- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 January 2018 17:42
- Hits: 2866
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 17-01-18
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบโดยมีแรงขายทำกำไรเด่นในโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนอย่าง EA, GULF, BGRIM, BCPG ในขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มก่อสร้างอย่าง CK, STEC, UNIQ และเกิด Technical rebound ในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, CPN และ HMPRO ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,821 จุด (-0.83 จุด) ด้วย มูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 9.4 หมื่นล้านบาท (มี Biglot M รวมประมาณ 4.2 พันล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 526 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 10,381 สัญญา
Investment theme
Liqudity - Driven : ปัจจุบันเรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยถูกขับเคลื่อนบนสภาพคล่องมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหากนับจากราคาหุ้น ณ.ปัจจุบันพบว่า หุ้นบางกลุ่มเริ่มมี Upside ที่จำกัดนำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทน, กลุ่มธนาคารเหลือ Upside เพียง BBL, TISCO กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเหลือ Upside เพียง PTTGC, BCP, IVL กลุ่มค้าปลีกเหลือ Upside เพียง BJC, HMRPO และสำหรับกลุ่มที่ยังมี Upside ได้แก่ กลุ่มอสังหาที่มี Upside เฉลี่ยประมาณ 8% นำโดย GOLD, SPALI, LPN กลุ่ม ICT ยังมี Upside ใน ADVANC 13%, DTAC 27% และกลุ่มก่อสร้างยังมี Upside เฉลี่ยทั้งกลุ่มประมาณ 23% และหากนับ SET พบว่าปัจจุบันซื้อขายบน PER 18 ประมาณ 16.6 เท่า (ค่าเฉลี่ย MSCI Asia Pac. Ex. Japan ซื้อขายบย PER 18 ประมาณ 14.3 เท่า , TIP ประมาณ 17.4 เท่า) คิดเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ใกล้เคียงระดับ 1.5 S.D. ซึ่งหากนับในเชิงพื้นฐานถือว่าเป็นระดับที่ไม่ถูก แต่อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ เนื่องจากมีปัจจัยเสริมมาช่วยผลักดันตลาดอย่าง Liquidity ส่งผลให้เรามองว่าปัจจุบันตลาดเข้าสู่ภาวะการเก็งกำไรอย่างเต็มตัว
Investment theme: คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ได้ โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – อังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.ที่ 3.0% YoY / BRENT ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 69.1 เหรียญ/บาร์เรล / รัฐบาลมีมติเห็นชอบให้สินค้ายางพาราเป็นสินค้าควบคุม
บทวิเคราะห์วันนี้ CPN, PSH , DRT
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบโดยมีแรงขายทำกำไรเด่นในโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนอย่าง EA, GULF, BGRIM, BCPG ในขณะที่มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มก่อสร้างอย่าง CK, STEC, UNIQ และเกิด Technical rebound ในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, CPN และ HMPRO ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ระดับ 1,821 จุด (-0.83 จุด) ด้วย มูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 9.4 หมื่นล้านบาท (มี Biglot M รวมประมาณ 4.2 พันล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 526 ล้านบาท และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 10,381 สัญญา
Investment theme
Liqudity - Driven : ปัจจุบันเรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยถูกขับเคลื่อนบนสภาพคล่องมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหากนับจากราคาหุ้น ณ.ปัจจุบันพบว่า หุ้นบางกลุ่มเริ่มมี Upside ที่จำกัดนำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทน, กลุ่มธนาคารเหลือ Upside เพียง BBL, TISCO กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเหลือ Upside เพียง PTTGC, BCP, IVL กลุ่มค้าปลีกเหลือ Upside เพียง BJC, HMRPO และสำหรับกลุ่มที่ยังมี Upside ได้แก่ กลุ่มอสังหาที่มี Upside เฉลี่ยประมาณ 8% นำโดย GOLD, SPALI, LPN กลุ่ม ICT ยังมี Upside ใน ADVANC 13%, DTAC 27% และกลุ่มก่อสร้างยังมี Upside เฉลี่ยทั้งกลุ่มประมาณ 23% และหากนับ SET พบว่าปัจจุบันซื้อขายบน PER 18 ประมาณ 16.6 เท่า (ค่าเฉลี่ย MSCI Asia Pac. Ex. Japan ซื้อขายบย PER 18 ประมาณ 14.3 เท่า , TIP ประมาณ 17.4 เท่า) คิดเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ใกล้เคียงระดับ 1.5 S.D. ซึ่งหากนับในเชิงพื้นฐานถือว่าเป็นระดับที่ไม่ถูก แต่อาจปรับตัวขึ้นต่อได้ เนื่องจากมีปัจจัยเสริมมาช่วยผลักดันตลาดอย่าง Liquidity ส่งผลให้เรามองว่าปัจจุบันตลาดเข้าสู่ภาวะการเก็งกำไรอย่างเต็มตัว
Investment theme: คงคำแนะนำ Let profit run ตราบใดที่ SET ยังสามารถเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ได้ โดยเราแนะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเข้ามายังกลุ่มปันผลเช่น PTTGC, LH, SF, TISCO
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – อังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือน ธ.ค.ที่ 3.0% YoY / BRENT ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 69.1 เหรียญ/บาร์เรล / รัฐบาลมีมติเห็นชอบให้สินค้ายางพาราเป็นสินค้าควบคุม
บทวิเคราะห์วันนี้ CPN, PSH , DRT
Stock pick : CPN
CPN : แนะเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 89.0 บาท/หุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุม CEO Forum เมื่อวานที่ผ่านมา โดยผู้บริหารแสดงแผนกลยุทธ์ 5ปี (2561-65) ที่ชัดเจนประกอบด้วยการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง/ปี (พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 38% ใน 5 ปี) ปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม 2-3 แห่ง/ปี และเปิดโครงการที่อยู่อาศัย 3-5 โครงการ/ปี
คาดกำไรปกติ 4Q60 ที่ 2,272 ล้านบาท (+2%YoY , -8%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการเปิด 2 ห้างใหม่ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์เข้า CPNREIT อย่างไรก็ตามคาดรายได้เติบโต +12%QoQ, +12%YoY ที่ 7,900 ล้านบาท จากการปรับเพิ่มค่าเช่า
คาดบริษัทจ่ายปันผลพิเศษประมาณ 0.60 บาท/หุ้น จากการขาย CPNREIT ซึ่งหากรวมกับกำไรจากการดำเนินงาน คาดจ่ายปันผลรวม 1.50 บาท/หุ้น ในขณะที่คาดกำไร 1Q61 เติบโตเด่นต่อเนี่อง จากการรับรู้รายได้การโอนคอนโดที่เชียงใหม่และระยอง และการกลับมาเปิดให้บริการเต็มที่พื้นของห้าง Central world คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสม 89.0 บาท/หุ้น
Trading idea – – ทยอยสะสมกลุ่มอสังหา (AP, LPN) และกลุ่ม Out of home Media (MACO)
Technical View
CPN : แนะเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 89.0 บาท/หุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุม CEO Forum เมื่อวานที่ผ่านมา โดยผู้บริหารแสดงแผนกลยุทธ์ 5ปี (2561-65) ที่ชัดเจนประกอบด้วยการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง/ปี (พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 38% ใน 5 ปี) ปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม 2-3 แห่ง/ปี และเปิดโครงการที่อยู่อาศัย 3-5 โครงการ/ปี
คาดกำไรปกติ 4Q60 ที่ 2,272 ล้านบาท (+2%YoY , -8%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการเปิด 2 ห้างใหม่ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายสินทรัพย์เข้า CPNREIT อย่างไรก็ตามคาดรายได้เติบโต +12%QoQ, +12%YoY ที่ 7,900 ล้านบาท จากการปรับเพิ่มค่าเช่า
คาดบริษัทจ่ายปันผลพิเศษประมาณ 0.60 บาท/หุ้น จากการขาย CPNREIT ซึ่งหากรวมกับกำไรจากการดำเนินงาน คาดจ่ายปันผลรวม 1.50 บาท/หุ้น ในขณะที่คาดกำไร 1Q61 เติบโตเด่นต่อเนี่อง จากการรับรู้รายได้การโอนคอนโดที่เชียงใหม่และระยอง และการกลับมาเปิดให้บริการเต็มที่พื้นของห้าง Central world คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเหมาะสม 89.0 บาท/หุ้น
Trading idea – – ทยอยสะสมกลุ่มอสังหา (AP, LPN) และกลุ่ม Out of home Media (MACO)
Technical View
ระยะสั้นอ่อนตัวไม่ควรหลุด 1815: ดัชนีแกว่งตัว Sideway Down ในกรอบ 1815-1830 จากแรงขายหลักในหุ้นพลังงาน แต่มีแรงซื้อช่วยจากกลุ่มค้าปลีก ทำให้ดัชนียังคงปรับตัวไม่หลุดแนวรับ 1815 ซึ่งถือว่ายังคอนเฟิร์มการ Break Out ในรอบล่าสุด คาดยังคงแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend Channel มองแนวต้านภายในวันที่ 1830 และ 1840 ตามลำดับ จังหวะอ่อนตัวมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) ลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1815-1840, ลงทุนระยะกลางหากไม่หลุด 2) Trading ในกรอบ 1815-1840
แนวรับ : 1819, 1815 แนวต้าน : 1830, 1840
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 17 ม.ค. ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และจีนรายงานตัวเลข GDP และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม /
ปัจจัยในประเทศ : จับตาราคาพืชผลเกษตร (ข้าว, ยางพารา, ปาล์ม) / การรายงานงบการเงินของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์นี้
หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 77.00-78.00, Tp 80.00//83.00, Cut 76.00)
AOT (B 70.00, Tp 73.00, Cut 69.00)
CPALL (B 77.00-78.00, Tp 80.00//83.00, Cut 76.00)
AOT (B 70.00, Tp 73.00, Cut 69.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO4570
Research Department Tel. 02-658-5000
OO4570