- Details
- Category: เพื่อไทย
- Published: Thursday, 12 March 2015 17:25
- Hits: 10441
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8870 ข่าวสดรายวัน
แฉพิรุธ 7 ข้อ จตุพรสงสัยบึ้มศาล ทำไมจึง'ใช้ไลน์สั่งการ'แถมใส่เสื้อแดงก่อเหตุ ตร.จับเพิ่มอีก 1-ร่วมทีม พบเชื่อมโยง 4 คดีปี 57
'จตุพร'ชี้ 7 พิรุธคดี บึ้มศาลอาญา ระบุเป็นระเบิดการเมือง มีความผิดปกติอื้อ ทั้งลอบปาระเบิดวันที่ศาลหยุด จนท.อธิบายถึงการจับได้ทันควัน ชี้ถ้าประกบมาตั้งแต่ต้นทำไมปล่อยให้ก่อเหตุ รวมถึงการถามนำผู้ต้องหา สั่งการผ่านไลน์ โดยคนสั่ง-คนรับจ้างไม่รู้จักกัน ปมมือบึ้มจดเบอร์โทร. 2 บิ๊ก ทั้งที่เล่นไลน์แต่ทำไม ไม่เมมโมรี่เบอร์ไว้ ประเด็นใส่เสื้อสีแดงไปก่อเหตุ-แถลงข่าว ป่วนหวังดึงยูเอ็นเข้ามา ด้านผบช.น.เผยออกหมายจับไปแล้ว 9 อยู่ในการควบคุมของทหาร 6 คน คาด 13 มี.ค. ส่งตัวให้ตร.แจ้งข้อหา-ทำแผน-ฝากขัง
จากกรณีเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยทหารดักซุ่มและจับกุมมือระเบิดได้ทันควัน ประกอบด้วย นายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี ชาวจ.ปทุมธานี และนายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี ชาวยโสธร ก่อนนำตัวมาแถลงให้การอ้างคนชื่อ "เดียร์" สั่งการทางไลน์จากประเทศออสเตรเลีย ต่อมาตำรวจขยายผลออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน เป็นแฟนสาวของผู้ต้องหา 2 คน และผู้ประสาน งานกับผู้จ้างวาน พร้อมออกหมายจับอีก 4 ก่อนตามจับกุมได้เพิ่ม 1 คน รวมตามรวบตัวได้แล้ว 5 คน ขณะที่พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. และผบ.สส. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง อดีตผบช.น. เปิดแถลงยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนพล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. โต้แทนผบ.พล.1 รอ. ไม่ได้ชี้นำมือระเบิด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. กล่าวว่า หลังออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 คน โดยทหารควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วบางส่วน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ รวม ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุปาระเบิดศาลอาญาที่อยู่ในการควบคุมของทหารประมาณ 6-7 คน จากทั้งหมด 9 คน คาดภายในวันที่ 13 มี.ค. ทหารจะส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจที่บช.น. เพื่อดำเนินการสอบสวนตามป.วิอาญา ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการสืบสวนสามารถขยายผลไปถึงใครได้บ้าง พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ถ้าถามตำรวจยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม เพราะทหารยังไม่ได้ส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาให้ แต่ถ้าสอบสวนแล้วไปถึงใครก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามวัตถุพยานจากระเบิดอาร์จีดี-5 ล็อตนัมเบอร์ 57 มีความเชื่อมโยงกับคดีที่เคยเกิดขึ้นในปี 2557 ทั้งหมด 4 คดี
เมื่อถามว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ รับสารภาพอะไรบ้าง พล.ต.ท. ศรีวราห์กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจน เพราะยังไม่ได้นำตัวมาสอบปากคำอย่างเป็นทางการ ในทางปฏิบัติก็รับข้อมูลจากกองทัพ เพื่อไปดำเนินการขอศาลออกหมายจับ ส่วน 2 นายพลที่มีชื่อจากคำให้การของผู้ต้องหานั้น ยังไม่เชิญมาสอบปากคำ เพราะหลักฐานยัง ไม่ชัดเจน ซึ่งต้องประชุมเรื่องนี้อีกครั้ง
ต่อข้อถามว่า การตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของผู้ต้องหาในคดีปาระเบิดหน้าศาลอาญาและคดีที่เคยเกิดขึ้น เพื่อหาความเชื่อมโยงมีความชัดเจนหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า 3 คดีที่เคยเกิดขึ้นมีผู้ต้องหาที่รับสารภาพและคดีอยู่ในชั้นศาล โดยทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกัน เพราะระเบิดอาร์จีดี-5 ล็อตนัมเบอร์ 57 ไม่มีใช้ในราชการตำรวจ ทหาร เป็นอาวุธที่ผลิตในประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ตามมุ่งประเด็นการระเบิดในครั้งนี้ว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อหวังผลทางการเมือง
"ทหารและตำรวจได้วางกำลัง เราเฝ้าสังเกตการณ์ หากมีการลงมือก่อเหตุก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที ส่วนเรื่องแผนป้องกันพื้นที่กทม.ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ ที่ชุมชน ที่สุ่มเสี่ยง หรือที่เชิงสัญลักษณ์ โดยขอยืนยันหากผู้ต้องหาขัดขืนเจ้าหน้าที่หรือยิงต่อสู้ ต้องถูกมาตรการขั้นเด็ดขาด" ผบช.น.กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีปาระเบิดหน้าศาลอาญาแล้ว 9 คน ประกอบด้วย นายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี นายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี น.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง อายุ 57 ปี ภรรยานายมหาหิน น.ส.ธัชพรรณ ปกครอง อายุ 20 ปี ภรรยานายยุทธนา นายวิระศักดิ์ หรือใหญ่ พัทยา โตวังจร อายุ 42 ปี นายณเรศ อินทรโสภา อายุ 32 ปี นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน อายุ 63 ปี นายชาญวิทย์ จริยานุกูล อายุ 61 ปี และนายวิชัย อยู่สุข อายุ 49 ปี ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงได้จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ร.11 รอ. ย่านบางเขน กทม. รวมจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้แล้วทั้งสิ้น 6 คน
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ 13 มี.ค. ทหารได้ประสานมายังคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน นำโดยพล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ว่าจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งให้เจ้าหน้าที่ เพื่อนำตัวมา สอบปากคำและแจ้งข้อหา ก่อนควบคุมตัวไปทำแผนบริเวณหน้าศาลอาญา และนำตัวไปฝากขังศาลทหารในวันที่ 14 มี.ค.
วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "Jatuporn Prompan-จตุพร พรหมพันธุ์" ถึงกรณีเหตุระเบิดหน้าศาลอาญาว่า ใครจะปฏิเสธอะไรก็ช่าง แต่ระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นระเบิดการเมือง โดยมีเป้าประสงค์เป็นเรื่องของอำนาจ แต่จะเป็นการเมืองและอำนาจของใครนั้น แกนนำตามซีกต่างๆ ก็น่าจะพออนุมานกันได้ หากถามว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับในซีกอดีตรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ก็ขอบอกว่ากลุ่มที่มีอำนาจและทำท่าจะเป็นปัญหาถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น ก็จะได้เปลี่ยนความสนใจในเรื่องราวต่างๆ ถ้าพี่น้องได้ติดตามข่าวสารนี้ตั้งแต่ต้นก็จะเห็นถึงความผิดปกติ
นายจตุพร ระบุอีกว่า กรณีของนายมหาหิน ขุนทอง หนึ่งในผู้ต้องหา มีความแปลกประหลาดว่า อะไรที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องไปปาระเบิดเมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่งไม่ใช่เวลาและวันทำการของศาลอาญา และที่มีความพยายามอธิบายเหตุที่จับได้ทันท่วงทีเพราะมีการข่าว มีการประกบกันมาแต่ต้น ที่น่าสงสัยคือ ทำไมชุดที่ติดตาม ชุดที่ประกบ จึงปล่อยให้มีการปาระเบิดเข้าใส่ศาลอาญาก่อน ทุกอย่างไม่ใช่เป็นการบังเอิญ การนำตัวผู้ต้องหามาแสดงตัวก็เป็นลักษณะของการถามนำ
นายจตุพร ระบุต่อว่า วันนี้ใครๆ ก็รู้ดีว่า การสั่งงานผ่านไลน์ ทั้งๆ ที่ไลน์สามารถทิ้งหลักฐานเอาไว้ แถมคนรับจ้างก็รับงานจากคนที่ไม่รู้จักตัว ไม่เห็นหน้าก็ผิดปกติกันอยู่แล้ว และอีกเหตุผลหนึ่งที่อ้างว่าภรรยาของนายมหาหิน ที่อายุ 57 ปีแล้ว เคยไปเป็นการ์ดให้พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. และผบ.สส. มันไม่ทุเรศไปหน่อยหรือ ส่วนเรื่องการมีเบอร์โทรศัพท์ของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น. ซึ่งเปิดคลินิกฝังเข็มในขณะนี้ ใครก็มีเบอร์โทร.ได้ทั้งประเทศไทย ถ้าหลักฐานเพียงแค่ว่ามีรายชื่อ จดเบอร์โทรศัพท์นี่เชยมาก ทั้งๆ ที่อ้างว่าเล่นโลกไซเบอร์มากมาย แต่กลับมีการใช้สมุดจดโทรศัพท์ เมมโมรี่ไม่เป็นหรือครับ
"ผมชอบคำของพล.อ.ประยุทธ์ที่ว่า คนบึ้มโง่ คนจ้างนี่โง่กว่า ผมเห็นด้วยจริงๆครับ และขอต่อให้ด้วยว่า'โง่บัดซบ' จริงๆ ที่มาที่ไปอธิบายอะไรไม่ได้ มีเพียงผู้ก่อการมีความเชื่อทางการเมืองในรูปแบบสหพันธรัฐ และ พยายามผูกโยงไปถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" นายจตุพรระบุ
ประธานนปช. ระบุด้วยว่า ส่วนประเด็นต่อมาที่สร้างความรุนแรงต่อเนื่องทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัด เพื่อให้เกิดภาวะรัฐ ล้มเหลว วุ่นวายไร้ระเบียบ จนกระทั่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต้องเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน ผมขอบอกว่า ยูเอ็น เขาไม่ได้กินแกลบ ขนาดสามจังหวัดชายแดนใต้ที่วุ่นวายอยู่เป็น 10 ปีแล้ว ยูเอ็นเข้ามามั้ย เสียชีวิตร่วม 6,000 ชีวิต บาดเจ็บเป็นหมื่น หมดงบประมาณไปกว่าสามแสนล้านแล้ว แล้วยูเอ็นเข้ามามั้ย เพราะฉะนั้นเหตุผลจึงรับฟังไม่ได้อะไรเลย และที่บอกว่ามีชุดวางแผนก่อเหตุใน กทม. 100 จุด คนโง่ที่สุดยังต้องคิดว่าจะเชื่อได้หรือเปล่า ส่วนตัวผมสงสารเขา เห็นได้ชัดถึงหน้าตาว่า "พูดก็ตาย ไม่พูด ก็ตาย" บวกกับการถามนำเพื่อให้ได้คำตอบที่ตนเองต้องการและความพยายามพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆ ที่ผ่านมาผมจึงพยายามเตือนแกนนำทั้งหลายว่า ให้ระวังการโทร.มาขอเงินและโอนเงินไปช่วย เพราะจะถูกเชื่อมโยงทางการเงิน เป็นการตกเบ็ดให้ติดเหยื่อ
"อีกทั้งการใส่เสื้อแดงไปก่อเหตุ ใส่เสื้อแดงไปแถลงข่าว ที่หากเป็นคนเสื้อแดงปฏิบัติการจริง ต้องเรียกว่า "โง่" ได้ขนาดนี้ นปช.มีจุดยืนชัดเจนว่า เราต่อสู้ในแนวทางสันติเท่านั้น ไม่เอาด้วยกับวิธีรุนแรง เพราะไม่เคยเชื่อว่าแนวทางอื่นจะถูกต้อง ดังนั้นการยืนอยู่กลางแจ้ง ใช้ชีวิตปกติ ถ้าไปทำงานสกปรก ใต้ดิน ผมยืนอยู่กลางแจ้งนี้ไม่ได้ และเรายืนยันมาโดยตลอดว่า เรายืนยันการปกครองในระบอบเดียวเท่านั้น คือ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"ประธานนปช. ระบุ