WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

UOBบล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

แกว่งตัวในกรอบ คาดการชัตดาวน์ของสหรัฐฯ กระทบไทยจำกัด
  สภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายได้ทันเที่ยงคืนของวันที่ 20  ม.ค. ทำให้หน่วยงานรัฐบาลไม่ได้รับงบประมาณสำหรับการดำเนินการ และเข้าสู่ภาวะชะงักงัน ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้มาแล้วถึง 17 ครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้น 16 วัน เมื่อ 1-16 ต.ค.56 ในสมัยรัฐบาลโอบามา ซึ่งดัชนีหุ้น Dow Jones ลดลง 2.71% ในช่วงแรก ก่อนฟื้นตัวกลับเกินที่ลงมาหลังสามารถผ่านร่างงบประมาณ ทองคำ รวมถึงหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้น จากการอ่อนค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงดังกล่าว สำหรับรอบนี้เราคาดผลกระทบต่อหุ้นไทยจำกัด เพียงแต่ดัชนีที่อยู่ในที่สูงจากการผลักดันของหุ้นพลังงานในช่วงก่อหน้า ทำให้ตลาดน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1808-1835 จุด โดยหุ้นที่ Underperform ในช่วงก่อนหน้ามีโอกาสจะถูกสลับขึ้นมาผลักดันในช่วงที่หุ้นใหญ่หลายตัวแกว่งลดความร้อนแรง
  Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW* 4) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ BDMS, HTC*, RSP*, MBK*, SCB, SKE*, MONO*
  ภาพรวมกลยุทธ์: คาดดัชนีแกว่งตัวลดความร้อนแรง นักลงทุนควรตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี และรอจุดซื้อรายตัวที่ดีอีกครั้ง นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับและลดขนาดของการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำ PSTC*, COM7*, BCH, AP
แนวรับ 1808 / แนวต้าน : 1825-1830 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
  โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันยังคงชะลอตัวหลังปรับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 70$ ต่อบารร์เรล จากความกังวลของนักลงทุนที่ยังมีต่อแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,125 จุด (-1.23%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.75 เหรียญต่อตัน
  กำไรกลุ่มธนาคารลดลงมากกว่าคาด - ธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง จาก 11 แห่ง ได้เริ่มประกางบการเงินปี 60 ทั้งนี้ ธนาคาร 10 แห่งมีกำไรสุทธิปี 60 รวมอยู่ที่ 168,164 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิรวม 11 แห่ง ของปี 59 อยู่ที่ 199,000 ล้านบาท โดยธนาคาร SCB และ KBANK ลดลงมากที่สุด โดยสาเหตุหลักเนื่องจากการตั้งสำรองเพิ่มเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 9 ในขณะที่ CIMBT, TISCO, BBL กำไรเพิ่มขึ้น 161%, 41.71%, และ 3.8% ตามลำดับ
  ผลประกอบการกลุ่มเหล็ก – ราคาเหล็กในตลาดโลกสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 อาจออกมาชะลอตัวจากปริมาณการใช้ที่ลดลง ดังนั้นการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงใกล้งบ ควรระมัดระวังและเลือกหุ้นที่สามารถมองแนวโน้มระยะยาวถึงการเติบโตได้ อาทิ MILL* (Not rated)
  กลุ่มเกษตร/อาหาร – ยังคงมีแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/60 และ 1/61 ที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากราคาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ชะลอตัว ทั้ง เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ ขณะที่ต้นทุนกากถั่วเหลืองเพิ่มสูงขึ้น ตามราคาพลังงาน ทำให้มุมมองหุ้นในกลุ่มเป็นลบมากขึ้น ขณะที่อาจมีโอกาสเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์อยู่บ้างใน TVO จากแนวโน้มกำไรที่อาจฟื้นตามผลประกอบการ
  PSTC (Not rated) – ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงไม่ได้มีประเด็นลบทางปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่บริษัทเตรียมให้ข้อมูลเพิ่มเติมการเข้าลงทุนไฟฟ้าในต่างประเทศ 100MW (ปัจจุบันมี 46MW และ Spp-hybrid 23MW) เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานระยะกลาง-ยาว และมองการลดลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสซื้อ
  ประเด็นติดตาม: 23 ม.ค. JP – ประชุม BOJ, 24 ม.ค. TH – ดุลการค้าเดือน ธ.ค., 25 ม.ค. EU – ประชุม ECB, 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
นักกลยุทธ์: กิจพณ ไพรไพศาลกิจ
Email: [email protected]
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปราก 
OO4730

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!