- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 January 2018 18:09
- Hits: 7336
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เพิ่มความระวังหลังเริ่มมีสัญญาณเสี่ยงพักฐานในตลาดตปท. และกลุ่มนำตลาด
ความเสี่ยงต่อความผันผวนและการพักฐานในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าเพิ่มขึ้น หลังมีสัญญาณพักตัวในตลาดต่างประเทศทั้งจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดเงินดิจิตอล ขณะที่หุ้นไทย กลุ่มไฟฟ้าเริ่มปรากฎสัญญาณปรับฐานที่ชัดเจนขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงาน มีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไรเพิ่มขึ้นหลังหุ้นหลักหลายตัวชนแนวต้าน ขณะที่ราคาน้ำมันไม่สามารถผ่านบริเวณ 70 เหรียญฯ/บาร์เรล ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มชะลอการแข็งค่า ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นควรแบ่งทำกำไรและถอืเงินสดเพิ่มบางส่วนเพื่อรอจังหวะซื้อรายตัวที่ดี ที่น่าจะเกิดขึ้นหลังการขายทำกำไร (take profit) โดย downside ของการพักคาดขึ้นอยู่กับการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ว่าจะช่วยประคองดัชนีได้เพียงใด ทั้งนี้ประเมินเป้าหมายเบื้องต้นทางกลยุทธ์ของระดับการเข้าซื้อที่ดัชนีบริเวณ 1760-1780 จุด ภายในต้นกุมภาพันธ์
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ 1) การพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (ครั้งแรกในรอบ 3 ปี) คาดได้ข้อสรุปวันนี้ ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ROBINS, CPALL, TK 2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง มีสัญญาณเก็งกำไรเชิงบวก อาทิ MILL*, CHOW แต่ระวังหุ้นเหล็กหลายตัวอาจมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 ที่อ่อนแอ
Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW*
ภาพรวมกลยุทธ์: นักลงทุนควรแบ่งขายทำกำไร และตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี และรอจุดซื้อรายตัวที่ดีอีกครั้ง นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับและลดขนาดของการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำ MAJOR, STEC, MONO*
แนวรับ 1803 / แนวต้าน : 1830 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
เพิ่มความระวังหลังเริ่มมีสัญญาณเสี่ยงพักฐานในตลาดตปท. และกลุ่มนำตลาด
ความเสี่ยงต่อความผันผวนและการพักฐานในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าเพิ่มขึ้น หลังมีสัญญาณพักตัวในตลาดต่างประเทศทั้งจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดเงินดิจิตอล ขณะที่หุ้นไทย กลุ่มไฟฟ้าเริ่มปรากฎสัญญาณปรับฐานที่ชัดเจนขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงาน มีความเสี่ยงต่อแรงทำกำไรเพิ่มขึ้นหลังหุ้นหลักหลายตัวชนแนวต้าน ขณะที่ราคาน้ำมันไม่สามารถผ่านบริเวณ 70 เหรียญฯ/บาร์เรล ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มชะลอการแข็งค่า ดังนั้นนักลงทุนระยะสั้นควรแบ่งทำกำไรและถอืเงินสดเพิ่มบางส่วนเพื่อรอจังหวะซื้อรายตัวที่ดี ที่น่าจะเกิดขึ้นหลังการขายทำกำไร (take profit) โดย downside ของการพักคาดขึ้นอยู่กับการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้ว่าจะช่วยประคองดัชนีได้เพียงใด ทั้งนี้ประเมินเป้าหมายเบื้องต้นทางกลยุทธ์ของระดับการเข้าซื้อที่ดัชนีบริเวณ 1760-1780 จุด ภายในต้นกุมภาพันธ์
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ 1) การพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (ครั้งแรกในรอบ 3 ปี) คาดได้ข้อสรุปวันนี้ ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น ROBINS, CPALL, TK 2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง มีสัญญาณเก็งกำไรเชิงบวก อาทิ MILL*, CHOW แต่ระวังหุ้นเหล็กหลายตัวอาจมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 ที่อ่อนแอ
Investment Theme เน้น selective buy 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร BANPU PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) หุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ และราคายังมี upside เชิงพื้นฐานที่น่าสนใจ เช่น SCC, BANPU, ROBINS, BJC*, ERW, MAJOR, STEC, CK, BCH, BDMS, PSH, AP, TK, AMANAH 3) EEC และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐาน AMATA*, STEC, EASTW*
ภาพรวมกลยุทธ์: นักลงทุนควรแบ่งขายทำกำไร และตั้งจุดขายรักษากำไร (trailing stop) ในหุ้นที่มี และรอจุดซื้อรายตัวที่ดีอีกครั้ง นักเก็งกำไร เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับและลดขนาดของการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำ MAJOR, STEC, MONO*
แนวรับ 1803 / แนวต้าน : 1830 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ขณะเดียวกันตลาดรอจับตาตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ (ประกาศตัวเลขพรุ่งนี้) / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,221 จุด (-3.4%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.45 เหรียญฯต่อตัน (+0.05%)
ธนาคารกลางนอร์เวย์ถอด PSL TTA ออกจากพอร์ต – ธนาคารกลางนอร์เวย์ (Norge Banks ประกาศถอดหุ้นของบริษัท 9 แห่งออกจากพอร์ตกองทุนบำนาญ (GPFG) โดย PSL TTA เป็น 2 ใน 9 บริษัทที่ถูกพิจารณาถอดออกจากพอร์ตการลงทุนด้วย สาเหตุจากถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ เป็นลบต่อ PSL, TTA
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์มอง GDP ไทยโต 4.3% - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) คาด GDP ไทยปีนี้ขยายตัว 4.3% จากแรงหนุนของภาคการผลิตเพื่อส่งออก ภาคการบริการ และภาคการเกษตร พร้อมระบุ กนง. มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงครึ่งปีหลังนี้
ครม.อนุมัติเพิ่มงบกลางฯ ปี 61 วงเงิน 1.5 แสนลบ. - ครม. มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 61 หรือ งบกลางปีวงเงิน 1.5 แสนลบ. เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนโยบายรัฐ อิงจากเศรษฐกิจปี 62 ที่คาดขยายตัว 3.7-4.7%
เพิ่มยางพาราเป็นสินค้าควบคุมปี 61 - ครม.อนุมัติกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 53 รายการ (จากเดิม 47 รายการ) โดยกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่ม 6 รายการ คือ สบู่ แชมพู น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน ผ้าอ้อม และยางพารา เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จากปัญหาราคายางตกต่ำ
ประเด็นติดตาม: 17 ม.ค. TH – พิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / 18 ม.ค. CN – รายงาน GDP ไตรมาส 4/60 / 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ขณะเดียวกันตลาดรอจับตาตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯประจำสัปดาห์ (ประกาศตัวเลขพรุ่งนี้) / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,221 จุด (-3.4%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 106.45 เหรียญฯต่อตัน (+0.05%)
ธนาคารกลางนอร์เวย์ถอด PSL TTA ออกจากพอร์ต – ธนาคารกลางนอร์เวย์ (Norge Banks ประกาศถอดหุ้นของบริษัท 9 แห่งออกจากพอร์ตกองทุนบำนาญ (GPFG) โดย PSL TTA เป็น 2 ใน 9 บริษัทที่ถูกพิจารณาถอดออกจากพอร์ตการลงทุนด้วย สาเหตุจากถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ เป็นลบต่อ PSL, TTA
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์มอง GDP ไทยโต 4.3% - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย) คาด GDP ไทยปีนี้ขยายตัว 4.3% จากแรงหนุนของภาคการผลิตเพื่อส่งออก ภาคการบริการ และภาคการเกษตร พร้อมระบุ กนง. มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงครึ่งปีหลังนี้
ครม.อนุมัติเพิ่มงบกลางฯ ปี 61 วงเงิน 1.5 แสนลบ. - ครม. มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 61 หรือ งบกลางปีวงเงิน 1.5 แสนลบ. เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานนโยบายรัฐ อิงจากเศรษฐกิจปี 62 ที่คาดขยายตัว 3.7-4.7%
เพิ่มยางพาราเป็นสินค้าควบคุมปี 61 - ครม.อนุมัติกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี 61 เพิ่มขึ้นเป็น 53 รายการ (จากเดิม 47 รายการ) โดยกำหนดสินค้าควบคุมเพิ่ม 6 รายการ คือ สบู่ แชมพู น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน ผ้าอ้อม และยางพารา เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จากปัญหาราคายางตกต่ำ
ประเด็นติดตาม: 17 ม.ค. TH – พิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / 18 ม.ค. CN – รายงาน GDP ไตรมาส 4/60 / 31 ม.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)