- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 January 2018 15:35
- Hits: 8779
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการดี
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับฐานลงไปตามคาดโดยอ่อนตัวตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนจะฟื้นตัวได้ในช่วงบ่ายและปิดบวกได้เล็กน้อย โดยมีกลุ่มแบงก์ที่ปรับลงแรงหลังประกาศงบฯต่ำกว่าตลาดคาด แต่ได้แรงประคองจากกลุ่มพลังงาน สถาบันในประเทศเป็นผู้ขายสุทธิต่อเนื่องถึง 4.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.97 พันลบ. (แต่ Net short ใน Index Futures 331 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : แนวโน้ม SET น่าจะผันผวนตามตลาดเอเชียหลังรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เพราะสภาไม่ผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราว แม้จะไม่ใช่การชัตดาวน์เป็นครั้งแรก แต่นักลงทุนก็ยังสนใจผลประกอบการในบ้านเราโดยเฉพาะ KTB ที่จะรายงานงบฯในวันนี้ รวมถึง SCC และ PTTEP ที่จะประกาศงบฯในสัปาดห์นี้เช่นกัน บรรยากาศการลงทุนจึงน่าจะเป็นการเล่นเก็งกำไรงบฯเป็นรายตัว และ sell on fact เป็นระยะ
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$146ล้าน นำโดยไต้หวัน US$316ล้าน และไทย US$62ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$204ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังวุฒิสภาสหรัฐไม่ผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวส่งผลให้หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลต้องปิดดำเนินงานชั่วคราว
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> M <<
คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ +4% Q-Q, +26% Y-Y อยู่ที่ 677 ลบ. จาก High Season และได้แรงหนุนเพิ่มจากช้อปช่วยชาติ ทำให้ SSSG +5% Y-Y มากสุดตั้งแต่เข้าตลาด อีกทั้ง ยังมีการเปิดสาขาใหม่อีก 13 แห่ง และราคาวัตถุดิบอาหารที่อยู่ในระดับต่ำยังหนุนให้มาร์จิ้นขยายตัวด้วย
คาดกำไรสุทธิปี 2018 +23% Y-Y อยู่ที่ 3.15 พันลบ. จากการเปิดสาขาใหม่อีก 40-50 แห่ง และ SSSG ที่จะบวกได้ต่อเนื่องตามกำลังซื้อ รวมถึงการปรับขึ้นราคาอาหารที่ปีก่อนแทบไม่มีการปรับด้วย
กำไรเติบโตมั่คงจากความสามารถในการทำกำไรที่สูง และให้ปันผลดีสม่ำเสมอ 3-4% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 100 บาท
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการดี
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับฐานลงไปตามคาดโดยอ่อนตัวตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนจะฟื้นตัวได้ในช่วงบ่ายและปิดบวกได้เล็กน้อย โดยมีกลุ่มแบงก์ที่ปรับลงแรงหลังประกาศงบฯต่ำกว่าตลาดคาด แต่ได้แรงประคองจากกลุ่มพลังงาน สถาบันในประเทศเป็นผู้ขายสุทธิต่อเนื่องถึง 4.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.97 พันลบ. (แต่ Net short ใน Index Futures 331 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : แนวโน้ม SET น่าจะผันผวนตามตลาดเอเชียหลังรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เพราะสภาไม่ผ่านร่างกม.งบประมาณชั่วคราว แม้จะไม่ใช่การชัตดาวน์เป็นครั้งแรก แต่นักลงทุนก็ยังสนใจผลประกอบการในบ้านเราโดยเฉพาะ KTB ที่จะรายงานงบฯในวันนี้ รวมถึง SCC และ PTTEP ที่จะประกาศงบฯในสัปาดห์นี้เช่นกัน บรรยากาศการลงทุนจึงน่าจะเป็นการเล่นเก็งกำไรงบฯเป็นรายตัว และ sell on fact เป็นระยะ
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่คาดมีกำไร 4Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$146ล้าน นำโดยไต้หวัน US$316ล้าน และไทย US$62ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$204ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังวุฒิสภาสหรัฐไม่ผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวส่งผลให้หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลต้องปิดดำเนินงานชั่วคราว
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> M <<
คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ +4% Q-Q, +26% Y-Y อยู่ที่ 677 ลบ. จาก High Season และได้แรงหนุนเพิ่มจากช้อปช่วยชาติ ทำให้ SSSG +5% Y-Y มากสุดตั้งแต่เข้าตลาด อีกทั้ง ยังมีการเปิดสาขาใหม่อีก 13 แห่ง และราคาวัตถุดิบอาหารที่อยู่ในระดับต่ำยังหนุนให้มาร์จิ้นขยายตัวด้วย
คาดกำไรสุทธิปี 2018 +23% Y-Y อยู่ที่ 3.15 พันลบ. จากการเปิดสาขาใหม่อีก 40-50 แห่ง และ SSSG ที่จะบวกได้ต่อเนื่องตามกำลังซื้อ รวมถึงการปรับขึ้นราคาอาหารที่ปีก่อนแทบไม่มีการปรับด้วย
กำไรเติบโตมั่คงจากความสามารถในการทำกำไรที่สูง และให้ปันผลดีสม่ำเสมอ 3-4% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 100 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) KBANK แม้ว่ากำไรปี 2017 จะน่าผิดหวังสำหรับเราและตลาด แต่เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4Q17 นั้นจะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และ KBANK กำลังก้าวเข้าสู่วงจรขาขึ้นของเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยไม่มีความกังวลต่อภาระสำรองฯที่เกินปกติอีกต่อไป เราคาดว่าอัตราการตั้งสำรองฯจะลดลงในปี 2018 และจะทำให้กำไรทุกๆไตรมาสในปี 2018 มีการเติบโต Y-Y ตลอดทั้งปี เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 4.08 หมื่นลบ. +18.8%Y-Y คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเหมาะสมที่ 264 บาท
(+) THANI กำไร 4Q17 เป็นไปตามคาดที่ 320 ลบ. +6% Q-Q, +35% Y-Y เกิดจากการเพิ่มขึ้นรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ, การตั้งสำรองฯทั่วไปที่ลดลง กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 1,126 ลบ. +27.8% Y-Y ดีตามคาดโดยเกิดจากรายได้ที่สูงขึ้น ด้านสินเชื่อโตแรง 18% YTD และมีแนวโน้มที่จะเติบโตดีต่อเนื่องในระดับ >10% ในปี 2018 เนื่องจากความต้องการรถบรรทุกสูงขึ้นตามแนวโน้มภาคการขนส่งที่สดใส คงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 1.34 พันลบ. +20% Y-Y และคงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 8.40 บาท ปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็น ขาย
(+) TCAP กำไร 4Q17 ใกล้เคียงกับที่คาดและเป็นอัตราการเติบโตที่ดีที่สุดในกลุ่มแบงก์ที่ 1,935 ลบ. +8.2% Q-Q และ +14.3% Y-Y เนื่องจากมีการบันทึกกำไรจากเงินลงทุน ส่วน PPOP +17% Q-Q, +19%Y-Y เพราะค่าใช้จ่ายที่ลดลง กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 7 พันลบ. +16.4% Y-Y คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 7.15 พันลบ. +2%Y-Y เป็นปีที่ TCAP จะใช้อัตราภาษีจ่ายกลับสู่ 20% ใน 2H18 และเต็มปีในปี 2019 ทำให้คาดกำไรที่ทรงตัวในปี 2018-2019 คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 55 บาท แนะนำขายทำกำไร
(0) KKP รายงานกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 1.3 พันลบ. -24.3% Q-Q, -10% Y-Y น้อยกว่าที่เราคาด เพราะมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์รอการขาย และค่าใช้จ่ายอื่นมากกว่าคาด การตั้งสำรองหนี้สูญฯ -13.8% Q-Q และ -35% Y-Y คิดเป็น 0.14% ของสินเชื่อรวม และทั้งปีมี Credit cost ที่เพียง 0.41% ส่วน NPL Ratio อยู่ที่ 5% จาก 5.6% ใน 3Q17 กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 5,737 ลบ. +3.4%Y-Y เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2018 ที่ 8.79 พันลบ. +14% Y-Y และคงราคาเหมาะสมที่ 85 บาท แนะนำถือ เพื่อรับปันผลงวด 2H17 ราว 4.9%
(+) CMO เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท ในฐานะหุ้น Turnaround ที่ราคายังถูก โดยนอกจากจะเคลื่อนไหวใกล้มูลค่าทางบัญชีแล้ว PE2018 ที่ 12 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 17 เท่า และผลตอบแทนจากปันผลสูงถึง 7% ต่อปี โดยระยะสั้น มีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ 4Q17 ที่คาดพลิกมามีกำไรสุทธิ 37 ลบ. จากขาดทุนสุทธิ 23 ลบ. ใน 3Q17 ส่วนระยะกลาง เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2018 จะสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่ 44 ลบ. +26% Y-Y ขณะที่ การขยายตลาดไปยังงานอีเว้นท์ที่มีความเฉพาะตัว ทำให้เรายังมั่นใจว่า CMO จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในสองอันดับแรกของอุตสาหกรรมได้ต่อเนื่อง
(+) PT กำไรสุทธิ 4Q17 มีแนวโน้มออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิม จากการส่งมอบงานให้กับลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงินได้มากกว่าคาด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 57% Q-Q และ 8% Y-Y อยู่ที่ 73 ลบ. หนุนให้กำไรสุทธิปี 2017 ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าตลาดมา ขณะที่ แนวโน้มปี 2018 คาดโตต่อเนื่อง 10% Y-Y จากการเร่งลงทุนด้านดิจิทัลของกลุ่มสถาบันการเงิน ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 13 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่ม SI ที่ 17 เท่า แถมมีปันผลสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 ม.ค. - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
24 ม.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค. 17) ยอดผลิตรถยนต์ (ธ.ค. 17)
- เกาหลีใต้: 4Q17 GDP คาด 4.5% จากงวดก่อน 3.8%
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค. 17)
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP คาด 3% จากงวดก่อน 3.2%
- จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (ม.ค. 18)
1 ก.พ - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดรับผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกหลังตัวเลขผลประกอบการและเศรษฐกิจออกมาดี
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกลบสลับหลังรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะ Shutdown ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ผ่านมา
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหลังค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.92-31.89 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลงเล็กน้อยจากแรงเทขายของนักลงทุนเพราะกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
(-) ราคาทองคำขยับเพิ่มขึ้นโดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาจากความกังวลหน่วยงานสหรัฐจะถูก Shutdown
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4722
(+) KBANK แม้ว่ากำไรปี 2017 จะน่าผิดหวังสำหรับเราและตลาด แต่เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4Q17 นั้นจะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว และ KBANK กำลังก้าวเข้าสู่วงจรขาขึ้นของเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยไม่มีความกังวลต่อภาระสำรองฯที่เกินปกติอีกต่อไป เราคาดว่าอัตราการตั้งสำรองฯจะลดลงในปี 2018 และจะทำให้กำไรทุกๆไตรมาสในปี 2018 มีการเติบโต Y-Y ตลอดทั้งปี เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 4.08 หมื่นลบ. +18.8%Y-Y คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเหมาะสมที่ 264 บาท
(+) THANI กำไร 4Q17 เป็นไปตามคาดที่ 320 ลบ. +6% Q-Q, +35% Y-Y เกิดจากการเพิ่มขึ้นรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ, การตั้งสำรองฯทั่วไปที่ลดลง กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 1,126 ลบ. +27.8% Y-Y ดีตามคาดโดยเกิดจากรายได้ที่สูงขึ้น ด้านสินเชื่อโตแรง 18% YTD และมีแนวโน้มที่จะเติบโตดีต่อเนื่องในระดับ >10% ในปี 2018 เนื่องจากความต้องการรถบรรทุกสูงขึ้นตามแนวโน้มภาคการขนส่งที่สดใส คงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 1.34 พันลบ. +20% Y-Y และคงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 8.40 บาท ปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็น ขาย
(+) TCAP กำไร 4Q17 ใกล้เคียงกับที่คาดและเป็นอัตราการเติบโตที่ดีที่สุดในกลุ่มแบงก์ที่ 1,935 ลบ. +8.2% Q-Q และ +14.3% Y-Y เนื่องจากมีการบันทึกกำไรจากเงินลงทุน ส่วน PPOP +17% Q-Q, +19%Y-Y เพราะค่าใช้จ่ายที่ลดลง กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 7 พันลบ. +16.4% Y-Y คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 7.15 พันลบ. +2%Y-Y เป็นปีที่ TCAP จะใช้อัตราภาษีจ่ายกลับสู่ 20% ใน 2H18 และเต็มปีในปี 2019 ทำให้คาดกำไรที่ทรงตัวในปี 2018-2019 คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 55 บาท แนะนำขายทำกำไร
(0) KKP รายงานกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 1.3 พันลบ. -24.3% Q-Q, -10% Y-Y น้อยกว่าที่เราคาด เพราะมีผลขาดทุนจากสินทรัพย์รอการขาย และค่าใช้จ่ายอื่นมากกว่าคาด การตั้งสำรองหนี้สูญฯ -13.8% Q-Q และ -35% Y-Y คิดเป็น 0.14% ของสินเชื่อรวม และทั้งปีมี Credit cost ที่เพียง 0.41% ส่วน NPL Ratio อยู่ที่ 5% จาก 5.6% ใน 3Q17 กำไรสุทธิปี 2017 อยู่ที่ 5,737 ลบ. +3.4%Y-Y เราคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2018 ที่ 8.79 พันลบ. +14% Y-Y และคงราคาเหมาะสมที่ 85 บาท แนะนำถือ เพื่อรับปันผลงวด 2H17 ราว 4.9%
(+) CMO เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท ในฐานะหุ้น Turnaround ที่ราคายังถูก โดยนอกจากจะเคลื่อนไหวใกล้มูลค่าทางบัญชีแล้ว PE2018 ที่ 12 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 17 เท่า และผลตอบแทนจากปันผลสูงถึง 7% ต่อปี โดยระยะสั้น มีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ 4Q17 ที่คาดพลิกมามีกำไรสุทธิ 37 ลบ. จากขาดทุนสุทธิ 23 ลบ. ใน 3Q17 ส่วนระยะกลาง เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2018 จะสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่ 44 ลบ. +26% Y-Y ขณะที่ การขยายตลาดไปยังงานอีเว้นท์ที่มีความเฉพาะตัว ทำให้เรายังมั่นใจว่า CMO จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในสองอันดับแรกของอุตสาหกรรมได้ต่อเนื่อง
(+) PT กำไรสุทธิ 4Q17 มีแนวโน้มออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิม จากการส่งมอบงานให้กับลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงินได้มากกว่าคาด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 57% Q-Q และ 8% Y-Y อยู่ที่ 73 ลบ. หนุนให้กำไรสุทธิปี 2017 ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าตลาดมา ขณะที่ แนวโน้มปี 2018 คาดโตต่อเนื่อง 10% Y-Y จากการเร่งลงทุนด้านดิจิทัลของกลุ่มสถาบันการเงิน ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE2018 เพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 13 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่ม SI ที่ 17 เท่า แถมมีปันผลสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 ม.ค. - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
24 ม.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ธ.ค. 17) ยอดผลิตรถยนต์ (ธ.ค. 17)
- เกาหลีใต้: 4Q17 GDP คาด 4.5% จากงวดก่อน 3.8%
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
25 ม.ค.- ยูโรโซน: ประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.00%
- สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค. 17)
26 ม.ค.- สหรัฐฯ: 4Q17 GDP คาด 3% จากงวดก่อน 3.2%
- จีน: Caixin PMI ภาคการผลิต (ม.ค. 18)
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ม.ค. 18) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (ม.ค. 18)
1 ก.พ - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.10%
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดรับผลประกอบการและตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกหลังตัวเลขผลประกอบการและเศรษฐกิจออกมาดี
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้บวกลบสลับหลังรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะ Shutdown ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ผ่านมา
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหลังค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อ ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 31.92-31.89 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบปรับลงเล็กน้อยจากแรงเทขายของนักลงทุนเพราะกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
(-) ราคาทองคำขยับเพิ่มขึ้นโดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาจากความกังวลหน่วยงานสหรัฐจะถูก Shutdown
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO4722