ำเพียงแค่ 0.9% และเราเชื่อว่าในท้ายที่สุด นายกฯ Shinzo Abe จะเลือกนาย Haruhiko Kuroda ให้ดำรงตำแหน่งประธาน BoJ ต่ออีกสมัยหนึ่ง หลังจากที่จะสิ้นสุดวาระเดิมในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งนาย Kuroda ถือเป็นบุคคลที่มีแนวคิด Dovish เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
กลยุทธ์การลงทุน : SET Index ยังคงไม่ถูกสนับสนุนด้วย Valuation เนื่องจาก EPS ของดัชนียังไม่ถูกปรับเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย มองว่าการลงทุนในภาวะปัจจุบันยังคงจำเป็นที่จะต้อง Selective ต่อไป ซึ่งกลุ่มที่เรายังคงแนะนำได้แก่
1) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีเงินปันผลในระดับน่าสนใจได้แก่ AP, LH, QH, SIRI
2) กลุ่มสื่อสารที่ได้ประโยชน์จากการลดข้อจำกัดต่างๆของภาครัฐ ได้แก่ ADVANC, TRUE
3) หุ้นพื้นฐานดีที่ปีที่แล้วเป็นหนึ่งใน The most laggards จึงมี Downside ที่จำกัด ได้แก่ CK, TU
4) หุ้นกลุ่ม Small cap ที่เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ได้แก่ JMT, PRM
5) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า, ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และ Seasonal effect ของค่าการกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
6) กลุ่มค้าปลีกที่อาจได้อานิสงส์ในระยะสั้นจากประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าฐานรากเป็นสำคัญ ได้แก่ GLOBAL, ROBINS, SINGER, TNP
แนวรับ 1,810 แนวต้าน 1,834
บทวิเคราะห์วันนี้ :
KTB (ถือ ราคาเป้าหมาย 21 บาท) สำรองหนี้ยังเพิ่ม กดดันกำไร 4Q60
Today's Event :
JWD XD 0.15 บาท
MGE XD 0.31 บาท
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO4771